วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

บทที่ 270 - ผู้อาวุโสฉีมู่

บทที่ 270 - ผู้อาวุโสฉีมู่

เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะได้ผลรวดเร็วขนาดนี้

เนี้ยหลี่ตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่นานเขาก็คิดออกว่าทำไม เซียวหยูถึงไม่มีการพัฒนาระดับพลังในตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้แรกเริ่มเดิมทีนั้นพรสวรรค์ของเซียวหยูจะมีรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 7 ซึ่งก็น่าจะทำให้ตัวเขาบรรลุถึงระดับลิขิตสวรรค์ไปนานแล้ว แต่ด้วยเหตุใดเซียวหยูจึงยังไม่สามารถพัฒนาขึ้นไปได้ ถึงแม้จะฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลานานเพียงใด แต่ผลก็ยังเป็นเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการบ่มเพาะมาเป็นเวลายาวนาน เมื่อเนี้ยหลี่กระตุ้นด้วยการฝังเข็มพลังสวรรค์ก็ระเบิดออกมาทันที ออราสีแดงอ่อน ๆ ออกมาจากตัวเซียวหยู มันทำให้ผิวหนังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีกุหลาบแดงเข้ม(ประมาณหน้ามีเลือดฝาดอะครับ) พลังวิญญาณภายในเพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งจนทะลุออกมาภายนอกคล้ายพายุหมุนอยู่รอบตัวเซียวหยู

มันช่างเป็นพลังวิญญาณที่รุนแรงอะไรอย่างนี้ เนี้ยหลี่ ต้องถอยห่างออกมา เขามองดูร่างของเซียวหยูที่ถูกปกคลุมไปด้วยออร่า พร้อมกับพึมพรำขึ้นมาว่า  [เทคนิคหมื่นมังกรคำราม] เป็นเทคนิคการบ่มเพาะที่มีประสิทธิภาพมาก เพียงแต่จ้าวพิภพเขาได้รับมันมาจากที่ไหน?? "

รูปแบบจิตวิญญาณและพลังวิญญาณของเซียวหยูได้ก้าวข้ามไปยังระดับลิขิตสวรรค์ เมื่อเข้าสู่ระดับลิขิตสวรรค์แล้ว การบ่มเพาะพลังของเขาจะต้องน่าตกใจมากแน่ ๆ 

ในขณะที่เนี้ยหลี่ใช้ความคิดอยู่นั้น เซียวหยูก็ได้จมอยู่กับการบ่มเพาะพลังของเขา เขาเริ่มที่จะบ่มเพาะพลังในขั้นลิขิตสวรรค์ 

หลังจากนั้นไปยังที่ 2 และขั้นที่ 3 รูปแบบการบ่มเพาะพลังของเขาหยุดอยู่ที่ขั้นที่ 

เซียวหยูต้องประหลาดใจเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะก้าวผ่านและพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ คลื่นพลังวิญญาณจำนวนมากค่อย ๆ สงบลง และกลายเป็นแค่เพียงกระแสวิญญาณเป็นปกติ

เซียวหยูค่อย ๆ เปิดตาขึ้นช้า ๆ พวกมันเปล่งประกายความงามออกมาเป็นพิเศษ [เทคนิคหมื่นมังกรคำราม]เป็นเทคนิคบ่มเพาะที่สามารถปิดบังระดับพลังการบ่มเพาะโดยไม่ทำให้ผู้อื่นสามารถตรวจพบได้ ไม่เหลือแม้กระทั่งกลิ่นอายใด  ๆ จากเซียวหยู เขาก้มลงมองไปยังเสื้อผ้ายุ่งเหยิงและตกลงไปที่หน้าอก พร้อมกับเปิดเผยหัวไหล่คู่นั้น ช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกอึดอัดใจขึ้นมา

เซียวหยูรีบใส่เสื้อผ้าทันทีแล้วหันกลับไปมองเนี้ยหลี่ พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ เนี้ยหลี่ ขอบคุณเจ้ามาก ถ้าข้าไม่ได้เจ้าช่วย ข้าคงไม่สามารถก้าวผ่านไปยังระดับลิขิตสวรรค์ได้ หากเจ้ามีอะไรให้ข้าช่วยเหลือละก็สามารถบอกมาทันทีได้เลย ข้าจะทำมันให้ดีที่สุด ”

