วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทที่ 296 - หลี่ชิงหยุน


บทที่ 296 - หลี่ชิงหยุน

เนี้ยหลี่ยังคงขายจิตอสูรอัตราการเติบโตระดับพระเจ้าในปริมาณมากขนาดนั้น ยิ่งเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนว่าเขานำจิตอสูรจำนวนมากมายนี้มาจากโลกใบเล็กที่ลึกลับ หรือเขามีอัจฉริยะที่สามารถผลิตจิตอสูรออกมาได้

ในขณะที่เนี้ยหลี่และกลุ่มของเขาง่วนอยู่กับการขายจิตอสูร ได้มีกลุ่มคนเดินมายังทางพวกเขา

ผู้นำของกลุ่มนี้คือชายผู้กล้าหาญ อายุราว ๆ ยี่สิบปี ใบหน้าของเขาแสดงออกด้วยความสง่างาม ในขณะที่เขาก้าวออกมาข้างหน้าด้วยความแข็งกร้าวและผ่าเผย คลื่นพลังและกลิ่นอายเพิ่มขึ้นทันทีที่เขาเดินเข้ามาใกล้นั้นบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเขา

เนี้ยหลี่รู้สึกถึงการปรากฏตัวของชายคนนี้ เขาปรายตามองไปยังชายคนนั้นทันที เมื่อเขาพิจารณาแล้ว เขาจึงรู้ว่าชายคนนี้แข็งแกร่งกว่ามู่หลงหยู่ นอกจากนี้เขายังบ่มเพาะพลังด้วย[เทคนิคเปลวเพลิงมังกรเก้าวิถี]ซึ่งเทคนิคนี้เป็นของตระกูลเถ้าอัคคี เทคนิคนี้ทำให้เขามีกลิ่นอายของเปลวเพลิงมังกรที่มีประสิทธิภาพสูงภายในร่างกายของเขา

ถ้าเขาไม่ได้ปิดกั้นพลังของเขา ชายผู้นี้น่าจะเป็นผู้เชียวชาญระดับลิขิตสวรรค์ ขั้นที่ 8-9

ชายผู้นี้มาจากตระกูลเถ้าอัคคี ดังนั้นผู้ติดตามของเขาย่อมเป็นผู้เชี่ยวชาญของตระกูลด้วยเช่นกัน

ตระกูลเถ้าอัคคีเป็นหนึ่งในสามอำนาจหลักของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ พวกเขามีความเป็นกลางมากในการคงอยู่ และไม่เคยเข้าร่วมการชิงตำแหน่งจ้าวนิกายฯ อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ไม่สามารถมองข้ามได้ จ้าวนิกายฯคนก่อนพยายามที่จะประจบพวกเขา ตระกูลเถ้าอัคคีเป็นตระกูลที่ลึกลับอย่างมาก ในช่วงชีวิตที่แล้วของเนี้ยหลี่ ในช่วงนั้นนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ได้แยกตัวออกจากกันแต่ตระกูลเถ้าอัคคีก็ได้ยืนหยัดเป็นอิสระไม่เข้าร่วมกับนิกายใด

ชายคนนี้มองมาที่เนี้ยหลี่และยิ้มให้เขาพร้อมทั้งกล่าวว่า “ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าขายจิตอสูรที่มีอัตราเติบโตระดับพระเจ้า? ”

“ ใช่แล้ว ” เนี้ยหลี่พยักหน้ารับ เขาพยายามสังเกตุและคาดเดาเจตนาของชายผู้นี้

ชายคนนั้นกล่าวด้วยความมั่นใจ “ เจ้ามีจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าอยู่เท่าใด ข้าจะซื้อพวกมันทั้งหมดและจะจ่ายตามราคาที่เจ้าเสนอมา ”

คิ้วของหลู่เปียวกระตุกเผยให้เห็นใบหน้าที่ตื่นเต้นของเขา ชายคนนี้จะต้องกลายเป็นถุงเงินถุงทองของพวกเขาอย่างแน่นอน หากว่าเขาสามารถซื้อจิตอสูรมากมายขนาดนี้ได้

เนี้ยหลี่ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในขณะที่เขาคาดเดาตัวตนของอีกฝ่าย “ ข้าสงสัยว่า ข้าควรเรียกท่านว่านายน้อย? ”

ชายหนุ่มมองไปที่เนี้ยหลี่ มีรอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏที่มุมปากของเขา “ เจ้าคือเนี้ยหลี่ ข้าเคยได้ยินชื่อของเจ้ามาก่อน เจ้าและหลงยู่หยินเป็นอัจฉริยะของปีนี้ ชื่อของข้าคือหลี่ชิงหยุนจากตระกูลเถ้าอัคคี ”

เนี้ยหลี่นึกถึงชีวิตก่อนหน้าของเขา เขารับรู้ได้ถึงการมีตัวตนของบุคคลดังกล่าว ภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ชายคนนี้ได้เข้าชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลเถ้าอัคคี แต่เขาล้มเหลวในการชิงตำแหน่ง หลังจากนั้นเขาออกจากนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์และถูกบงการโดยเพื่อนที่เป็นอัจฉริยะนอกนิกายของเขา ชื่อเสียงของเขาด้อยกว่ากู่เป่ยและหลงยู่หยิน

ตัวตนของเขายังเป็นที่ถกเถียงอยู่บ้าง เขาไม่สามารถแยกแยะระหว่างความดีความชั่วได้ แม้เขาจะมีมุมมองที่แตกต่างต่อโลก แต่เขาก็ยังคงมีพรรคพวกที่ยินดีที่จะติดตามเขาด้วยความซื่อสัตย์และทุ่มเทเพื่อเขา

ความคิดในเชิงบวกของเขายังคงมีมากและโดดเด่นกว่าเชิงลบ

เนี้ยหลี่กล่าวว่า “ พวกเรายังมีจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าอีก 24 ดวง ”

เมื่อได้ยินคำตอบของเนี้ยหลี่ คิ้วของหลี่ชิงหยุนกระตุกด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คาดเลยว่าเนี้ยหลี่จะคงมีจิตอสูรอีกมากมายเช่นนี้ จากที่เขาขายออกไปจำนวนมากขนาดนั้น สิ่งที่เขาคาดเดาว่าเนี้ยหลี่จะเหลือจิตอสูรอยู่อย่างมากแค่ 5 หรือ 6 ดวงเท่านั้น

หลี่ชิงหยุนยิ้มออกมาอย่างพอใจและกล่าวว่า “ มันไม่สำคัญว่ามีจิตอสูรเท่าใด แต่มันน่าเสียดายว่าในจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าทั้งหมดนั้นไม่มีจิตอสูรสายเลือดมังกร มันคงจะดีกว่านี้หากเจ้ามีจิตอสูรที่มีสายเลือดมังกรที่มีอัตราเติบโตในระดับดีหรือดีเยี่ยม  แม้หลี่ชิงหยุนจะเป็นหนึ่งในสามของผู้สืบทอดของตระกูลเถ้าอัคคีภายใต้ปีกของเขายังมีผู้เชี่ยวชาญนับพัน นอกจากนี้ความมั่งคั่งของเขาก็ยังเป็นที่น่าตกใจอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่มีปัญหาในการจ่ายค่าจิตอสูรทั้งหมดนี้

หลี่ชิงหยุนมีอัจฉริยะจำนวนมากภายใต้ปีกของเขา เขาก็ไม่เคยขี้เหนียวในการใช้จ่ายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มของเขา

หลี่ชิงหยุนกล่าวอย่างภูมิใจว่า “ เมื่อใดก็ตามที่เจ้ามีจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้า เจ้าสามารถติดต่อข้าได้ทันที ไม่ว่าเจ้าจะมีจำนวนเท่าไร ข้าจะซื้อพวกมันทั้งหมด ”

เนี้ยหลี่ไม่รู้หลี่ชิงหยุนกระเป๋าหนักได้อย่างไร เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดที่มีความสามารถสูงเขาน่าจะมีเงินทุนอยู่บ้าง ถ้าหลี่ชิงหยุนต้องการซื้อจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าอย่างมาก ชัดเจนเลยว่าเขาเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจ

หลังจากเนี้ยหลี่เชื่อมโยงเหตุการณ์เข้ากับข่าวในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เขาก็เข้าใจถึงภาพรวมทั้งหมดทันที มันจะมีประโยชน์เป็นอย่างมากหากทำความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนผู้นี้ไว้ !!

