บทที่ 296 - หลี่ชิงหยุน
เนี้ยหลี่ยังคงขายจิตอสูรอัตราการเติบโตระดับพระเจ้าในปริมาณมากขนาดนั้น
ยิ่งเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนว่าเขานำจิตอสูรจำนวนมากมายนี้มาจากโลกใบเล็กที่ลึกลับ
หรือเขามีอัจฉริยะที่สามารถผลิตจิตอสูรออกมาได้
ในขณะที่เนี้ยหลี่และกลุ่มของเขาง่วนอยู่กับการขายจิตอสูร
ได้มีกลุ่มคนเดินมายังทางพวกเขา
ผู้นำของกลุ่มนี้คือชายผู้กล้าหาญ อายุราว ๆ ยี่สิบปี
ใบหน้าของเขาแสดงออกด้วยความสง่างาม
ในขณะที่เขาก้าวออกมาข้างหน้าด้วยความแข็งกร้าวและผ่าเผย
คลื่นพลังและกลิ่นอายเพิ่มขึ้นทันทีที่เขาเดินเข้ามาใกล้นั้นบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเขา
เนี้ยหลี่รู้สึกถึงการปรากฏตัวของชายคนนี้
เขาปรายตามองไปยังชายคนนั้นทันที เมื่อเขาพิจารณาแล้ว
เขาจึงรู้ว่าชายคนนี้แข็งแกร่งกว่ามู่หลงหยู่
นอกจากนี้เขายังบ่มเพาะพลังด้วย[เทคนิคเปลวเพลิงมังกรเก้าวิถี]ซึ่งเทคนิคนี้เป็นของตระกูลเถ้าอัคคี
เทคนิคนี้ทำให้เขามีกลิ่นอายของเปลวเพลิงมังกรที่มีประสิทธิภาพสูงภายในร่างกายของเขา
ถ้าเขาไม่ได้ปิดกั้นพลังของเขา
ชายผู้นี้น่าจะเป็นผู้เชียวชาญระดับลิขิตสวรรค์ ขั้นที่ 8-9
ชายผู้นี้มาจากตระกูลเถ้าอัคคี
ดังนั้นผู้ติดตามของเขาย่อมเป็นผู้เชี่ยวชาญของตระกูลด้วยเช่นกัน
ตระกูลเถ้าอัคคีเป็นหนึ่งในสามอำนาจหลักของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
พวกเขามีความเป็นกลางมากในการคงอยู่ และไม่เคยเข้าร่วมการชิงตำแหน่งจ้าวนิกายฯ
อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ไม่สามารถมองข้ามได้
จ้าวนิกายฯคนก่อนพยายามที่จะประจบพวกเขา ตระกูลเถ้าอัคคีเป็นตระกูลที่ลึกลับอย่างมาก
ในช่วงชีวิตที่แล้วของเนี้ยหลี่
ในช่วงนั้นนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ได้แยกตัวออกจากกันแต่ตระกูลเถ้าอัคคีก็ได้ยืนหยัดเป็นอิสระไม่เข้าร่วมกับนิกายใด
ชายคนนี้มองมาที่เนี้ยหลี่และยิ้มให้เขาพร้อมทั้งกล่าวว่า “ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าขายจิตอสูรที่มีอัตราเติบโตระดับพระเจ้า?
”
“ ใช่แล้ว ” เนี้ยหลี่พยักหน้ารับ
เขาพยายามสังเกตุและคาดเดาเจตนาของชายผู้นี้
ชายคนนั้นกล่าวด้วยความมั่นใจ “ เจ้ามีจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าอยู่เท่าใด
ข้าจะซื้อพวกมันทั้งหมดและจะจ่ายตามราคาที่เจ้าเสนอมา ”
คิ้วของหลู่เปียวกระตุกเผยให้เห็นใบหน้าที่ตื่นเต้นของเขา
ชายคนนี้จะต้องกลายเป็นถุงเงินถุงทองของพวกเขาอย่างแน่นอน
หากว่าเขาสามารถซื้อจิตอสูรมากมายขนาดนี้ได้
เนี้ยหลี่ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในขณะที่เขาคาดเดาตัวตนของอีกฝ่าย “ ข้าสงสัยว่า ข้าควรเรียกท่านว่านายน้อย?