เขาพูดด้วยคำพูดที่จริงจัง เพราะความจริงแล้วเขาไม่สามารถบรรลุไปยังลิขิตสวรรค์เป็นเวลานานมากแล้ว แม้แต่อาจารย์ของเขาก็ยังหมดความอดทน ถ้าไม่ใช่เนี้ยหลี่ช่วยเหลือก็ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหนที่เค้าจะต้องติดอยู่ในระดับเซียน

เนี้ยหลี่ยื่นมือขวาออกไปแล้วพูดว่า “ ข้ารักษาให้เจ้า เจ้าก็ควรให้อะไรแก่ข้าบ้าง ข้าช่วยเจ้าทำลายขีดจำกัด อย่างน้อยข้าก็สมควรจะได้ไอ้ก้อนหินจิตวิญญาณสักเล็กน้อย มิฉะนั้นความพยายามของข้าก็คงต้องเสียไปเปล่า ๆ

หลังจากคำพูดของเนี้ยหลี่ เซียวหยูเงยหน้าแล้วมองไปยังเนี้ยหลี่และกล่าวว่า “ ข้ามีหินจิตวิญญาณประมาณ 10 ก้อน ข้าจะให้เจ้าไปทั้งหมด ”

“ ทำไมเจ้ามีน้อยจัง ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ มันทำให้ข้ารู้สึกแย่ถ้าจะต้องเอาของเจ้ามาทั้งหมด ข้าจะขอแค่ 5 ก้อนก็พอ ดังนั้นเราก็ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ” เนี้ยหลี่ โบกมือและรับหินจิตวิญญาณ 5 ก้อน พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เข็มเงินเพียง 2 เล่มนี้ทำให้ได้หินจิตวิญญาณ อย่างน้อยคืนนี้ก็ไม่เสียเวลาเปล่า

เซียวหยูมองไปยังตัวตนที่ดูลึกลับของเนี้ยหลี่ เข็มทั้งสองเข็มที่ใช้มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้เขาข้ามผ่านไปยังลิขิตสวรรค์ เซียวหยูคิดว่าเขาต้องตอบแทนเนี้ยหลี่อยู่ดี ที่เนี้ยหลี่พูดแบบนั้นเพราะเขาไม่ต้องการให้เซียวหยูเป็นหนี้เขา เนี้ยหลี่อาจจะต้องการเขาในบางอย่างก็ได้ เซียวหยูลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ

“ เฮ้ เซียวหยู ทำไมเจ้ามองข้าแบบนั้น มันทำให้ข้าขนลุกนะรู้ไหม ” เนี้ยหลี่โบกมือแสดงออกถึงความอึดอัดประมาณว่า ข้าไม่ได้ชอบผู้ชายนะ

ด้วยคำพูดของเนี้ยหลี่ ใบหน้าเซียวหยูกลายเป็นสีดำด้วยความโกรธ และก็พุ่งเข้ามาทุบตีที่หน้าของเนี้ยหลี่ แม้ว่าเขาต้องการจะช่วยเหลือเนี่ยหลี่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้

เซียวหยูลุกยืนขึ้นและเดินออกไป ในขณะที่เขากำลังจะไปถึงประดู อยู่ ๆ เขาหยุดและพูดด้วยเสียงที่นุ่มนวลว่า ขอบคุณสำหรับทุกอย่างสิ้นสุดคำพูดเขาก็เดินออกไป แล้วปิดประตู

เนี้ยหลี่มองไปที่ประตูที่ปิด แล้วล้มตัวลงนอนหน้ามองเพดานและคิดว่า ถ้าเขายังคงยืนยันที่จะขอบคุณ เขายืนยันที่จะขอบคุณเรา ทำไมไม่คิดว่ามันหายกันกับหินจิตวิญญาณ 5 ก้อน จริง ๆ แล้วน่าจะได้มันทั้งหมด 


ค่ำคืนที่เงียบเหงาก็ได้ผ่านไป

เช้าวันต่อมา กา ๆ ๆ ... เสียงนกร้องที่ชัดเจนที่ดังออกมาจากป่าเป็นเพลงที่ไพเราะ 


หมอกตอนเช้าพร้อมอากาศบริสุทธิ์ นักเรียนจำนวนมากเข้ามารอในสถาบันเพื่อรอรับการฝึกฝน เนี้ยหลี่และหลู่เปียวเดินตามทางเส้นทางที่คดเคี๊ยว วันนี้พวกเขาจะต้องรายงานอาจารย์และพวกเขาไม่สามารถที่จะคาดเดาว่าอาจารย์ของเขาเป็นแบบไหน 