หลู่เปียวคำนวนอย่างรวดเร็ว “ จิตอสูร 24 ดวงจิต ทั้งหมดคือ เก้าร้อยหินจิตวิญญาณ ”

“ ได้! ” หลี่ชิงหยุนหยิบหินจิตวิญญาณออกมาเก้าร้อยก้อนและโยนพวกมันไปให้กับหลู่เปียวทันที

ในทางกลับกันเนี้ยหลี่ได้ส่งมอบจิตอสูรทั้งยี่สิบสี่ดวงให้กับหลี่ชิงหยุน

เมื่อหลี่ชิงหยุนได้รับจิตอสูร เขาตบลงบนบ่าของเนี้ยหลี่เบา ๆ และกล่าวว่า “ ข้าชื่นชมเจ้าหากเจ้าสนใจจะเข้าร่วมกับข้า เจ้าสามารถมาหาข้าได้ตลอดเวลา ข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่เป็นไรหากเจ้าไม่สนใจและหากเจ้าได้รับจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้ามาอีก เจ้าสามารถขายให้ข้าได้ตลอดเวลาเช่นกัน ”

เนี้ยหลี่ยิ้มและกล่าวว่า “ ขอบคุณสำหรับความชื่นชมนายน้อยหลี่ หากข้าได้รับจิตอสูรอัตราการเติบโตระดับพระเจ้าอีก ข้าจะไปพบท่านอย่างแน่นอน ”

เนี้ยหลี่ไม่มีความสนใจในการต่อสู้ภายในของตระกูลเถ้าอัคคี ใครจะรู้ว่าหลี่ชิงหยุนอาจจะทำสำเร็จ หรือเขาอาจจะล้มเหลวเหมือนกับในครั้งชีวิตก่อนของเนี้ยหลี่

การดำเนินงานต่าง ๆ ภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์เป็นไปด้วยความมีระเบียบ ผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อนิกายฯเท่านั้น จึงจะสามารถสังเกตุการณ์เห็นการต่อสู้ภายในได้ การต่อสู้ระหว่างตระกูลนั้นยังส่งผลที่รุนแรงออกมาอีกด้วย ดังนั้นความแตกแยกของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ในอีกหนึ่งร้อยปีจึงไม่สามารถคาดเดาได้

เนี้ยหลี่ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาหลี่ชิงหยุนและความตั้งใจเหล่านั้นได้ถูกสะท้อนออกมาผ่านคำพูดของเนี้ยหลี่แล้ว เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่ชิงหยุนไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองเนี้ยหลี่ เขากล่าวออกมาว่า “ เอาล่ะ!! ข้าจะรอฟังข่าวดีจากเจ้า ”

หลี่ชิงหยุนหันไปทางผู้ติดตามของเขา “ ส่งข้อความนี้ไปถึงฮวาหลิง จากนี้ไปข้าจะดูแลเนี้ยหลี่ ให้เขาเก็บมือเอาไว้กับตัวเองให้ดี มิฉะนั้นข้าจะจัดให้สาสมใจเลยทีเดียวเชียวทั้งเขาและคนของเขาด้วย ”

เมื่อเนี้ยหลี่ได้ยินคำของหลี่ชิงหยุน เขาก็ประสานมือในเชิงคาราวะและกล่าวว่า “ ขอบคุณนายน้อยหลี่ ”

ในหัวใจของเนี้ยหลี่เข้าใจอย่างชัดเจนว่า หลี่ชิงหยุนได้ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับตัวเขามาแล้ว ดังนั้นเขาจึงตระหนักดีว่า ฮวาหลิงและฮูหยงสร้างปัญหาให้กับเขา อย่างไรก็ตามหลี่ชิงหยุนได้พูดปัญหาของเขาออกมาเพียงครึ่งเดียว นั่นหมายความว่าตราบใดที่เขาเข้าร่วมหรือให้ความร่วมมือด้วย เขาจึงจะจัดการดูแลปัญหาอื่น ๆ ให้แก่เนี้ยหลี่

“ ข้าไปก่อนล่ะ ” หลี่ชิงหยุนหันมายิ้ม แล้วเขาก็นำกลุ่มของเขาจากไป

พวกเขายืนดูการจากไปของกลุ่มหลี่ชิงหยุนและหันมาสนทนากัน

“ ข้าสงสัยว่านายน้อยหลี่ผู้นี้ มีแผนจะทำอะไรกับจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าจำนวนมากขนาดนั้น ” หลู่เปียวถามขึ้น

“ เจ้าไม่รู้นายน้อยหลี่เป็นคนที่ใจกว้างอย่างมาก สำหรับลูกน้องที่ซื่อสัตย์และทุ่มเทเพื่อเขา ข้าเคยได้ยินมาว่าลูกน้องของเขาทั้งหมดได้รับสิ่งประดิษฐ์ระดับ 3 อีกด้วย เขาอาจจะซื้อจิตอสูรเหล่านั้นให้ลูกน้องของเขาก็เป็นได้ ”

อันที่จริงการเข้าร่วมกลุ่มขนาดใหญ่ต่าง ๆ จะทำให้ได้รับประโยชน์อย่างมากมายโดยเฉพาะการอยู่ภายใต้ผู้นำที่ใจกว้าง

เนี้ยหลี่ขายจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าไปเป็นจำนวนมาก เขาได้รับผลตอบแทนเป็นจำนวนกว่าหนึ่งพันสองร้อยหินจิตวิญญาณ

“ ใช่ ใครจะไปรู้ว่าเจ้าเด็กนั่นจะมีจิตอสูรจำนวนมากขนาดนั้น ”

เหล่านักเรียนรอบข้างต่างอิจฉา หนึ่งพันสองร้อยหินจิตวิญญาณ!! พวกเขาทำได้เพียงชื่นชมในจำนวนหินจิตวิญญาณอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น พวกเขาอาจจะไม่สามารถรวบรวมหินวิญญาณได้มากมายขนาดนั้นถึงพวกเขาจะใช้เวลาหลายปีก็ตาม

นอกเหนือจากเหล่านักเรียนธรรมดา เนี้ยหลี่ยังดึงความสนใจจากคนอื่น ๆ อีกด้วย เมื่อเนี้ยหลี่เริ่มขายจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าได้ไม่นาน ฮวาหลิงและฮูหยง พร้องทั้งลูกน้องก็ได้มาถึง อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รู้ว่า หลี่ชิงหยุนได้พูดคุยกับเนี้ยหลี่ พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เนี้ยหลี่อีก

ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเรื่องที่ว่าเนี้ยหลี่ได้ทำข้อตกลงบางอย่างกับหลี่ชิงหยุน และเขายังสร้างรายได้จากการขายจิตอสูรอัตราการเติบโตระดับพระเจ้าไปกว่าหนึ่งพันสองร้อยหินจิตวิญญาณ

ฮูหยงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เห็นได้ชัดเจนว่าหลี่ชิงหยุนไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขา และยิ่งกราดเกรี้ยวขึ้นเมื่อคิดเกี่ยวกับการบ่มเพาะพลังของเนี้ยหลี่ที่มีหินจิตวิญญาณหนึ่งพันสองร้อยก้อน แต่เขายังไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาให้กับเนี้ยหลี่ เพราะหลี่ชิงหยุนและหนามเหมิน เทียนไห่กับหวังยู่ ก็ได้มาเตือนเขาก่อนหน้านั้นแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าก่อปัญหาใด ๆ ในสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้า

หลังจากฮวาหลิงได้รับข่าวจากลูกน้องของเขา เขาโกรธเป็นอย่างมากเพราะเหมือนกับว่าได้ไปชนตออะไรเข้าอย่างจัง

ฮวาหลิงไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ในขณะที่มีการกลั่นแกล้งเนี้ยหลี่และกลุ่มของเขา แต่เขาเป็นคนที่จัดการได้ง่ายที่สุดและถูกเตือนได้โดยตรง

ฮวาหลิงยิ่งคิดยิ่งโกรธแค้น จนกลายเป็นความเกลียดชังที่มีต่อเนี้ยหลี่และหลี่ชิงหยุน แต่เขาก็ยังไม่กล้าไปตอแยกับหลี่ชิงหยุน เนื่องจากความแข็งแกร่งของเขาและอีกเหตุผลที่ว่าหลี่ชิงหยุนเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดของตระกูลเถ้าอัคคี ในบรรดารุ่นน้องในตระกูลเถ้าอัคคี ยังมีผู้มีอำนาจอยู่อีกมาก

ไม่เพียงแต่เขาไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาต่อหลี่ชิงหยุน เขายังต้องเตรียมของขวัญขอโทษในกรณีดังกล่าวอีกด้วย

สำหรับอนาคตตราบใดที่เนี้ยหลี่และหลี่ชิงหยุนไม่มีการตกลงใด ๆ กัน เขาก็จะไม่กล้ายุ่งเกี่ยวกับเนี้ยหลี่อีก หลังจากที่หลี่ชิงหยุนได้ส่งคำเตือนมาถึงเขาแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรอีกที่จะทำให้เขาล่วงเกินอีกฝ่าย

ในขณะนั้นเนี้ยหลี่และพรรคพวกได้หายไปสักพักใหญ่

เซียวหยูเอ่ยถามขึ้น “ เนี้ยหลี่ เจ้าเอาจิตอสูรที่มีอัตราการเติบโตระดับพระเจ้ามาจากโลกใบเล็กจริงรึ? ” แม้จะเป็นที่นั่นก็ไม่น่าจะมีจิตอสูรอัตราเติบโตระดับเทพเจ้ามากมายขนาดนั้นได้

เนี้ยหลี่กล่าวตอบออกมาว่า “ ในตอนนี้ข้าไม่สามารถบอกเจ้าได้จริง ๆ แต่ข้าจะบอกเจ้าเองในอนาคต ” หม้ออสูรฝันร้ายเป็นความลับที่เนี้ยหลี่ไม่ได้บอกใครแม้แต่คนใกล้ชิดของเขา มันจะดีกว่าถ้าเรื่องนี้ยิ่งรู้น้อยคนยิ่งดี หากข่าวเรื่องนี้รั่วไหลออกไปมันจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับเขาได้

ด้านหลี่ชิงหยุนนั้นมีความสามารถในการซื้อจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าจำนวนมาก และยังคงต้องการเพิ่มอีก เนี้ยหลี่จึงคิดแผนการใหญ่ออกมาได้ทันที

จิตอสูรสายเลือดธรรมดาแต่มีอัตราการเติบโตระดับพระเจ้านั้น ไม่คุ้มค่าในการลงทุนเท่าไร และสิ่งที่คุ้มค่ามากที่สุดคือ จิตอสูรสายเลือดมังกร




จบตอน
แปลไทยโดย
Abhisit Siriroop

วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทที่ 290 - ยิ่งไกลยิ่งดี

บทที่ 290 - ยิ่งไกลยิ่งดี

ภายในใจของเนี้ยหลี่ มันช่างไม่แตกต่างกันเลยระหว่างหลงยู่หยินในตอนนี้กับหญิงสาวที่โหดเหี้ยมในชาติที่แล้ว ถ้าหากพวกเขาไม่ได้อยู่ในสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้า บางทีการต่อสู้ครั้งนี้อาจจะกลายเป็นการต่อสู้ที่แลกด้วยชีวิตและความตายกับหลงยู่หยินทุกคนล้วนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเห็นระหว่างเนี้ยหลี่กับหลงยู่หยิน

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มันง่ายต่อการระเบิดอารมณ์ออกมายิ่งนัก ใครจะไปคิดว่าหลงยู่หยินผู้ซึ่งมีสืบสายเลือดแห่งมังกร จะมีจุดจบด้วยการถูกรังแกอย่างน่าอนาจโดยเนี้ยหลี่ มันกล่าวได้ว่าหลงยู่หยินนางนั้นได้พบคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียมกับนางแล้วในเวลานี้ภาพที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันเป็น....

หลู่เปียวกระพริบตาหลังเขาเห็นท่าทางแปลกๆ สิ่งที่เพิ่งได้เกิดเมื่อกี้นี่มันช่าง เร่าร้อน เกินไปแล้ว(ดุเด็ดเผ็ดมัน) อย่างไรก็ตาม เขาสังเกตเห็นใบหน้าของเนี้ยหลี่ซีดเผือดและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน ด้วยสถานการณ์แบบนี้มันทำให้หลู่เปียวตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว มันเกิดอะไรขึ้นกับเนี้ยหลี่กันแน่ ตั้งแต่ที่หลู่เปียวนั้นได้รู้จักกับเนี้ยหลี่มาก็นานมากแล้ว เขายังไม่เคยเห็นเนี้ยหลี่โกรธขนาดนี้มาก่อน หลู่เปียวนั้นรู้สึกถึงความผิดปกติระหว่างความสัมพันธ์กับพวกเขาทั้งสองคน

เด็กผู้หญิงในชั้นเรียนทั้งหมดต่างสบตากัน พวกเขานั้นไม่เคยคิดเลยว่าหลงยู่หยินจะไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวนางเองเพียงเพื่อต้องการที่จะชนะเนี้ยหลี่ มันเป็นเรื่องคาดไม่ถึงที่ว่าเนี้ยหลี่นั้นแข็งแรงกว่าสัตว์ประหลาดอย่างหลงยู่หยิน

เหอหยินหยินเม้มริมฝีปากและกล่าวไปว่า"หลงยู่หยินนางครอบครองสายเลือดแห่งมังกรที่ทรงพลัง แต่สุดท้ายแล้วนางเองก็แพ้ให้กับพี่เนี้ยหลี่ หวังว่าสิ่งที่นางทำคงไม่ได้จงใจที่จะทำให้พี่ชายเนี้ยหลี่เกิดความสนใจนางนะ?