”
ชายหนุ่มมองไปที่เนี้ยหลี่ มีรอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏที่มุมปากของเขา “ เจ้าคือเนี้ยหลี่
ข้าเคยได้ยินชื่อของเจ้ามาก่อน เจ้าและหลงยู่หยินเป็นอัจฉริยะของปีนี้
ชื่อของข้าคือหลี่ชิงหยุนจากตระกูลเถ้าอัคคี ”
เนี้ยหลี่นึกถึงชีวิตก่อนหน้าของเขา
เขารับรู้ได้ถึงการมีตัวตนของบุคคลดังกล่าว ภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
ชายคนนี้ได้เข้าชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลเถ้าอัคคี แต่เขาล้มเหลวในการชิงตำแหน่ง
หลังจากนั้นเขาออกจากนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์และถูกบงการโดยเพื่อนที่เป็นอัจฉริยะนอกนิกายของเขา
ชื่อเสียงของเขาด้อยกว่ากู่เป่ยและหลงยู่หยิน
ตัวตนของเขายังเป็นที่ถกเถียงอยู่บ้าง
เขาไม่สามารถแยกแยะระหว่างความดีความชั่วได้ แม้เขาจะมีมุมมองที่แตกต่างต่อโลก
แต่เขาก็ยังคงมีพรรคพวกที่ยินดีที่จะติดตามเขาด้วยความซื่อสัตย์และทุ่มเทเพื่อเขา
ความคิดในเชิงบวกของเขายังคงมีมากและโดดเด่นกว่าเชิงลบ
เนี้ยหลี่กล่าวว่า “ พวกเรายังมีจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าอีก 24 ดวง ”
เมื่อได้ยินคำตอบของเนี้ยหลี่
คิ้วของหลี่ชิงหยุนกระตุกด้วยความประหลาดใจ
เขาไม่คาดเลยว่าเนี้ยหลี่จะคงมีจิตอสูรอีกมากมายเช่นนี้ จากที่เขาขายออกไปจำนวนมากขนาดนั้น
สิ่งที่เขาคาดเดาว่าเนี้ยหลี่จะเหลือจิตอสูรอยู่อย่างมากแค่ 5 หรือ 6 ดวงเท่านั้น
หลี่ชิงหยุนยิ้มออกมาอย่างพอใจและกล่าวว่า “ มันไม่สำคัญว่ามีจิตอสูรเท่าใด
แต่มันน่าเสียดายว่าในจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าทั้งหมดนั้นไม่มีจิตอสูรสายเลือดมังกร
มันคงจะดีกว่านี้หากเจ้ามีจิตอสูรที่มีสายเลือดมังกรที่มีอัตราเติบโตในระดับดีหรือดีเยี่ยม ” แม้หลี่ชิงหยุนจะเป็นหนึ่งในสามของผู้สืบทอดของตระกูลเถ้าอัคคีภายใต้ปีกของเขายังมีผู้เชี่ยวชาญนับพัน
นอกจากนี้ความมั่งคั่งของเขาก็ยังเป็นที่น่าตกใจอีกด้วย
ดังนั้นเขาจึงไม่มีปัญหาในการจ่ายค่าจิตอสูรทั้งหมดนี้
หลี่ชิงหยุนมีอัจฉริยะจำนวนมากภายใต้ปีกของเขา
เขาก็ไม่เคยขี้เหนียวในการใช้จ่ายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มของเขา
หลี่ชิงหยุนกล่าวอย่างภูมิใจว่า “ เมื่อใดก็ตามที่เจ้ามีจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้า
เจ้าสามารถติดต่อข้าได้ทันที ไม่ว่าเจ้าจะมีจำนวนเท่าไร ข้าจะซื้อพวกมันทั้งหมด ”
เนี้ยหลี่ไม่รู้หลี่ชิงหยุนกระเป๋าหนักได้อย่างไร
เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดที่มีความสามารถสูงเขาน่าจะมีเงินทุนอยู่บ้าง
ถ้าหลี่ชิงหยุนต้องการซื้อจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าอย่างมาก
ชัดเจนเลยว่าเขาเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจ
หลังจากเนี้ยหลี่เชื่อมโยงเหตุการณ์เข้ากับข่าวในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา
เขาก็เข้าใจถึงภาพรวมทั้งหมดทันที
มันจะมีประโยชน์เป็นอย่างมากหากทำความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนผู้นี้ไว้ !!