เนี้ยหลี่และหลู่เปียวเดินทางตามแผนที่ที่เซียวหยูให้มาจนในที่สุดเข้ามาถึงลาน ที่หน้าทางเข้าของลาน อาจารย์ที่ใส่ผ้าคลุมสีเทาเขาห้ามเนี้ยหลี่และหลู่เปียวเข้า ป้ายชื่อเจ้าไปไหน

เนี้ยหลี่และหลู่เปียวหยิบป้ายชื่อขึ้นมาและติดมันแล้วบอกไปที่อาจารย์  ข้าใส่แล้ว

อาจารย์พยักหน้าแล้วทั้งสองก็เดินเข้าไป หลู่เปียวมองดูสถานที่แห่งนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนจะพูดว่า “ มันช่างแตกต่างกับสถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก ” 

“ ใช่ ” เนี่ยหลี่พยักหน้า

เข้ามาภายในเรื่อย ๆ เริ่มเห็นนักเรียนรวมตัวกันอยู่ที่ลานของสถาบัน หนึ่งในนั้นคือคนที่มาจากครอบครัวของฮวาหลิง เขายังจ้องมองมาที่เนี้ยหลี่และหลู่เปียวเหมือนกับเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ดูเหมือนทุกคนที่รวมตัวอยู่ที่นี้ อย่างต่ำก็มีรากจิตวิญญาณสวรรค์

เมื่อทั้งคู่เดินเข้าไปหลาย ๆ คนต่างหันมองหนึ่งในนั้นไม่สามารถทนต่อความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้ เลยถามว่า พวกเจ้ามาจากที่ไหนกัน

เนี้ยหลี่หันไปมองอย่างผู้ทะนงตนและตอบ โลกใบเล็ก

เด็กคนนั้นถึงกับตะลึง โอ้ พวกเจ้าเป็นอัจฉริยะจากโลกใบเล็ก ที่มีรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 5และรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 8 ชิมิ ดวงตาของเด็กคนนั้นแสดงความตกใจ 

“ ข้าชื่อจินแยน เป็นคนของตระกูลจินแห่งนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลของเราถือเป็นตระกูลอัฉริยะระดับสูง ถ้าเจ้าต้องการที่จะมากับข้าก็สามารถไปเยี่ยมที่ตระกูลของข้าได้ ” ถึงแม้ว่า คำพูดของจินแยนตั้งใจเชิญไปเป็นแขกของตระกูล แต่จินแยนก็ยังไม่อยากลดตัวลงไปคบกับคนระดับล่าง

“ เดี๋ยวพวกเราค่อยคุยเรื่องนี้กันที่หลังนะ ” เนี้ยหลี่กล่าวในขณะที่เขาและหลู่เปียวเดินจากไป

เมื่อได้ยินที่เนี่ยหลี่พูด จินแยนแสดงออกถึงความโกรธที่คิดว่าสองคนนี้มาจากโลกเล็กๆ และยังหยิ่งยโสโอหังมาก! จินแยนแสดงออกทางสีหน้าของเขาและเดินจากไป

“ เนี้ยหลี่ ดูเหมือนว่าเขากำลังข่มขู่เรา ” หลู่เปียวกำลังกังวล

“ ไม่ต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้าเราจะปลอดภัย แม้ว่าจะมีคนพยายามก่อปัญหาให้เรา พวกเขาก็ยังคงไม่สร้างเดือดร้อนให้มากมายนัก เนื่องจากเรายังไม่ได้แสดงออกว่าจะเข้าร่วมกับตระกูลใด และยังอยู่ในที่ ๆ ปลอดภัย มันไม่มีทางที่ใครจะสามารถจะรุกรานหรือทำร้ายคนที่เป็นกลางหรอก แต่ถ้าเราต้องการร่วมกับฝ่ายใดแล้วละก็มันจะนำปัญหามาสู่เราได้เนี้ยหลี่กล่าว

แม้ว่าสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้าจะเป็นสถาบันภายใต้นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็อาจเผชิญหน้ากับตระกูลต่างๆอาจเกิดเหตุรุนแรงขึ้นได้ มิฉะนั้น ชีวิตก่อนหน้านี้นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์จะไม่แยกออกจากกัน มันจะต้องมีเหตุผลแน่นอน