เหอหยินหยินได้คิดหลายสิ่งหลายอย่างแต่ที่แน่ๆนางจะกลายเป็นสิ่งผิดปกติภายในหัวของหลงยู่หยินแน่ๆ ทำไมนางต้องช่วยเนี้ยหลี่หาทางออกด้วยนะ?หนึ่งในเด็กสาวได้กล่าวด้วยน้ำเสียงครอบงำว่า หยินหยินนางคิดอะไรกับพี่เนี้ยหลี่กันแน่ ความสามารถของเนี้ยหลี่เริ่มมาปรากฎในหัวใจนางที่ละเล็กทีละน้อย

เหอหยินหยินกล่าวอย่างดูถูกว่า "จงลืมมันไปซะ มีหลายคนต่างจับจองพี่เนี้ยหลี่อยู่ มันไม่มีทางเป็นของเจ้า"

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเหอหยินหยินนางก็กล่าวตอบด้วยความโมโหว่า "ใครจะรู้ละ ข้าเองก็ไม่เห็นว่าพี่เนี้ยหลี่จะสนใจเจ้าตรงไหนเลย"

จินแยน มองไปที่เนี้ยหลี่พร้อมกับกำมือแน่น มันช่างเป็นสิ่งที่น่ารำคาญนักในหัวใจเขา ในแง่ของความแข็งแรงทางกายภาพ มันคาดเดาได้ง่ายๆเลยว่าหลงยู่หยินนั้นเหนือกว่าและเนี้ยหลี่จะแพ้นางอย่างแน่นอน แต่ความสามารถนั่นมันเหมือนกับเขาสามารถต่อต้านสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย ไม่น่าแปลกใจเลยที่เนี้ยหลี่นั้นปฏิเสธข้อเสนอของจินแยนก่อนหน้านี้ มันราวกับว่าเขานั้นไม่ได้มีตัวตนในสายตาของเนี้ยหลี่

เพียงแค่หลงยู่หยินคนเดียวก็ทำให้จินแยนนั้นไม่มีความสุขแล้ว(ทำไมสวรรค์ส่งข้าจิวยี่ลงมาเกิด ใยต้องส่งขงเบ้งมาด้วยอ๊ากกกก) แต่เดี๋ยวสิยังมีเนี้ยหลี่เพิ่มมาอีก เขารู้สึกไม่มีความสุขหนักเสียยิ่งกว่าเก่า

หานจิ้งและพรรคพวกที่ยืนอยู่ห่างออกไปต่างตกใจเป็นที่สุด ก่อนหน้านี้เขามีความคิดที่จะกลั่นแกล้งเนี้ยหลี่(ศักรินทร์ดาวร้าย55)แต่ตอนนี้ความคิดเหล่านั้นได้หายไปจากจิตใจของพวกเขา คงไม่มีใครที่จะกล้าไปยั่วยุ(กวนตีน)เนี้ยหลี่อีก ซึ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์มาแต่กำเนิด ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่าถ้ามีการต่อสู้เกิดขึ้นพวกเขาจะไม่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับเนี้ยหลี่อย่างแน่นอน หวังหยางจ้องมองไปยังเนี้ยหลี่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายและความอิจฉา

ผู้อาวุโสฉีมู่ไอเบาๆและกล่าวว่า"พวกเจ้าได้คู่ฝึกซ้อมแล้วก็จงเร่งฝึกฝนด้วยกันเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง การสอนของวันนี้จบลงเพียงเท่านี้ แต่พวกเจ้าควรฝึกฝนต่อไป บทเรียนที่สามจะเริ่มในอีกสามวันข้างหน้า"

ผู้อาวุโสฉีมู่เดินออกไปจากสนามฝึกฝนเนี้ยหลี่ชำเลืองมองไปยังหลู่เปียวกับกู่เป่ยและพูดว่า "ไปกันเถอะ"ขณะที่เนี้ยหลี่กำลังออกไป จู่ๆหลงยู่หยินก็โผล่มาจากด้านข้างพร้อมกับหยุดพวกเขาไว้ "เจ้าจะไปไหนไม่ได้"เนี้ยหลี่มองไปที่นางอย่างเย็นชา อะไรกันผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรจากเขาอีก"ข้าต้องการให้เจ้าอยู่ที่นี่และเจ้าต้องมาฝึกฝนกับข้าต่อ" นางกัดฟันและมองไปที่เนี้ยหลี่อย่างหัวชนฝา(สู้ไม่ยอมถอย) นางต้องการที่จะเป็นคนที่แข็งแรงกว่านี้และนางนั้นก็รู้ว่าเนี้ยหลี่นั้นแข็งแกร่งอย่างมากมันจุดประกายจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในใจนาง

เนี้ยหลี่ได้ชำเลืองมองนางด้วยความเกลียดชัง "ไปให้พ้น ข้าไม่อยากเสียเวลากับเจ้า" ผู้หญิงคนนี้ช่างไม่มีที่สิ้นสุดจิงๆเมื่อเห็นสิ่งที่เนี้ยหลี่ทำ ทุกคนล้วนต่างอยูในความตกตะลึงหลงยู่หยินได้รับความเจ็บช้ำน้ำใจและความอับอายเป็นอันมาก ทำไมนางถึงต้องการให้เนี้ยหลี่มาเป็นคู่ฝึกซ้อมกับนางนะ มันเกิดบ้าอะไรในสมองของนาง รึว่านางกลายเป็นพวกโรคจิตไปแล้ว ขนาดเขาทำให้นางอับอายนางก็ยังเสนอตัวไปให้เขาหรือว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ตกหลุมรักเนี้ยหลี่เข้าให้แล้ว

เหอหยินหยินขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า "หลงยู่หยินทำไมนางถึงหน้าด้านเยี่ยงนี้ พี่เนี้ยหลี่ไม่ต้องการให้เจ้าไปตอแยกับเขา แต่เจ้าก็ยังตามตื้อเขาไม่เลิกอีก"หลงยู่หยินเหลือบมองไปยังเหอหยินหยินพร้อมด่ากลับอย่างเย็นชาว่า "นี่ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า ไปให้พ้น ถ้าเจ้ายังกล้าว่าข้าอีกละก็ ข้าจะโยนเจ้าออกไปเอง"

"เจ้า"ตอนนี้ในใจของเหอหยินหยินนั้นเดือดดาลเป็นอย่างมากพร้อมคิดในใจ "นังผู้หญิงบ้า" อย่างไรก็ตามนางนั้นก็ไม่ได้ตอบโต้หลงยู่หยินและปล่อยวางความแค้นไปก่อนเนี้ยหลี่จ้องมองหลงยู่หยินอย่างเย็นชาพร้อมกล่าวว่า "หลงยู่หยิน เจ้ากำลังมองหาความอัปยศอีกครั้งงั้นเหรอ"

หลงยู่หยินขึงตามองเนี้ยหลี่พร้อมพูดว่า"ก่อนหน้านี้ข้าไม่ได้แพ้และข้าไม่มีทางแพ้ เรามาสู้กันใหม่จนกว่าจะมีผู้ชนะ ถ้าหากเจ้าชนะข้าจะยอมเชื่อฟังเจ้า หากข้าแพ้เป็นหนที่สองอีกจงอย่าเรียกข้าว่าหลงยู่หยิน แต่หากข้าชนะ ข้าขอตีเจ้ากลับ 3 ครั้ง"

เนี้ยหลี่หายใจออกแรงๆทางจมูก"ไปให้พ้น ข้าไม่อยากเสียเวลาโดยไร้ประโยชน์กับคนอย่างเจ้า"เนี้ยหลี่เตรียมเดินออกไป"เจ้าไปไหนไม่ได้" หลงยู่หยินยื่นมือมาขวางเนี้ยหลี่และเตะเขาด้วยขาซ้ายของนางเนี้ยหลี่หลบได้ เขาเริ่มโกรธกับการถูกตามตื้อของผู้หญิงคนนี้

