วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2559

บทที่ 272 - ปรมาจารย์กู่เป่ย


บทที่ 272 - ปรมาจารย์กู่เป่ย

หลังจากที่ผู้อาวุโสฉีมู่ออกไปนักเรียนกลุ่มต่าง ๆ ก็ยืนขึ้น หญิงสาวคนหนึ่งที่สวมเสื้อผ้าสีฟ้าอ่อนได้เดินตรงเข้าหาทางที่เนี้ยหลี่และหลู่เปียวอยู่

นางได้จ้องมองไปที่เนี้ยหลี่แล้วถามว่า '' พวกเจ้ามาจากโลกใบเล็กหรือ? ''

เนี้ยหลี่มองไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้นแล้วพยักหน้าลง '' ใช่แล้ว ''

ขณะที่เขาจ้องมองดูหลงยู่หยิน เขาเกิดความสงสัยว่า '' นางคนนี้มาจากที่ใดกัน? ทำไมเขาจึงรู้สึกคุ้นเคยกับนางคนนี้อย่างบอกไม่ถูก? หรือว่าเราจะเคยเจอนางมาก่อนในชาติที่แล้ว?

'' พวกเจ้าคือคนที่มีรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 8 และระดับ 5 ที่มาจากโลกใบเล็กสินะ!? '' นางคนนั้นถามในขณะที่จ้องมองไปที่เนี้ยหลี่และหลู่เปียว

“ เจ้าจะมาเชิญพวกเราเพื่อไปเยี่ยมชมตระกูลของเจ้าเหมือนกับจินหยานอย่างนั้นหรือ?? คงอยากให้พวกเราเข้าร่วมกับเจ้าสินะ? ” ลักษณะที่จู้จี้ของผู้หญิงคนนี้มันอะไรกัน อย่างไรก็ตามการที่นางจ้องมองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามมันทำให้หลู่เปียวไม่ชอบเอาเสียเลย

หญิงสาวที่สวมเสื้อผ้าสีฟ้าอ่อนเหลือบมองไปที่หลู่เปียวและพูดใส่ว่า '' ถึงแม้ว่าความสามารถของเจ้าจะค่อนข้างดี แต่พวกเจ้าก็ยังมีความสามารถไม่มากพอที่จะได้รับการเชิญชวนจากตระกูลตราประทับมังกรของข้า ความสามารถของพวกเจ้านั้นก็แค่ดีต่อการบ่มพลังอยู่แค่ช่วงระดับหนึ่งเท่านั้น แม้คนที่ไร้ซึ่งความสามารถ แต่ถ้าตระกูลของข้าต้องการ ตระกูลของข้าก็สามารถที่จะทำให้เขาผู้นั้นเป็นดั่งอัจฉริยะได้ ”

ถ้อยคำของนางทำให้หลู่เปียวไม่ชอบใจเอาอย่างมาก เนี้ยหลี่มองไปที่หญิงสาวคนนั้นและตระหนักได้ขึ้นมาทันทีว่า หญิงสาวคนนี้คือคนที่มาจากตระกูลตราประทับมังกร!!

ตระกูลตราประทับมังกรเป็นตระกูลที่มีขนาดใหญ่อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาเป็น 1 ใน 3 ตระกูลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ในชีวิตก่อนหน้านี้เนี้ยหลี่ได้อยู่ที่ดินแดนซากมังกร เขาเป็นหนี้บุญคุณอาจารย์เนื่องจากอาจารย์ของเขานั้นได้ดูแลเขาเป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามอาจารย์ของเขานั้นถูกฆ่าโดยผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลตราประทับมังกร ดังนั้นเนี้ยหลี่จึงรู้สึกค่อยไม่ชอบใจพวกเขามากนัก

อย่างไรก็ตามในชีวิตนี้อาจารย์ของเขานั้นควรจะต้องไม่ตาย ดังนั้นเนี้ยหลี่จะไม่ยอมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นอีกอย่างแน่นอน!