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันชายผมขาวสูงอายุคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากภายนอกลาน เขากวาดสายตามองไปยังนักเรียนของเขาทุกคนและกล่าวทักทาย “ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน ข้าฉีมู่ เป็นอาจารย์ของพวกเจ้านับแต่นี้ ข้าจะบอกแนวทางการบ่มเพาะพลัง เอาละนักเรียนทุกคนตามมาเดี๋ยวจะพาไปแนะนำห้องเรียนและหาที่นั่ง ”

“ ในชั้นเรียนนี้ มีทั้งหมด 36 คน ทั้งหมดเป็นนักเรียนใหม่ ทุกคนมีความสามารถพิเศษ(อัจฉริยะ) และยังไม่บรรลุสูงไปกว่าพื้นฐานจิตวิญญาณสวรรค์ซึ่งเป็นมาตรฐานของคนทั่วไป เข้าใจหรือเปล่าในที่นี้ทุกคนต้องปฎิบัติตามกฎของอาจารย์ และตอนสิ้นปีที่ผู้แข็งแกร่งสูงสุดจำนวน 5 คน จะมีโอกาสที่ถูกส่งไปยังเขตตะวันออก จำไว้ว่ามีที่ว่างแค่ 5 ที่เท่านั้น ถ้าไม่สามารถไปที่นั่นได้แล้วพวกเจ้าจะเสียใจ เพราะพวกเจ้าจะต้องอยู่ที่นี้ไปอีกนาน ” ผู้อาวุโสฉีมู่ได้กวาดสายตามองไปยังทุกคนเหล่าผู้มีพรสวรรค์ และด้วยเหตุนี้เขาคิดว่าคงจะไม่มีใครอยากอยู่หลังเพื่อน ๆ เป็นแน่

ด้วยคำพูดของผู้อาวุโสฉีมู่ ทุกคนจ้องมองหน้ากันและกันแสดงสายตาปรากฏถึงความเป็นศัตรูออกมาอย่างชัดเจน นี้คือโลกที่จัดลำดับความแข็งแกร่ง ในปีนี้มีเพียงแค่ 5 คนที่จะถูกส่งไปยังเขตตะวันออก ในขณะที่คนอื่น ๆ จะต้องรอไปอีกหนึ่งปีบนเส้นทางของความแข็งแกร่ง ถ้าเขาปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์โดยตามหลังผู้อื่น  แน่นอนว่าจะไม่มีความสงสารสำหรับผู้อ่อนแอ

ผู้อาวุโสฉีมู่กวาดสายตาไปอีกครั้ง พบว่านักเรียน 36 คนจากเมืองต่าง ๆ และอาณาจักรที่มีขนาดเล็กเหล่านั้นประมาณครึ่งหนึ่งของพวกเขามาจากลูกหลานในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้บางคนยังมีเรื่องลึกลับต่าง ๆ อีกมากเช่นกัน

อย่างไรก็ตามในห้องเรียนนี้ผู้อาวุโสฉีมู่ จะยังคงมีอำนาจควบคุมแม้ว่าจะมีการลงโทษเล็กน้อย แต่ก็จะมีไม่มีตระกูลทรงอำนาจสามารถแตะต้องเขาได้ อาจารย์ของสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้า ตำแหน่งของเขาค่อนข้างสูง

เมื่อสายตาของผู้อาวุโสฉีมู่ เจอเข้ากับเด็กสาวตัวน้อยในเสื้อสีฟ้าอ่อน ถึงกับตกตะลึงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง  เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะมาอยู่ที่นี้ เธอคนนี้งดงามมากและสามารถดึงดูสายตาของคนอื่น ๆ แต่การแสดงออกบนใบหน้าของเธอช่างดูเย็นชา และเธอก็ยังแสดงความกระหายเลือดขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าใกล้

ผู้อาวุโสฉีมู่ ถอนสายตาของเขาและค่อย ๆ กล่าวว่า พวกผู้มีพรสวรรค์ทั้งหลาย แม้ว่าพวกเจ้าจะมีการบ่มเพาะที่ก้าวหน้าไปยังลิขิตสวรรค์ระดับต้นแล้ว แต่สถาบันนี้ก็ห้ามไม่ให้มีการต่อสู้ภายใน ซึ่งอาจารย์ไม่อยากที่จะเห็นใครหรือคนใดพยายามก่อปัญหา พวกเจ้าจะต้องคิดให้ดีถ้าจะทำมันเพราะผลที่ตามมาพวกเจ้าคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน ” ผู้อาวุโสฉีมู่เตือนพวกเขาด้วยความเย็นชา มันเป็นเหมือนอุบายที่เฉียบขาดที่พวกเขาป้องกันไม่ให้เกิดการต่อสู้ภายในสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้า