***บูม ...............   บูม................ บูม…..****

การต่อสู้อย่างรุนแรงได้เริ่มขึ้นพร้อมกับการปล่อยหมัดใส่กันของพวกเขาทั้งสอง ความเร็วในการต่อสู้ของเนี้ยหลี่และหลงยู่หยินได้เพิ่มจนถึงขีดสุดแล้วพร้อมกับทิ้งภาพเบลอๆไว้ยังเบื้องหลังพวกเขาทั้งสองเป็นเหมือนถังใส่ดินปืนที่ถูกจุดไฟแล้วระเบิดขึ้นมา เพียงช่วงเวลาสั้นๆพวกเขาทั้งสองก็กลับมาสู้กันอีกครั้ง

ทุกคนล้วนตกตะลึงพร้อมกับการจ้องมองไปยังการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสองคนหลงยู่หยินนางดึงศักยภาพของสายเลือดมังกรออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วของการโจมตีหรือความแข็งแรงทุกอย่างล้วนมากกว่าก่อนหน้านั้นเสียอีก ทุก ๆ การโจมตีมันช่างรุนแรงและแม่นยำ

***………ปังงงง...........***

หลงยู่หยินเน้นโจมตีไปที่หน้าอกของเนี้ยหลี่ เนี้ยหลี่ได้เอาแขนทั้งสองข้างกันไว้ อย่างไรก็ตามด้วยพลังการโจมตีที่รุนแรงนี้ส่งผลให้เนี้ยหลี่กระเด็นไปหลาย 10ก้าว แต่ทว่าหลงยูหยินยังคงไม่หยุดโจมตีนางกระโดดขึ้นตามและโจมตีเนี้ยหลี่อย่างต่อเนื่องการโจมตีของนางเปรียบดั่งพายุโหมกระหน่ำ

กู่เป่ยขมวดคิ้วแต่เขาเองก็ไม่ได้กังวลใจอะไรเกี่ยวกับเนี้ยหลี่ "หลงยู่หยินนางช่างเป็นผู้หญิงที่มุ่งมั่นเกี่ยวกับการต่อสู้ในเส้นทางชีวิตของนางเสียจิงๆ" เขาเตรียมพร้อมจะกระโดดไปช่วยเนี้ยหลี่ทุกเมื่อ หากพบว่าหลงยู่หยินเจตนาจะฆ่าเนี้ยหลี่ ตอนนี้นั้นเขาเองยังไม่ต้องการเปิดเผยระดับพลังของเขา เนี้ยหลี่หลบหลีกการโจมตีดั่งพายุของหลงยู่หยิน ในใจของเขาต่างเต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่มีที่สิ้นสุดเขาอดทนกับมันเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ  แต่ทว่าหลงยู่หยินก็ไม่มีท่าทีจะหยุดมัน

"ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่าหาว่าข้าหยาบคายล่ะ" ตาของเนี้ยหลี่เกิดประกายขึ้น"หากนี่เป็นความต้องการของเจ้า ข้าจะสอนบทเรียนให้เจ้าเอง"เนี้ยหลี่นั้นเขาไม่ได้มีความกลัวเกรงกับบุคคลที่มีพลังระดับเดียวกับเขา หลงยู่หยินส่งพลังไปยังขาของนางและเตะออกไป เมื่อมันจะมาถึงตัวเนี้ยหลี่ ทันใดนั้นเขาก็หลบมันพร้อมกับเกิดภาพลวงตาขึ้น"อะไรกัน"หลงยู่หยินมั่นใจว่าเมื่อกี้นี้นางเตะโดนเนี้ยหลี่แน่ ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ทำไมภาพเขามันก็เบลอ ๆและตัวเนี้ยหลี่ก็หายไป

ต่อมาเนี้ยหลี่ปรากฎตัวขึ้นข้างขวาของหลงยู่หยินพร้อมกับจับขานางไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและจับต้นขาด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เขายกนางขึ้นไปบนอากาศจากนั้นก็โยนนางลงพื้นอย่างไร้ความปราณี (Power Bomb)

***………ตูม……….***

เกิดหลุมขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นในห้องฝึกฝนทันทีหลงยู่หยินรู้สึกมึนงงจากการตกกระแทกลงพื้น อย่างไรก็ตามก่อนที่นางจะตอบโต้ เนี้ยหลี่ก็ยกนางไปบนอากาศอีกครั้งแล้วโยนนางลงมายังอีกส่วนของสนามฝึก

***…….ตูม ....... ตูม ......... ตูม........***

เนี้ยหลี่ทำแบบนี้กับนางไปเรื่อยๆจนดูเหมือนว่าตัวนางนั้นเป็นกระสอบทราย หลังจากที่โยนแบบนี้ไปหลายๆรอบแล้วเขาก็เริ่มเน้นที่จะโจมตีต่อนางมันช่างแตกต่างกันเสียจิงๆ การโจมตีดั่งพายุที่รวดเร็วของหลงยู่หยินมันเต็มไปด้วยข้อบกพร่อง แต่สำหรับการโจมตีของเนี้ยหลี่นั้นเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ เขาคำนวนเอาไว้แล้วว่าหลงยู่หยินไม่สามารถป้องกันการโจมตีของเขาได้

หลงยู่หยินตกมาบนพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างไรก็ตามด้วยเหตุที่นางมีสายเลือดมังกรมันส่งผลให้นางมีร่างกายที่แข็งแรง ถึงแม้ว่าเนี้ยหลี่จะโจมตีนางอย่างไรก็ตามนางก็ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเมื่อเนี้ยหลี่ได้เริ่มโจมตีนางหลงยู่หยินกลับพบว่ามันช่างยากเย็นที่จะตอบโต้กลับไปทุกๆคนล้วนรู้สึกมึนงง

หลังจากหลงยู่หยินนางได้จุดประกายในสายเลือดมังกร มันน่าจะส่งผลให้นางช่วงชิงความได้เปรียบมา แต่ทว่าการโจมตีของเนี้ยหลี่มันไม่เผยให้เห็นวิธีที่จะโต้กลับได้เลย เนี้ยหลี่นั้นเขาควบคุมข้อบกพร่องได้ ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้ชนะ มิหนำซ้ำการโจมตีของเขามันยังทำให้ไม่สามารถป้องกันได้หลงยู่หยินไม่สามารถโต้กลับได้เลยแม้แต่น้อย

ทุกคนที่มองดู มันช่างเหมือนการกระทำที่ทรงอานุภาพและป่าเถื่อนยิ่งนัก หลงยู่หยินถูกโจมตีไปถึงจุดที่นางไม่สามารถตีโต้กลับมาได้แล้วนี่มันคืออะไร....ไม่มีใครเลยที่สามารถหาคำมาอธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้

***………ปังงง.............***

หลงยู่หยินนางตกมาบนพื้น แม้ว่าการโจมตีของเนี้ยหลี่จะไม่สามารถเจาะร่างกายมังกรของนางได้ แต่มันก็ส่งผลให้เกิดความเสียหายหนัก กระดูกทั้งหมดของนางแทบจะแหลกสลายกลายเป็นผง นางมึนงงและจ้องมองไปข้างบน นางพยายามคิดว่าทำไมนางถึงอ่อนแอกว่าเนี้ยหลี่ในแง่ของการแข่งขันครั้งนี้ นางได้พ่ายแพ้เนี้ยหลี่อย่างหมดรูปความรู้สึกพ่ายแพ้ค่อยๆไหลซึมเข้าไปในหัวใจของนางและทำให้น้ำตาจากดวงตาทั้งสองข้างเริ่มไหลริน