หลู่เปียวคำนวนอย่างรวดเร็ว “ จิตอสูร 24 ดวงจิต ทั้งหมดคือ
เก้าร้อยหินจิตวิญญาณ ”
“ ได้! ” หลี่ชิงหยุนหยิบหินจิตวิญญาณออกมาเก้าร้อยก้อนและโยนพวกมันไปให้กับหลู่เปียวทันที
ในทางกลับกันเนี้ยหลี่ได้ส่งมอบจิตอสูรทั้งยี่สิบสี่ดวงให้กับหลี่ชิงหยุน
เมื่อหลี่ชิงหยุนได้รับจิตอสูร เขาตบลงบนบ่าของเนี้ยหลี่เบา ๆ
และกล่าวว่า “ ข้าชื่นชมเจ้าหากเจ้าสนใจจะเข้าร่วมกับข้า
เจ้าสามารถมาหาข้าได้ตลอดเวลา ข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี
แต่ก็ไม่เป็นไรหากเจ้าไม่สนใจและหากเจ้าได้รับจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้ามาอีก
เจ้าสามารถขายให้ข้าได้ตลอดเวลาเช่นกัน ”
เนี้ยหลี่ยิ้มและกล่าวว่า “ ขอบคุณสำหรับความชื่นชมนายน้อยหลี่
หากข้าได้รับจิตอสูรอัตราการเติบโตระดับพระเจ้าอีก ข้าจะไปพบท่านอย่างแน่นอน ”
เนี้ยหลี่ไม่มีความสนใจในการต่อสู้ภายในของตระกูลเถ้าอัคคี
ใครจะรู้ว่าหลี่ชิงหยุนอาจจะทำสำเร็จ
หรือเขาอาจจะล้มเหลวเหมือนกับในครั้งชีวิตก่อนของเนี้ยหลี่
การดำเนินงานต่าง ๆ
ภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์เป็นไปด้วยความมีระเบียบ
ผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อนิกายฯเท่านั้น
จึงจะสามารถสังเกตุการณ์เห็นการต่อสู้ภายในได้
การต่อสู้ระหว่างตระกูลนั้นยังส่งผลที่รุนแรงออกมาอีกด้วย
ดังนั้นความแตกแยกของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ในอีกหนึ่งร้อยปีจึงไม่สามารถคาดเดาได้
เนี้ยหลี่ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาหลี่ชิงหยุนและความตั้งใจเหล่านั้นได้ถูกสะท้อนออกมาผ่านคำพูดของเนี้ยหลี่แล้ว
เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่ชิงหยุนไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองเนี้ยหลี่
เขากล่าวออกมาว่า “ เอาล่ะ!!