ในขณะที่เนี้ยหลี่ได้ฟังเรื่องราว ตัวเขากลับสนใจที่จะคิดหาวิธีให้ได้มาซึ่งหินจิตวิญญาณจำนวนมากกว่า เพราะหินจิตวิญญาณ 5 ก้อนที่ได้จากเซียวหยูเมื่อวานนี้ มันใกล้จะหมดแล้ว นับตั้งแต่ที่เขาฝึก[เทคนิคเทพวิถีฟ้า]ขอบเขตวิญญาณของเขาก็กว้างมาก




จบตอน
แปลไทยโดย
Attack On Tabchock 
แพนรวี วรรณรี 

บทที่ 269 - การฝังเข็ม

บทที่ 269 - การฝังเข็ม

หลู่เปียวกระซิบข้างหูของเนี้ยหลี่ “ ทำไมรอบ ๆ ตัวของเจ้าเซียวหยูถึงมีแต่ปัญหามากมายขนาดนี้ละ ถ้าศัตรูมีมากขนาดนี้ ข้าว่าปัญหาไม่มีทางหมดไปแน่! ทำไมเราไม่ไปเข้าร่วมกับเจ้านี่แทนละ? "

" เจ้าควรคิดดูให้ดี ๆ ก่อนสิ ครอบครัวของพวกเราอยู่ภายใต้การดูแลของจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพนะ ” เนี้ยหลี่ กล่าว ในขณะหรี่ตาของเขาไปที่หลู่เปียว

" ข้าก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง แฮะ ๆ " หลู่เปียวแก้ตัว เซียวหยูน่าจะเป็นกังวล เกี่ยวกับ สาว ๆ แต่ ทำไม หญิงสาว ที่มาแต่ละนางสุดยอดทุกคนเลย?  ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคู่แข่งเลย ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะมีผู้ที่มีอำนาจสนับสนุนอยู่พอสมควร

เนี้ยหลี่มองไปที่หยานเฮ่า ก่อนจะยักไหล่และกล่าวว่า "ไม่ว่าเจ้าจะพยายามที่จะโน้มน้าวให้พวกเรายังไง...เราก็ไม่เข้าร่วมกับเจ้าหรอก และอีกอย่างเจ้าไม่มีทางแตะต้องพวกเราได้ภายในสถาบันแห่งนี้ได้ เก็บความสงสารของเจ้ากลับไปซะเถอะ "

" ไม่สามารถแตะต้องเจ้าได้? " หยานเฮ่า หัวเราะออกมาอย่างเย็นชาและกล่าวต่อว่า " เจ้าประเมินข้าต่ำไป! "

หวังหยิงจ้องมองหยานเฮ่าด้วยความโกรธ ก่อนจะตวาดออกไป " หยานเฮ่า!!! ถ้าเจ้ากล้าจะทำอะไรให้กับเพื่อน ๆ ของพี่ใหญ่เซียวหยูละก็ ข้าจะไม่มีวันให้อภัยเจ้า "

หยานเฮ่าหันมาเจอกับสายตาที่เย็นชาของหวังหยิง “ บ้าเอ้ย!!! นิถ้าพ่อของเจ้าไม่เป็นถึงผู้อาวุโสแล้วละก็ มีเหรอที่ข้าจะสนใจคนอย่างเจ้า? ผู้หญิงแบบเจ้า ข้าจะหาเมื่อไหร่ เท่าไหร่ก็ได้ เท่าที่ข้าต้องการ! ”  เขาได้แค่คิด แต่ไม่กล้าพูดคำดังกล่าวออกมา

" เจ้าเซียวหยู ช่างเป็นคนขี้ขลาดนักที่เอาแต่หลบซ่อน ส่งเจ้าสองคนมายืนเฝ้าอยู่ที่นี่แทนมัน? " หยานเฮ่า หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา

" ใครบอกว่าข้าเอาแต่หลบซ่อน? "  เสียงของเซียวหยู ดังมาจากนอกห้องหลังจากหยานเฮ่าพูดจบ