นางใช้เวลาหลายปีในการที่จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งการฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง และการเทิดทูนความแข็งแรง วันนี้ความภาคภูมิใจในความแข็งแกร่งนั้นได้หายไปหมดสิ้น ทันใดนั้นนางรู้สึกอยากร้องไห้ดังนั้นมันกลายเป็นว่าการฝึกฝนอย่างหนักและความภาคภูมิใจของนางล้วนกลายเป็นอากาศที่ว่างเปล่า"สวรรค์และโลกนี้ช่างกว้างใหญ่และยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกนับไม่ถ้วนที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา กับความอหังการและหยิ่งผยองของเจ้า หลงยู่หยิน วันนี้ข้าได้สอนบทเรียนเล็กๆน้อยๆให้กับเจ้า จงเก็บมันไว้ในสมองของเจ้า แม้ว่าวันนี้ข้าจะไม่ได้ลงมือเอง แต่สักวันใครบางคนก็จะมาสอนบทเรียนนี้ให้แก่เจ้า" เมื่อพูดจบเนี้ยหลี่ก็หันหลังกลับและเดินออกจากสนามฝึกฝนออกไป

หลงยู่หยินลุกขึ้นนั่ง เอามือเช็ดน้ำตาบนหน้าและกัดริมฝีปาก"คนเราจะต้องทำตามคำสัญญาเมื่อพ่ายแพ้ จากที่ข้าเคยพูดไว้ หลังจากนี้เป็นต้นไปไม่ว่าเจ้าจะขออะไรจากข้า ข้าจะไม่แสดงความไม่พอใจอีกเป็นครั้งที่สอง"เนี้ยหลี่หยุดเดินและพูดว่า"อยู่ให้ห่างจากข้าไว้ยิ่งไกลยิ่งดี"หลังพูดจบเนี้ยหลี่ก็เดินออกไป

ขณะที่เนี้ยหลี่เดินจากไปไกล น้ำตาของหลงยู่หยินก็ได้ไหลออกมาจนนางเห็นเขาเบลอๆ เนี้ยหลี่นั้นไม่ได้ใส่ใจอะไรกับนางเลย ในสายตาของเขานั้นนางมีค่าน้อยกว่าฝุ่นเสียอีก มันเป็นเรื่องที่น่าตลกนางนั้นเป็นเด็กผู้หญิงที่น่าภาคภูมิใจแต่ทว่าในสายตาของเนี้ยหลี่นางนั้นไม่มีค่าอะไรเลย



จบตอน

แปลไทยโดย
Aun Watcharain
Komsan Luangsupapun

บทที่ 289 - เผชิญหน้า!


บทที่ 289 - เผชิญหน้า!

หลงยู่หยินมุ่งเป้าเตะติดต่อกันสามครั้งติด ทำให้ความแข็งแกร่งและพลังของนางลดลงและเผยให้เห็นถึงจุดอ่อน คนเราเมื่อใช้การเตะพวกเขาจะออกแรงผ่านน่องขาและปลายเท้า เนื่องจากคนส่วนใหญ่มักจะฝึกฝนทุกส่วนของร่างกายซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะถูกโจมตีสวนกลับที่ตำแหน่งนี้ดังนั้นโคนขาด้านในจึงเป็นจุดอ่อนอย่างมาก

เนี้ยหลี่เพียงแค่ชกเบาๆ ไปที่โคนขาของหลงยู่หยินแต่ทำให้เหมือนเกิดกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านไปทั่วร่าง เป็นผลให้หลงยู่หยินสูญเสียการควบคุมร่างกายตัวเองและตกลงมาบนพื้น แม้ว่ามันจะเป็นเพียงการชกเบาๆ แต่พลังของมันก็กระทบโดยตรงต่อร่างกายของนาง

หลงยู่หยินส่งเสียงครางในขณะที่นางตกลงไปบนพื้นพร้อมใบหน้าที่ดูเจ็บปวดของนาง อาการปวดและชามาจากโคนขาด้านในของนางทำให้นางไม่สามารถที่จะยืนขึ้นมาได้ นางรู้สึกอับอายที่เนี้ยหลี่ชกถูกนาง แต่นางก็แปลกใจมากว่าเนี้ยหลี่ผู้ซึ่งมีความแข็งแกร่งน้อยกว่านางนั้นสามารถโจมตีนางได้และทำไมนางถึงได้รับความเสียหายมากจากหมัดที่เบาเช่นนั้น? นางครอบครองสายเลือดมังกร! หมัดคนธรรมดาจะไม่สามารถทำนางให้เกิดความเสียหายใด ๆ ได้! อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของเนี้ยหลี่ได้ถูกพิสูจน์แล้ว ซึ่งจิตวิญญาณการต่อสู้ของนางถูกเผาไหม้มากขึ้น นางคือหลงยู่หยิน! นางจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!ทันทีที่นางร่วงลงพื้นไป นางก็ได้ลุกขึ้นยืนอีกครั้งและเตะสบัดไปยังเนี้ยหลี่

เนี้ยหลี่รู้สึกว่าหลงยู่หยินได้ใช้พลังเพิ่มมากขึ้นและมีความโกรธแค้นผสมอยู่ด้วย ผู้หญิงคนนี้นี่จริงๆ เลย ไม่ได้รู้ว่าเมื่อไหร่ควรที่จะหยุด! นางคิดว่าเขาไม่สามารถทำร้ายนางได้เพียงเพราะเขาไม่มีความรุนแรงในการโจมตีหรือ?

ตอนนี้เกือบทุกคนได้หันมาสนใจการต่อสู้ของเนี้ยหลี่และหลงยู่หยินซึ่งหลงยู่หยินเป็นคนที่มีสายเลือดมังกร! คนทั้งหมดที่มองดูแต่เดิมคิดว่า เนี้ยหลี่จะถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว อย่างไรก็ตามในการต่อสู้ครั้งนี้เนี้ยหลี่มีเล่ห์เหลี่ยมในการโจมตีมากกว่า ซึ่งดูเหมือนว่าหลงยู่หยินจะได้รับความเสียหายมาก จากที่เห็นนี้เป็นสิ่งที่น่าตกใจมากเกินไปแล้ว!

ลืมความพ่ายแพ้ของหลงยู่หยินบนกระดานวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ไปได้เลย หญิงสาวผู้นี้เป็นคนที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องความแข็งแรงทางกายภาพมากที่สุด แต่เนี้ยหลี่ก็ยังแข็งแกร่งกว่านางในแง่ที่ว่าอีกหรือ? ความสามารถของเขาข้ามเส้นเขตแดนของสวรรค์ไปแล้ว?ยังคงมีโอกาสให้คนอื่นๆ ได้แข่งขันอีกหรือ?

อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสฉีมู่ได้เห็นว่าร่างกายของเนี้ยหลี่นั้นด้อยกว่าหลงยู่หยินอย่างไรนั้นเนี้ยหลี่ก็ได้ใช้วิถีแห่งเต๋าในการโจมตีหลงยู่หยิน เนี้ยหลี่รู้หลักวิธีการใช้พลังอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ตัวเองบรรลุผลโดยใช้หลัก'อ่อนสยบแข็ง!