ข้าจะรอฟังข่าวดีจากเจ้า ”
หลี่ชิงหยุนหันไปทางผู้ติดตามของเขา “ ส่งข้อความนี้ไปถึงฮวาหลิง จากนี้ไปข้าจะดูแลเนี้ยหลี่ ให้เขาเก็บมือเอาไว้กับตัวเองให้ดี
มิฉะนั้นข้าจะจัดให้สาสมใจเลยทีเดียวเชียวทั้งเขาและคนของเขาด้วย ”
เมื่อเนี้ยหลี่ได้ยินคำของหลี่ชิงหยุน เขาก็ประสานมือในเชิงคาราวะและกล่าวว่า “ ขอบคุณนายน้อยหลี่ ”
ในหัวใจของเนี้ยหลี่เข้าใจอย่างชัดเจนว่า หลี่ชิงหยุนได้ทำการตรวจสอบเกี่ยวกับตัวเขามาแล้ว
ดังนั้นเขาจึงตระหนักดีว่า ฮวาหลิงและฮูหยงสร้างปัญหาให้กับเขา
อย่างไรก็ตามหลี่ชิงหยุนได้พูดปัญหาของเขาออกมาเพียงครึ่งเดียว
นั่นหมายความว่าตราบใดที่เขาเข้าร่วมหรือให้ความร่วมมือด้วย
เขาจึงจะจัดการดูแลปัญหาอื่น ๆ ให้แก่เนี้ยหลี่
“ ข้าไปก่อนล่ะ ” หลี่ชิงหยุนหันมายิ้ม แล้วเขาก็นำกลุ่มของเขาจากไป
พวกเขายืนดูการจากไปของกลุ่มหลี่ชิงหยุนและหันมาสนทนากัน
“ ข้าสงสัยว่านายน้อยหลี่ผู้นี้
มีแผนจะทำอะไรกับจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าจำนวนมากขนาดนั้น ” หลู่เปียวถามขึ้น
“ เจ้าไม่รู้? นายน้อยหลี่เป็นคนที่ใจกว้างอย่างมาก สำหรับลูกน้องที่ซื่อสัตย์และทุ่มเทเพื่อเขา ข้าเคยได้ยินมาว่าลูกน้องของเขาทั้งหมดได้รับสิ่งประดิษฐ์ระดับ 3 อีกด้วย เขาอาจจะซื้อจิตอสูรเหล่านั้นให้ลูกน้องของเขาก็เป็นได้ ”
อันที่จริงการเข้าร่วมกลุ่มขนาดใหญ่ต่าง ๆ จะทำให้ได้รับประโยชน์อย่างมากมายโดยเฉพาะการอยู่ภายใต้ผู้นำที่ใจกว้าง
เนี้ยหลี่ขายจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าไปเป็นจำนวนมาก
เขาได้รับผลตอบแทนเป็นจำนวนกว่าหนึ่งพันสองร้อยหินจิตวิญญาณ
“ ใช่
ใครจะไปรู้ว่าเจ้าเด็กนั่นจะมีจิตอสูรจำนวนมากขนาดนั้น ”
เหล่านักเรียนรอบข้างต่างอิจฉา หนึ่งพันสองร้อยหินจิตวิญญาณ!!
พวกเขาทำได้เพียงชื่นชมในจำนวนหินจิตวิญญาณอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น
พวกเขาอาจจะไม่สามารถรวบรวมหินวิญญาณได้มากมายขนาดนั้นถึงพวกเขาจะใช้เวลาหลายปีก็ตาม
นอกเหนือจากเหล่านักเรียนธรรมดา เนี้ยหลี่ยังดึงความสนใจจากคนอื่น
ๆ อีกด้วย เมื่อเนี้ยหลี่เริ่มขายจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าได้ไม่นาน
ฮวาหลิงและฮูหยง พร้องทั้งลูกน้องก็ได้มาถึง อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รู้ว่า หลี่ชิงหยุนได้พูดคุยกับเนี้ยหลี่
พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เนี้ยหลี่อีก
ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยเรื่องที่ว่าเนี้ยหลี่ได้ทำข้อตกลงบางอย่างกับหลี่ชิงหยุน และเขายังสร้างรายได้จากการขายจิตอสูรอัตราการเติบโตระดับพระเจ้าไปกว่าหนึ่งพันสองร้อยหินจิตวิญญาณ
ฮูหยงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เห็นได้ชัดเจนว่าหลี่ชิงหยุนไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขา และยิ่งกราดเกรี้ยวขึ้นเมื่อคิดเกี่ยวกับการบ่มเพาะพลังของเนี้ยหลี่ที่มีหินจิตวิญญาณหนึ่งพันสองร้อยก้อน
แต่เขายังไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาให้กับเนี้ยหลี่ เพราะหลี่ชิงหยุนและหนามเหมิน
เทียนไห่กับหวังยู่ ก็ได้มาเตือนเขาก่อนหน้านั้นแล้ว
ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าก่อปัญหาใด ๆ ในสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้า
หลังจากฮวาหลิงได้รับข่าวจากลูกน้องของเขา
เขาโกรธเป็นอย่างมากเพราะเหมือนกับว่าได้ไปชนตออะไรเข้าอย่างจัง
ฮวาหลิงไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
ในขณะที่มีการกลั่นแกล้งเนี้ยหลี่และกลุ่มของเขา
แต่เขาเป็นคนที่จัดการได้ง่ายที่สุดและถูกเตือนได้โดยตรง
ฮวาหลิงยิ่งคิดยิ่งโกรธแค้น
จนกลายเป็นความเกลียดชังที่มีต่อเนี้ยหลี่และหลี่ชิงหยุน แต่เขาก็ยังไม่กล้าไปตอแยกับหลี่ชิงหยุน เนื่องจากความแข็งแกร่งของเขาและอีกเหตุผลที่ว่าหลี่ชิงหยุนเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดของตระกูลเถ้าอัคคี
ในบรรดารุ่นน้องในตระกูลเถ้าอัคคี ยังมีผู้มีอำนาจอยู่อีกมาก
ไม่เพียงแต่เขาไม่กล้าที่จะสร้างปัญหาต่อหลี่ชิงหยุน เขายังต้องเตรียมของขวัญขอโทษในกรณีดังกล่าวอีกด้วย
สำหรับอนาคตตราบใดที่เนี้ยหลี่และหลี่ชิงหยุนไม่มีการตกลงใด ๆ กัน
เขาก็จะไม่กล้ายุ่งเกี่ยวกับเนี้ยหลี่อีก
หลังจากที่หลี่ชิงหยุนได้ส่งคำเตือนมาถึงเขาแล้ว
ก็ไม่มีเหตุผลอะไรอีกที่จะทำให้เขาล่วงเกินอีกฝ่าย
ในขณะนั้นเนี้ยหลี่และพรรคพวกได้หายไปสักพักใหญ่
เซียวหยูเอ่ยถามขึ้น “ เนี้ยหลี่
เจ้าเอาจิตอสูรที่มีอัตราการเติบโตระดับพระเจ้ามาจากโลกใบเล็กจริงรึ?
” แม้จะเป็นที่นั่นก็ไม่น่าจะมีจิตอสูรอัตราเติบโตระดับเทพเจ้ามากมายขนาดนั้นได้
เนี้ยหลี่กล่าวตอบออกมาว่า “ ในตอนนี้ข้าไม่สามารถบอกเจ้าได้จริง ๆ แต่ข้าจะบอกเจ้าเองในอนาคต ” หม้ออสูรฝันร้ายเป็นความลับที่เนี้ยหลี่ไม่ได้บอกใครแม้แต่คนใกล้ชิดของเขา
มันจะดีกว่าถ้าเรื่องนี้ยิ่งรู้น้อยคนยิ่งดี
หากข่าวเรื่องนี้รั่วไหลออกไปมันจะสร้างปัญหาใหญ่ให้กับเขาได้
ด้านหลี่ชิงหยุนนั้นมีความสามารถในการซื้อจิตอสูรอัตราเติบโตระดับพระเจ้าจำนวนมาก
และยังคงต้องการเพิ่มอีก เนี้ยหลี่จึงคิดแผนการใหญ่ออกมาได้ทันที
จิตอสูรสายเลือดธรรมดาแต่มีอัตราการเติบโตระดับพระเจ้านั้น
ไม่คุ้มค่าในการลงทุนเท่าไร และสิ่งที่คุ้มค่ามากที่สุดคือ จิตอสูรสายเลือดมังกร…
จบตอน