ร่างของเขาปรากฏตัวขึ้นอย่างสง่างามในชุดสีขาวของเขา แก้มของเขาดูเป็นธรรมชาติ และกลิ่นอายที่กล้าหาญออกมาจากศูนย์กลางของคิ้วและด้วยสายตาคมชัดเหมือนกับมองทะลุทุกสิ่งอย่าง ทันทีที่เดินมา ก็ทำให้หยานเฮ่าดูด้อยกว่าเขาเป็นอย่างมาก

แม้ว่าหยานเฮ่าจะถือว่าเป็นหนุ่มหล่อคนหนึ่ง แต่ถ้าเทียบกับเซียวหยูแล้วละก็เขายังถือว่าด้อยกว่ามากนัก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะนำคนสองคนนี้มาเทียบกัน เพียงแค่คิดเขาก็จะตายเพราะความโกรธของตัวเองแล้ว

แค่เพียงสายตาที่เซียวหยูมองมา ก็สามารถทำให้ใบหน้าของหวังหยิงเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย ขณะที่เธอมองไปที่เขาด้วยความอายก่อนจะกล่าวว่า " พี่ใหญ่เซียวหยู ท่านกลับมาแล้ว! "

" อืม " เซียวหยูตอบหวังหยิงด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ใส่ใจกับหวังหยิงเท่าไหร่ ขณะที่เขาเดินไปหา เนี้ยหลี่ และหลู่เปียว

" หลายปีที่ผ่านมาเจ้าก็ยังไม่ได้มีความคืบหน้าใด ๆ ยังคงติดอยู่เพียงแค่ดินแดนลิขิตปฐพียังไม่สามารถก้าวข้ามผ่านไปได้สักที " หยานเฮ่ากล่าวเย้ยหยันใส่เซียวหยู

เซียวหยู่กวาดสายตาของเขามาไปที่หยานเฮ่าและหวังหยิง แล้วกล่าวขึ้นว่า " ที่นี่คือสถานที่ส่วนตัว พวกเจ้าช่วยกรุณาออกไปด้วย? "

หยานเฮ่ามองมาที่หวังหยินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาในขณะนี้ ก่อนกล่าวว่า " หยิงเอ๋อเจ้าได้ยินที่เซียวหยูพูดแล้วใช่ไหม เขาไม่ต้อนรับเจ้า ”

หวังหยิงมองมาที่เซียวหยู เธอก็ยังไม่ไปไหน ดูเหมือนว่าเธอจะหลงไหลในตัวเซียวหยูอย่างมาก เธอชอบบุคลิกที่เซียวหยูเป็น แม้จะจริงที่ว่าเขาเป็นคนเย็นชาแต่มันก็ทำให้เขามีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร

หยานเฮ่าโกรธมาก เขาไม่เข้าใจเลย เมื่อเปรียบเทียบเขากับเซียวหยู เขาเพียงแค่ด้วยกว่าเซียวหยูเล็กน้อยเท่านั้น  หรือนี้อาจจะเป็นเพราะผู้หญิงทั้งหมดหลงใหล ชื่นชอบ ผู้ชายที่มีใบหน้าสวยงาม?

ทันใดนั้นก็มีสองสาวเดินเข้ามาภายในห้อง หนึ่งในนั้นสวมชุดสีขาวและมีรูปร่างที่สง่างาม

" พี่ใหญ่เซียวหยูท่านกลับมา... "  เมื่อหญิงสาวในสีขาวมองที่เซียวหยู สีชมพูจาง ๆ ก็กวาดไปทั่วใบหน้าของเธอ

หญิงสาวในชุดสีขาว เม้มริมฝีปากของเธอขณะที่เธอยิ้ม " พี่ใหญ่เซียวหยู ข้ามีพืชสมุนไพรมาด้วย พวกมันมีสรรพคุณในการเพิ่มประสิทธิภาพของการบ่มเพาะพลัง "

การปรากฏตัวของสองสาวทำให้ใบหน้าของหวังหยิงกลายเป็นสีดำ หญิงเหล่านี้ทำไมพวกเขาทุกคน........ ?!