หญิงสาวไม่หันกลับไปมองหลู่เปียวแต่ตอนนี้ดวงตาของนางมุ่งไปที่เนี้ยหลี่แทน มุมปากของนางยกขึ้นและพูดว่า '' วันนี้ขณะที่พวกเรากำลังทำการทดสอบเปลวเพลิงวิญญาณสถิตอยู่ เจ้าทำให้ข้ารู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก หวังว่าครั้งต่อ ๆ ไปเจ้าจะไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวัง ''

เมื่อพูดจบนางก็หันหลังกลับและเดินออกไป หลังที่สวยงามของนางหายไปทันที

หลู่เปียวถามเนี้ยหลี่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า '' เนี้ยหลี่ นี่หมายความว่ายังไงกันนางเดินเข้ามาหาพวกเราเพียงเพื่อจะบอกว่าเจ้าว่า ' น่าสนใจ ' เนี่ยนะ? หรือว่านางต้องการที่จะอยากร่วมเตียงกับเจ้า? ''

จากคำพูดของหลู่เปียว เนี้ยหลี่อดที่จะกรอกตาไปมาและถอนหายใจออกมาไม่ได้ สมองของหลู่เปียวนี่มันกลวงขนาดไหนกันแน่?

หลังจากหลู่เปียวพูดเสร็จชายหนุ่มรูปงามได้เดินเข้าไปหาหลู่เปียวและพูดว่า '' เจ้ากำลังได้รับความสนใจจากหลงยู่หยินอยู่ แต่อย่างเพิ่งดีใจไปนัก เจ้าคิดว่านางคนนั้นกำลังสนใจในตัวเพื่อนเจ้างั้นหรือ? ไม่ทราบว่าเจ้ารู้หรือเปล่าว่านางนั้นเป็นคนที่อำมหิตและโหดเหี้ยมขนาดไหน? ''

'' คนอำมหิตงั้นหรือ? '' หลู่เปียวพยักหน้าในขณะที่เขาคิดว่า ' ไม่น่าแปลกใจเลยเพราะนางมีบุคคลิกแบบนั้นตลอดเวลา'

'' ไม่ทราบว่าพวกเจ้าเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับหลงยู่หยินมาบ้างหรือเปล่า? ฮ่า ๆ พวกเจ้าที่มาจากโลกใบเล็กคงจะไม่ทราบเป็นแน่ หลงยู่หยินนั้นเป็นอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากมาก นางมาจากตระกูลตราประทับมังกร และมีข่าวลือมาว่านางคนนั้นได้สืบเชื้อสายของมังกร นั่นทำให้ร่างกายของนางนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่สิ่งประดิษฐ์ระดับ 2 นั้นจะสามารถที่จะทำร้ายนางได้ 2 ปีที่แล้ว นางได้หมั้นหมายกับใครคนหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดแล้วระหว่างในการประลองยุทธ นางก็ได้ทำร้ายคู่หมั้นของนางจนไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตแบบคนแบบคนทั่วไปได้ '' ชายหนุ่มคนนั้นส่ายหัวในขณะที่เขาถอนหายใจ และพูดต่ออีกว่า '' คู่หมั้นของหลงยู่หยินนั้นมากจากตระกูลที่มีอำนาจ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาถึงยังทนกับกับการกระทำเหล่านั้นได้ ผู้หญิงคนนั้นมันเป็นเหมือนดั่งปีศาจ มันจะเป็นเรื่องดีที่สุดที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับนาง''

หลังจากที่ได้ฟังคำที่กล่าวมาของชายหนุ่มผู้นั้นทำให้หลู่เปียวรู้สึกไม่อยากที่จะยุ่งกับหญิงสาวผู้นั้นเลย


หญิงสาวที่สวมใส่เสื้อผ้าสีฟ้าอ่อนคนนั้นคือหลงยู่หยิน? ดวงตาของเนี้ยหลี่หรี่ตาลงในทันทีในช่วงชีวิตที่แล้วของเขานั้น หลงยู่หยินนี่ล่ะคือคนที่ฆ่าอาจารย์ของเขา!!