การโจมตีของหลงยู่หยินรวดเร็วมากและกดดันเนี้ยหลี่อย่างหนัก ซึ่งหลังจากที่นางเรียนรู้วิธีการป้องกันจากหลักแห่งเต๋าได้ นางก็ปรับตัวและได้รับการโจมตีจากเนี้ยหลี่น้อยลง หลงยู่หยินโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วจนมองตามแทบไม่ทัน ตาของเนี้ยหลี่หรี่ลงเล็กน้อยในขณะที่เขาถอยห่างออกมาโดยที่ไม่ต้องกระทำการใดๆ จนกระทั่งหลงยู่หยินเตรียมเปลี่ยนรูปแบบการจู่โจมทันใดนั้นเนี้ยหลี่ก็เคลื่อนตัวไปด้านขวามือและคว้าขาของหลงยู่หยินไว้ นางพยายามที่จะดึงขากลับแต่นางก็ช้าเกินไปและถูกเนี้ยหลี่จับเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถที่จะดึงขาออกมาได้
"ปล่อยข้า!" หลงยู่หยินกล่าวด้วยความลำบากใจ "ไม่งั้นอย่ามาว่าข้า ถ้าหากข้าโจมตีเจ้าอย่างรุนแรงนะ!"

ตั้งแต่รู้ว่ามันเป็นเพียงการซ้อมต่อสู้ หลงยู่หยินจึงยังไม่ได้ใช้พลังของสายเลือดมังกร เดิมทีนางคิดว่านางสามารถเอาชนะเนี้ยหลี่โดยไม่ต้องใช้พลังของสายเลือดมังกรแต่ความแข็งแกร่งของเขามีมากกว่าที่นางได้จินตนาการเอาไว้ ในตอนนี้ขาของนางถูกเขาจับเอาไว้ได้ นางรู้สึกถึงความพ่ายแพ้เล็กน้อย ซึ่งเขากำลังจับขาของนางอยู่

"ให้ปล่อยเจ้า? ทำไมข้าต้องทำด้วย? ไหนเจ้าเคยบอกว่าเจ้าแข็งแกร่งมากไม่ใช่หรือ? " ความโกรธของเนี้ยหลี่ยังไม่ได้ลดลงเลย ไม่เพียงแต่เขายังไม่ปล่อยนางเท่านั้น เขายังจับขาของหลงยู่หยินยกสูงขึ้น

"ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ! ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน! "ขายาวของหลงยู่หยินถูกยกขึ้นสูงจนมันเกือบจะสัมผัสกับหน้าอกของนาง บังคับให้นางกระโดดถอยหลังออกไป หัวใจของนางหวั่นไหวด้วยความรู้สึกอับอาย เมื่อทุกคนมองไปที่หลงยู่หยินจะเห็นใบหน้าของนางดูซีดจางลง

"หลงยู่หยินเจ้าคิดว่าสายเลือดมังกรของเจ้ามันแข็งแกร่งมากใช่ไหม? มันก็แค่พอใช้ได้! วิชาการต่อสู้ที่เจ้ามีล่ะ?ทำไมเจ้าไม่ใช้พวกมันทั้งหมดออกมาและแสดงให้ข้าเห็นถึงความสามารถทั้งหมดที่เจ้ามี! "เนี้ยหลี่ใช้มือข้างขวาของเขาจับสะกดจุดและยังจับไปที่จุดอ่อนของนางเอาไว้ด้วย นางไม่สามารถกระโดดเพื่อถอยหลังออกไปได้เลย หลงยู่หยินพยายามถอยห่างออกจากเนี้ยหลี่เพราะนางได้อยู่ใกล้กับเนี้ยหลี่มากเกินไปแล้ว ใบหน้าของหลงยู่หยินดูซีดลงและนางได้กัดริมฝีปากของนาง เมื่อนางได้ยินที่เนี้ยหลี่พูด นางพยายามที่จะดึงขาของนางกลับมาอีกครั้งแต่ไม่สามารถทำได้

หลังจากได้ต่อสู้อย่างยาวนานกับหลงยู่หยินไม่ได้ทำให้เนี้ยหลี่รู้สึกใจอ่อนเลยจากชีวิตของเขาก่อนหน้านี้เขาก็ตระหนักดีถึงนิสัยของนางเช่นเดียวกันกับก่อนหน้านี้เมื่อเนี้ยหลี่ได้ออกมาจากพื้นที่ฝึกซ้อมของสนามวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หลงยู่หยินก็ได้ส่งคนจากตระกูลของนางมาจัดการกับเขาผู้หญิงดั่งเช่นหลงยู่หยินจะต้องเจอตาต่อตาฟันต่อฟันเขาจะเอาชนะนางอย่างเด็ดขาดและทำให้นางตกอยู่ในความหวาดกลัว วิธีการที่เขาใช้นั้นจะทำให้นางไม่สามารถเป็นภัยคุกคามต่ออาจารย์ของเขาอีกต่อไป แน่นอนว่าเนี้ยหลี่จะไม่ใจอ่อนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู เขาจะทำให้หลงยู่หยินรู้สึกกลัวและนางจะไม่กล้าที่จะหาเรื่องใครอีกต่อไป!

เนี้ยหลี่ขยับใบหน้าของเขาไปใกล้หูของหลงยู่หยินและหัวเราะอย่างเย็นชา "เจ้าเป็นเพียงขยะที่รู้จักแต่ใช้แต่อิทธิพลของตระกูล ถ้าไม่มีตระกูลคุ้มหัวเจ้าก็ไม่เหลืออะไรเลย! สายเลือดมังกรหรือ? มันเป็นเรื่องตลกมากถ้าเจ้าคิดว่าเจ้าเป็นคนสำคัญ! "

ดวงตาของหลงยู่หยินเต็มไปด้วยน้ำตา เนี้ยหลี่ว่านางต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก นางมองไปที่เขาและคิดว่านางไม่เคยรู้สึกถึงอัปยศมากขนาดนี้มาก่อน

"เนี้ยหลี่ เจ้ามากเกินไปแล้วนะ!" หลงยู่หยินระเบิดพลังออกมาทันที ด้วยพลังที่แข็งแกร่งนางยกขาอีกข้างขึ้นและรัดลงบนคอของเนี้ยหลี่นาง พลิกตัว360องศา ของนางทำให้นางอ้อมมาล็อคคอด้านหลังของเนี้ยหลี่

ทำให้เนี้ยหลี่ถึงกับหงายหลังลงมากองอยู่บนพื้น

เนี้ยหลี่ไม่คิดว่าหลวงยู่หยินจะสามารถเรียกพลังออกมาได้อีก

เขาตั้งใจจะหลุดออกจากการถูกขาของนางรัดไว้

แต่มันก้อสายเกินไป

ทางเดียวที่เหลือคือโต้กลับ!

ปั้งงงงงงงงงงงงง!!

เนี้ยหลี่ยตกลงมากระแทกกับพื้นอย่างจัง และคอของเข้าก้อยังคงอยู่ในวงขาอันเรียวงามของนาง เขาจึงผลิกตัวเข้าหานางและคว้าคอของหลงยู่หยินไว้

พวกเขาทั้งสองได้อยู่ในตำแหน่งที่แปลกมาก

ขาทั้งสองของหลงยู่หยินรัดคอของเนี้ยหลี่เอาไว้ เมื่อมองไปจะเห็นได้ว่า
หน้าของเนี้ยหลี่แนบสัมผัสกับเรือนร่างของหลงอยู่หยิน

และลำคอของนางก้อถูกจับด้วยมือของเนี้ยหลี่  คนอื่นๆ มองแล้วมันเป็นการแลกเปลี่ยนที่โง่มาก

หลู่เปียวและกู่เป่ยก็ตะลึงเช่นกัน พวกเขาสองคนกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย? มันไม่ช่ายย พวกเขาตั้งใจจะทำอะไรกานนน ......ผู้หญิงคนอื่น ๆ ในห้องกรีดร้องอย่างเขินอายด้วยใบหน้าที่เป็นสีแดง เนี้ยหลี่และหลงอยู่หยินกำลังอยู่ในท่าที่ชวนให้คิดลึกจริงๆ ...