สำหรับหยานเฮ่า เขาเกือบจะระเบิดความโกรธที่ถูกกักเก็บไว้ออกมา เนื่องจากเซียวหยูเป็นที่นิยมชมชอบของบรรดาสาว ๆ มากเกินไป

สาวสองคนที่มาใหม่และหวังหยิง พวกเธอทุกคนมีผู้มีอำนวจที่อยู่เบื้องหลังคอยดูแลอยู่  ดังนั้นเขาทำได้แต่ กลืนความโกรธของเขากลับไป

เซียวหยูดูเหมือนจะมีอาการปวดหัว เนี้ยหลี่ตบไหล่หลู่เปียวและหัวเราะขึ้น " หลู่เปียวกลับไปที่ห้องของเรากันเถอะ  ที่นี้ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเรา "

หลู่เปียวมองไปที่เซียวหยูอีกครั้งหนึ่ง เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย ได้แต่ถอนหายใจในหัวของเขา เซียวหยูดูดีก็จริงอยู่ แต่ก็ไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะเป็นที่นิยมมากในหมู่สาว ๆ และถ้าเกิดมีการตบตีขึ้นมามันจะลำบาก
ดังนั้นคงจะดีกว่า ถ้าพวกเขาไม่ก้าวก่ายในสถานการณ์ที่อันตรายนี้

เมื่อเซียวหยูเห็นว่าเนี้ยหลี่และหลู่เปียวกำลังจะทิ้งเขาไว้คนเดียว เขากล่าวขึ้นทันทีว่า " รอก่อนนนนนนน! "

" อะไรเหรอ? " เนี้ยหลี่ ถามในขณะที่เขามองไปที่ เซียวหยู

เซียวหยูรู้สึกมืดมนในหัวใจของเขาที่เนี้ยหลี่และหลู่เปียว ต้องการที่จะหนีออกจากสถานการณ์นี้ไป

" ข้าได้ลงทะเบียนให้พวกเจ้าเสร็จสิ้นแล้ว พวกเจ้าสามารถไปรายงานตัวกับอาจารย์ของพวกเจ้าในวันพรุ่งนี้! และนี้เป็นเอกสารยืนยันตัวตนของพวกเจ้า! " เซียวหยูยื่นเอกสาร 2 แผ่นกับเนี้ยหลี่

เนี้ยหลี่รับเอกสารจากเซียวหยูแล้วโบกมือและกล่าวว่า " ขอบคุณ! " จากนั้นเขาก็หันไปรอบ ๆ และเดินกลับไปที่ห้องพักของพวกเขา

เซียวหยูถูกทิ้งไว้คนเดียวที่จะเผชิญกับสามสาวและผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังโกรธ เขาเหมือนตกอยู่ในหลุมแห่งความสิ้นหวัง

เนี้ยหลี่กลับไปที่ห้องของเขาและได้เตรียมความพร้อมที่จะเริ่มต้นการบ่มเพาะของเขา จินตันตื่นขึ้นมาจากการหลับ เมื่อมันเห็นหิตจิตวิญญาณบนโต๊ะ ก็กระพือปีกของมัน ดุ๊กดิ๊ก!!! ในขณะที่มันพยายามที่จะกระโดดขึ้น

มองไปที่การแสดงออกของจินตัน เนี้ยหลี่ถามในขณะที่เขาชี้ไปที่หินจิตวิญญาณที่เหลือบนโต๊ะ " เจ้าอยากที่จะกินสิ่งนี้หรือ? "

จินตันพยักหน้าทันที ความตื่นเต้นปรากฏทั่วใบหน้าของมัน พลังสวรรค์ในหินจิตวิญญาณที่ถูกดูดซึมได้อย่างเต็มที่โดยเนี้ยหลี่แล้ว มันก็ไม่สามารถใช้งานใด ๆ ได้ ไม่แตกต่างจากหินธรรมดา

เนี้ยหลี่เอาหินจิตวิญญาณที่เหลือและโยนมันที่จินตัน มันจับหินโยนเข้าปากของมันและเริ่มเคี้ยว เป็นเสียงที่น่ากลัวจริง ๆ แม้ว่าพลังสวรรค์ภายในหินจิตวิญญาณได้รับการดูดซึมจนแห้ง แต่ด้วยลักษณะของมันของที่แข็งเป็นอย่างมาก ถึงจะใช้สิ่งประดิษฐ์ก็ยังยากที่จะตัด แต่จินตันกลับกัดอย่างกับกัดกินถั่วและกลืนมันลงอย่างง่ายดาย หลังจากกินก้อนแรกเสร็จจินตันก็มองมาที่เนี้ยหลี่อีกครั้ง