ในชาติที่แล้วหลังจากที่เนี้ยหลี่มาถึงดินแดนซากมังกร หลงยู่หยินนั้นดูเป็นสาววัยรุ่นมาก ทั้งที่นางนั้นมีอายุมามากกว่าหนึ่งศตวรรษแล้ว ในตอนนั้นนางเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเทพสงครามขั้นที่ 3 และนางยังเป็นคนที่มีนิสัยอำมหิตและโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก

ไม่น่าแปลกใจนักเมื่อเขาเห็นนางแล้วรู้สึกคุ้นเคย เนี้ยหลี่ยังจำได้ว่าในชาติก่อนของเขานั้นหลงยู่หยินเป็นคนเป็นคนที่มีนิสัยที่โหดร้ายและขี้โมโห เนื่องจากนางเป็นผู้วางกฎของนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ทำให้นางสามารถจะทำสิ่งใดก็ได้ภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์

ตอนนั้นนางดูเป็นเหมือนสาววัยรุ่นมากแต่ตอนนี้นางนั้นช่างดูเป็นเด็กยิ่งนัก ถึงแม้ว่านางจะดูคล้ายคลึงกับชาติที่แล้ว แต่มันก็ยังมีความแตกต่างอยู่ นั่นทำให้เขาจำนางไม่ได้ในทันทีที่เห็น ถึงแม้ว่าความเสียใจของเนี้ยหลี่ในชาติที่แล้วนั้นจะอยู่ลึกภายในจิตใจ แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกเกลียดตระกูลตราประทับมังกร

หลู่เปียวได้ยินจากที่ชายหนุ่มผู้นั้นเล่ามาจึงเกิดความสงสัยและชายหนุ่มผู้นั้นว่า '' เฮ้ แล้วเจ้าชื่ออะไรหรอ? ''

ชายหนุ่มผู้นั้นตอบกลับมาอย่างนุ่มนวลว่า '' เจ้าสามารถเรียกข้าว่าปรมาจารย์กู่เป่ย ''

'' ปรมาจารย์กู่เป่ย? '' หลู่เปียวหรี่ดวงตาของเขาลง ไอ้เด็กนี่มันอะไร! มันจะหลงตัวเองไปแล้วให้คนอื่นมาตัวเองว่า ปรมาจารย์กู่เป่ย แต่หลังจากที่หลู่เปียวนั้นได้มายังดินแดนซากมังกรแล้วมันทำให้เขารู้ว่าไม่ควรที่จะทำไม่ดีกับผู้อื่น เพราะบางทีเด็กคนนี้อาจจะมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา มันจะดีที่สุดที่ไม่ไปกวนตีนเขา

'' พี่ชายกู่เป่ย ขอบใจมากสำหรับคำแนะนำของเจ้าในวันนี้ '' หลังจากที่ได้ยิน ''ปรมาจารย์กู่เป่ย'' เนี้ยหลี่เคยได้ยินมาว่า เขานั้นเป็นคนที่ขี้เกียจที่ปรากฎตัวขึ้นในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่ได้อ่อนไปกว่าหยงยู่หยินเลย การดำรงอยู่ของเขาทำให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างเขาและนาง ทุก ๆ คนเรียกเขาว่าปรมาจารย์กู่เป่ย เป็นผู้สืบเชิ้อสายมาจากตระกูลกู่

หลงยู่หยินนั้นสืบเชื้อสายมาจากตระกูลตราประทับมังกร ความสามารถของนางนั้นสามารถที่จะไปสู่ระดับสูงสุดได้โดยไม่ยากเย็นนัก แต่อย่างไรก็ตามปรมารจารย์กู่เป่ยนั้นก็เป็นผู้ที่มีความสามารถอย่างถ่องแท้ในเรื่องของการใช้กระบี่

'' สำหรับพวกเจ้าทั้งสอง ข้านั้นทราบชื่อของพวกเจ้าอยู่แล้ว เนี้ยหลี่ และหลู่เปียว '' ปรมาจารย์กู่เป่ย กล่าวขณะที่ยิ้มให้ทั้งสอง

'' เจ้ารู้จักพวกเราทั้งสองงั้นหรือ? '' หลู่เปียวรู้สึกตกใจเล็กน้อย

กู่เป่ยยิ้มและกล่าวว่า '' แน่นอน เจ้าทั้งสองเป็นที่รู้จักดีในเขตตะวันตก นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่ที่รองรับเหล่าอัจฉริยะผู้ที่มีความสามารถระดับรากจิตวิญญาณสวรรค์โดยไม่คำนึงถึงสถานที่ที่คนเหล่านั้นจากมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่อพวกเจ้าทั้งสองที่มีรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 8 กับระดับ 5 เลย ไม่แปลกใจเลยที่มีคนหลายให้ความสนใจและจับตาดูพวกเจ้าอยู่ ”