เนี้ยหลี่พูดอย่างเย็นชาพร้อมกับเพิ่มแรงในมือขวาของเขาอย่างช้า ๆ เพื่อออกแรงบีบคอของหลงยู่หยิน"ปล่อยข้าซะ มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า!"

ใบหน้าของหลงยู่หยินอ่อนลงเล็กน้อยแต่นางก็ไม่ยอมแพ้ นางยังคงจ้องมองเนี้ยหลี่พร้อมทั้งน้ำตาที่เอ่อล้นมาจากดวงตาของนาง "ข้าจะพาเจ้าไปกับข้าด้วย!"

เนี้ยหลี่คำรามและสาปแช่งอย่างเย็นชาว่า "เจ้าเสียสติไปแล้ว! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! "เขาเกลียดหลงยู่หยินที่ชอบมารังควาญเขา ถึงเขาจะไม่ได้ใส่ใจในความแค้นของชาติก่อนแล้ว แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ได้มายุ่งกับเขาอีกครั้งและยังสร้างปัญหาให้กับเขาอีกมากมาย ทำให้เขาค่อนข้างโกรธ

เนี้ยหลี่รู้สึกว่าเริ่มหายใจไม่ออกเพราะถูกหลงยู่หยินรัดเอาไว้ด้วยต้นขาของนางทำให้เขาต้องบีบคอนางแรงขึ้น"ปล่อยซะ!" เนี้ยหลี่คำราม เขาไม่ได้อยากจะตายพร้อมหญิงเสียสติผู้นี้ นอกจากนี้เขายังไม่สามารถฆ่าหลงยู่หยินได้ในตอนนี้ เพราะตอนนี้เขายังอ่อนแอเกินกว่าที่จะเผชิญหน้ากับตระกูลตราประทับมังกร

ใบหน้าของหลงยู่หยินซีดลงขณะที่นางไอหนักขึ้น ในที่สุดนางก็ลดความโกรธลงและเริ่มที่จะลดแรงระหว่างขาของนาง "เจ้าต้องปล่อยมือของเจ้าก่อน!" เนี้ยหลี่เอามือซ้ายของเขาตีก้นหลงยู่หยินด้วยเสียงดังฟังชัด "ถ้าเจ้าไม่ยอมปล่อยก็อย่ามาหาว่าข้าหยาบคายล่ะกัน!"

หลงยู่หยินหยุดชั่วขณะนางรู้สึกเจ็บปวดที่ด้านหลังของนาง ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงและแผดเสียงลั่นออกมา "เนี้ยหลี่ เจ้ากล้าที่จะฉีกหน้าข้า!"

"ฉีกหน้าเจ้า? ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ถ้าเจ้าไม่ปล่อย เจ้าสามารถเชื่อได้เลยว่าข้าจะฉีกเสื้อผ้าของเจ้าออกเป็นชิ้นๆ และให้ทุกคนได้ดูของดี?! "เนี้ยหลี่คำรามอย่างเย็นชา

"เจ้า... " เสียงสั่นของหลงยู่หยินเมื่อได้ยินคำพูดที่เย็นชาจากเนี้ยหลี่ นางกลัวถ้าหากว่าเนี้ยหลี่ได้ทำมันจริงๆ มันจะทำให้นางไม่กล้าพบหน้ากับคนอื่นๆ อีกได้เลยในชีวิตนี้ นางอาจจะฆ่าตัวตายถ้าเขาจะทำอย่างนั้นกับนาง ในที่สุดนางก็ได้คลายขาของนางที่รัดรอบคอเนี้ยหลี่ไว้และปล่อยให้เขาไป เนี้ยหลี่ได้ดึงมือของเขาออกและไอออกมาเบาๆ นอกจากนี้เขายังไม่ต้องการที่จะเสียเวลามายุ่งเกี่ยวกับนางอีก

ขณะที่เนี้ยหลี่ปล่อยมือของเขาออกจากหลงยู่หยินจู่ ๆ นางก็กระโดดเตะเข้าใส่หน้าอกของเขา ซึ่งเนี้ยหลี่ไม่ทันที่จะป้องกันลูกเตะที่ถูกเตะมายังเขาได้และแรงเตะได้ส่งเขากระเด็นไปกระแทกเกราะป้องกันอย่างแรง เนี้ยหลี่ได้รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดที่อยู่ในลำคอและเกือบจะกระอักเ​​ลือดออกมา เนี้ยหลี่ไม่คิดว่าหลงยู่หยินจะลอบกัดเขา!

"เจ้าสมควรโดนแล้ว!" ดวงตาของหลงยู่หยินยังเต็มไปด้วยคราบน้ำตานางได้รับความอับอายจากเนี้ยหลี่ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากนางเกลียดเขามากที่สุด

พลังและเลือดได้โหมกระหน่ำในร่างกายของเนี้ยหลี่ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นไปมองที่หลงยู่หยินการแสดงออกของเขาดูเหมือนน้ำแข็งที่ไร้อารมณ์โดยสิ้นเชิง อันที่จริงเขาไม่ควรทำเล่นๆ กับคนอย่างหลงยู่หยิน! เมื่อคิดว่าไม่มีอะไร ก็จะถูกผู้หญิงเอาคืนกลับอย่างรุนแรง!

หัวใจของหลงยู่หยินสั่นกลัวเมื่อนางเห็นว่าท่าทางของเนี้ยหลี่เป็นดั่งเหมือนก้อนน้ำแข็งและมองนางเหมือนซากศพ นางรู้แล้วว่านางคิดผิดที่เตะเขาเมื่อเขาได้ปล่อยตัวนางอย่างไรก็ตามเนี้ยหลี่ได้รังแกนางก่อนแล้วทำไมนางจะเอาคืนบ้างไม่ได้? หลงยู่หยินกำหมัดของนางแน่นทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ฝึกฝนของสนามวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และเรื่องในวันนี้เป็นความอับอายอย่างที่สุดในชีวิตของนาง!แต่ก็ดูเหมือนตอนนี้นางได้เอาคืนทั้งหมดแล้ว!

เนี้ยหลี่จับหน้าอกของเขาในขณะที่เขาลุกขึ้นยืนและมีประกายภายในดวงตาของเขา เกราะป้องกันได้ถูกยกเลิก เนี้ยหลี่เดินผ่านหลงยู่หยินและไม่ได้มองไปที่นางเลย เนี้ยหลี่เดินตรงไปหาหลู่เปียวและกู่เป่ยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เนี้ยหลี่ไม่เหลือความสนใจใดๆ กับหลงยู่หยินอีกแล้ว!

หลงยู่หยินเปิดปากของนาง นางอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับเนี้ยหลี่ แต่ในท้ายที่สุดนางก็ได้แต่กลืนคำพูดของนางกลับลงไป นางไม่รู้ว่าทำไมแต่นางรู้สึกกลัวกับสิ่งที่เนี้ยหลี่แสดงออกมา



จบตอน

แปลไทยโดย Komsan Luangsupapun