เนี้ยหลี่นั้นคิดอยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ ตราบใดที่เขายังไม่เข้าร่วมกับฝ่ายใดนั่นจะทำให้ไม่มีใครสามารถทำร้ายพวกเขาได้ ประการแรกนั้นเหล่าอัจฉริยะของสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้าจะได้รับการปกป้องดูแลเป็นอย่างดี ประการที่สองไม่มีใครที่อยากจะขัดใจอัจฉริยะเหล่านี้หากไม่มีเหตุผลที่ดีพอ

'' แล้วเจ้าล่ะ '' หลู่เปียวมองที่ไปกู่เป่ย ด้วยความอยากรู้

กู่เป่ยหัวเราะ '' ฮ่า ๆ ข้าหรอ? ข้านั้นมีความสนใจตัวของหลงยู่หยิน และหลงยู่หยินนั้นสนใจพวกเจ้าทั้งสอง เพราะฉะนั้นข้าจึงมาดูเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเจ้านั้นเป็นอย่างไร ''

'' เป็นอย่างนี้นี่เอง เจ้าสนใจในตัวหลงยู่หยินนั่นเอง '' หลู่เปียวเข้าใจในทันที เขาเหลือบมองที่ไปเป้าของกู่เป่ย '' นั่นทำให้เจ้ารู้สึกเต้นตื่นสินะ หลงยู่หยินนั้นทำร้ายคู่หมั้นของตัวเอง แต่เจ้าก็ยังสนใจ นี่เจ้าเป็นพวกชอบความรุนแรงงั้นหรือ? ''

“ เฮ้ย เฮ้ย นี้เจ้ากำลังมองไปที่สิ่งใดกัน? ” กู่เป่ยพูดด้วยความรู้สึกที่ไม่สบายใจ '' ข้านั้นสนใจหลงยู่หยิน แต่ไม่ได้หมายความว่าข้านั้นเป็นพวกชื่นชอบความรุนแรงนะ ''

'' เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าไม่ได้เป็นพวกที่ชื่นชอบความรุนแรงน่ะ '' หลู่เปียวถามขณะที่เหลือบมองไปที่เป้าของกู่เป่ย

'' ไม่แน่นอน ข้าไม่ใช่แบบนั้น พวกเจ้าจะไปเจอหญิงที่สนใจแต่การเอาชนะเหมือนหลงยู่หยินได้ที่ไหน '' กู่เป่ย หัวเราะอย่างหื่นกาม '' นั่นเป็นหญิงในแบบที่ข้าต้องการที่สุด จริง ๆ แล้ว นางนั้นจะต้องเป็นคนที่ร้อนแรงเป็นอย่างมากแน่นอน ''

จากคำพูดของกู่เป่ย หลู่เปียวหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในขณะที่เขาก็เข้าไปโอบไหล่ของกู่เป่ยและพูดว่า '' แน่ใจนะ? ถ้าอย่างนั้นละก็ เราก็ควรจะหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้กันสักหน่อย ฮ่า ๆ ๆ ๆ ''

'' ถ้าอย่างนั้นเราก็เป็นพวกเดียวกันน่ะสินะ '' กู่เป่ยมองไปที่หลู่เปียวและคิดว่าได้พบกับเพื่อนใหม่ที่เข้าขากันได้ดี '' น้องหลู่ น่าเสียดายยิ่งนักที่ข้าไม่ได้พบกับเจ้าให้เร็วกว่านี้ ''

หลังจากที่เนี้ยหลี่เห็นพวกเขาหัวเราะอย่างหื่นกามกัน เขาก็ไม่สามารถที่จะออกอาการยิ้มแบบขมขึ่นได้ เขาไม่คิดว่าก่อนว่าหลู่เปียวกับกู่เป่ยนั้นจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี จากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ และสังเกตเห็นว่ามีคนแอบมองพวกเขาอยู่และแอบกระซิบกัน หนึ่งในนั้นคือหวังหยางที่มาจากอาณาจักรอนุสวรรค์ หวังหยางนั้นยืนอยู่กับพวกของเขา 5 คนรวมกันเป็นกลุ่ม

เนี้ยหลี่หรี่ตาลงพร้อมกับพูดกับหลู่เปียวและกู่เป่ยว่า '' ที่นี่ไม่เหมาะที่จะคุย พวกเราไปกันเถอะ ''

กู่เป่ยเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นและหัวเราะออกมา '' ตกลง ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ ข้ามีที่ที่เหมาะสมที่จะคุยเรื่องราวดี ๆ กับน้องหลู่ ''

จากนั้นพวกเขาทั้งสามคนก็เดินออกไปด้วยกัน หวังหยางมองกลุ่มของพวกเขาเดินจากไปและหันกลับมาหากลุ่มตัวเอง

'' พวกเขาออกไปกับกู่เป่ย อย่างนั้นมันก็ครบ 5 คนแล้วสิ สำหรับคนที่มีโอกาสที่จะไปสู่เขตตะวันออก หลงยู่หยิน จินแยน กู่เป่ย 3 คนนั้นย่อมได้ไปที่เขตตะวันออกโดยเป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว แต่อีก 2 คน ที่มีรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 8 และระดับ 5 นั้นเป็นคู่แข่งที่สำคัญมากสำหรับพวกเรา แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่กับกู่เป่ย นั่นทำให้พวกเรายากที่จะจัดการกับพวกนั้น '' หนึ่งในพวกนั้นกล่าว

หนึ่งในกลุ่มนี้มีคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 5 มันจะเป็นประโยชน์หากพวกเขารวมตัวกันโดยในกลุ่มนี้มีหัวหน้าชื่อว่า ฮั่นจิง

ในทุก ๆ ปี จะมีการแข่งขันเกิดขึ้นใน 5 เขต พวกเขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้พวกเขานั้นได้ไปสู่เขตตะวันออก พวกเขาต้องขัดขวางไม่ให้เนี้ยหลี่และหลู่เปียวแข็งแกร่งไปมากกว่านี้ หากเนี้ยหลี่และหลู่เปียวได้ไปสู่เขตตะวันออก พวกเขาเหล่านั้นจะต้องรอโอกาสอีกเป็นปีเลยทีเดียว นั่นคือสิ่งที่พวกเขาไม่เต็มใจจะยอมรับ

ถึงแม้ว่าเนี้ยหลี่และหลู่เปียวจะมีรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 8 และระดับ 5 แต่ระดับพลังในตอนนี้ของพวกเขานั้นยังไม่แข็งแกร่งมากนัก นั่นทำให้พวกเขานั้นง่ายต่อการจัดการ ไม่เหมือนจินแยน หลงยู่หยิน และกู่เป่ย พวกเขาไม่สามารถต่อกรกับคนเหล่านั้นได้เลย

'' การที่พวกเขานั้นจะก้าวสู่ระดับพลังขั้นถัดไป พวกเขาจะต้องเขามาฝึกฝนที่บริเวณลานฝึก และเมื่อพวกเขาแยกกับกู่เป่ย นั่นแหละคือโอกาสของพวกเรา '' หวังหยางกล่าว

ฮั่นจิงขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า '' จริง ๆ แล้วภายใน 3 วันต่อจากนี้พวกเขานั้นจะต้องเข้ามาฝึกฝนที่บริเวณลานฝึก แต่ที่ลานฝึกนั้นมันมีทั้งหมด 3 ลาน ข้าคิดไม่ออกเลยว่าพวกเขาจะไปฝึกที่ลานไหนกัน ''

'' เดี๋ยวข้าจะรับผิดชอบในการหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นเอง ถ้าเมื่อไรที่ข้ารู้สถานที่ที่มันจะไป ข้าจะบอกให้พวกเจ้ารู้ในทันที '' หวังหยางกล่าว

โดยที่เขานั้นเป็นมือขวาของฮวาหลิง ทำให้เขาให้ความสนใจและเฝ้าระวังเกี่ยวกับตัวของเนี้ยหลี่และหลู่เปียวเป็นพิเศษ



จบตอน
แปลไทยโดย Kawin Liadprathom
https://www.facebook.com/groups/200491286989237/permalink/233096803728685/

98 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ
    ฝันดีเเล้วคืนนี้

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณ สำหรับสัญญา และขอบคุณสำหรับน้ำใจจร้า

    ตอบลบ
  3. ตอนที่เข้าไปฝึกในโรงเรียนไม่ว่าจะเรื่องอะไร ทำไม มัน สนุกจัง

    ตอบลบ
  4. หลงยู่หยินชาติก่อนถึงระดับเทพสงคราม แล้วเนี่ยหลี่หละครับ เหมือนมีคนบอกว่าชาติก่อนแค่ระดับเต๋าแต่ตอนสู้กับจักรพรรดิ์ได้เลื่่อนเป็นเทพสงคราม

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณครับ....ขอให้หายป่วยไวไวครับ

    ตอบลบ
  6. ขอบคุณมากๆครับผม :)

    ตอบลบ
  7. กราบขอบพระคุณยิ่งนักท่าน กำลังจะลงแดงในวินาทีสุดท้ายแล้วครับท่าน เอื่ออออออออ

    ตอบลบ
  8. ของคุณมากเลยครับ

    ตอบลบ
  9. ของคุณมากเลยครับ

    ตอบลบ
  10. ขอบคุณครับ มาตาสัญญาจริงๆ แปลดีมากครับ
    เป็นกำลังใจให้ครับผม

    ตอบลบ
  11. ขอบคุณครับ หายไวไวนะครับ

    ตอบลบ
  12. ขอบคุณ แล้วฝันดีนะครับ

    ตอบลบ
  13. ขอบคุณ แล้วฝันดีนะครับ

    ตอบลบ
  14. ขอบคุณครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

    ตอบลบ
  15. ขอบคุณนะ หายไวไวนะครับ

    ตอบลบ
  16. ขอบคุณมากครับ สนุกมากๆ รบกวนชวนผมเข้ากลุ่มด้วยนะครับ เฟส kittituch yuratai

    ตอบลบ
  17. ขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
  18. รูปเครดิตเอาใจไปเลยแอด

    ตอบลบ
  19. ขอบคุณครับที่แปลให้อ่าน

    ตอบลบ
  20. ขอบคุณมากครับ เป็นกำลังใจให้น่ะคร้าบบบบบ

    ตอบลบ
  21. ขอบคุณสุดๆเลยครับ

    ตอบลบ
  22. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  23. มาตามสัญญา มาตามหัวใจเรียกหา
    ขอบคุณคร้าบบบบ

    ตอบลบ
  24. ....ขอบคุณครับ...วันนี้ได้อ่าน 2 ตอนรวด..สนุกมากครับ

    ตอบลบ
  25. อ่านนิยายเรื่องนี้ให้อารมณ์หวงอี้กับหวงยี่หลางช่วยกันเขียน เพียงแต่เรื่องนี้มีการเปลี่ยนสถานที่ของการโชว์พลังทำให้ระดับตำนานยังสูงสุดในโลกใบเล็ก และอม้ตัวเอกจะสูงสุดก็คืนสู่สามัญเมื่อเปลี่ยนสถานที่ ยอดเยี่ยมครับ ขอคุณทีมแปลอย่างสูงด้วยจิตคาราวะ

    ตอบลบ
  26. นายลู่เจอเพื่อนส่ยเดียวกันแล้ว ตาหลีคงต้องปวดหัวอีกนานเลย 55+

    ขอบคุณสำหรับตอนนี้ค่ะ รอตอนต่อไปอยู่นะคะ

    ตอบลบ
  27. "มีบ้านมีเมืองย่อมมีม้า" มีผูแปลย่อมมีผูอ่าน ขอบคุณผู้แปลมากครับ

    ตอบลบ
  28. "มีบ้านมีเมืองย่อมมีม้า" มีผูแปลย่อมมีผูอ่าน ขอบคุณผู้แปลมากครับ

    ตอบลบ
  29. ขอบคุณที่มีนิยายดีๆให้อ่านครับบบ #มีกลุ่มเฉพาะด้วย ถ้าอยากเข้าต้องทำไงครับ??

    ตอบลบ
  30. ขอบคุณครับสนุกมากๆ

    ตอบลบ
  31. ขอบคุณครับที่แปลความมันส์ให้อ่าน

    ตอบลบ
  32. ขอขอบพระคุณมากครับ นั่งอ่าน แบบเอาเป็นเอาตาย
    สนุกมากเรื่องนี้ ขอบคุณน้ำใจในการแปลให้อ่านมากนะครับผม

    ตอบลบ
  33. ขอบคุณครับ ผู้แปล และทีมงานทุกท่าน

    ตอบลบ
  34. ขอบคุ๊ครับท่านผู้แปล

    ตอบลบ
  35. ขอบคุณที่แปลให้อ่านกันครับ

    ตอบลบ
  36. ขอบคุณครับรับเข้ากลุ้มหน่อยครับ FB.Nonthavat Kruemas

    ตอบลบ