" ข้าไม่มีอีกแล้ว " เนี้ยหลี่กล่าว ในขณะที่เขาแบมือของเขาออก

ในดินแดนซากมังกรหินจิตวิญญาณเป็นที่ต้องการและมีความสำคัญมาก ดังนั้นเขาต้องไปหาวิธีการที่จะได้มากขึ้น มิฉะนั้นมันจะไม่เพียงพอที่จะใช้ แต่ในตอนนี้เนี้ยหลี่ยังไม่ได้มีความคิดที่ดีพอ แม้ว่าเขาจะนำสมบัติบางอย่ามาด้วย แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่เขาจะใช้พวกมัน

ดวงตะวันค่อย ๆ มืดและแสงจันทร์ส่องเข้ามาในห้องเนี้ยหลี่กำลังวางผ้าคลุมหน้าสีเงินทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น

* ผลุ! * * * * * * * * ผลุ! * * * * * * * * ผลุ! *  เสียงเคาะหนัก มาจากประตู

เนี้ยหลี่ไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว " เข้ามา! "

เซียวหยูเดินมาสวมใส่เสื้อคลุมสีขาวเรียว ภายใต้แสงจันทร์สะท้อนของเขาดูเหมือนจะเป็นดวงเทพ เนี้ยหลี่ จ้องมองที่เขาอย่างช่วยไม่ได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่บรรดาสาวสามคนถึงหลงใหลในตัวเขา เซียวหยู่มีใบหน้าที่สวยขนาดผู้หญิงยังต้องอิจฉา

" เจ้ามีอะไรให้ข้าช่วย?? " เนี้ยหลี่ ถามในขณะที่เขามองไปที่เซียวหยู

เซียวหยูนั่งอยู่บนที่นั่งอยู่บริเวณใกล้เคียงใน " ต้องขอโทษที่ข้ามารบกวนความสุขของเจ้า! "

" สบาย ๆ " เนี้ยหลี่ยิ้ม

เซียวหยู่นั่งคิดอยู่นานก่อนจะถามไปว่า " นับตั้งแต่ทำการทดสอบรากจิตวิญญาณ ข้าก็อยากจะถามเจ้าว่า เจ้ารู้วิธีที่จะช่วยให้ข้าก้าวผ่านระดับพลังจริงหรือ? "

" แน่นอน " เนียหลี่พยักหน้า

ตาของเซียวหยูสว่างขึ้นในขณะที่เขามองไปที่เนี้ยหลี่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวัง " เจ้ารู้วิธีหรือไม่ "

เนี้ยหลี่มองที่เซียวหยูและกล่าวว่า " ที่เจ้ากำลังฝึกอยู่คือ[เทคนิคหมื่นมังกรคำราม] ใช่มั้ย? "

" ถูกต้อง เจ้ารู้จักเหรอ? " เซียวหยูกล่าวขึ้น ในขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มสั่นสะท้าน [เทคนิคหมื่นมังกรคำราม] เป็น เทคนิคการบ่มเพาะที่ถูกมอบให้โดยพ่อบุญธรรมของเขา และเป็นเทคนิคการลึกลับมาก เขาไม่เคยคิดว่าเนี้ยหลี่ได้รู้จะจักมัน

" [เทคนิคหมื่นมังกรคำราม] ที่เจ้ากำลังใช้อยู่มันยังไม่สมบูรณ์ นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าเจออุปสรรคเมื่อเจ้าพยายามที่จะก้าวจากดินแดนลิขิตปฐพีไปยังแดนแดนลิขิตสวรรค์ " เนี้ยหลี่กล่าว

" แล้วไม้ไผ่ม่วงที่เจ้าพูดถึงก่อนหน้านี้ละ " เซียวหยูถามด้วยความสงสัย

เนี้ยหลี่หัวเราะ  " ข้าเพียงแค่อยากจะข่มขวัญเจ้าฮวาหลิงแค่นั้นเอง "

ช่วยไม่ได้ที่เซียวหยูจะหัวเราะออกมา ที่คนอย่างฮวาหลิงโดนเนี้ยหลี่ปั่นหัวเอาได้ เมื่อเซียวหยูยิ้มก็ปรากฏ ริมฝีปากที่เรียบและคงมีรสชาติที่เกินบรรยายถ้าได้สัมผัส เนี้ยหลี่ตะลึงในขณะที่เขาจ้องมอง นี้ถ้าเซียวหยูเป็นหญิงสาวคงเป็นคนที่มีเสน่ห์ที่มีคนต้องการของคนไม่ถ้วน

เซียวหยูหน้าแดงเล็กน้อย กล่าวอย่างเชื่องช้าว่า " แล้วข้าจะสามารถประสบความสำเร็จได้หรือไม่ "

" ความก้าวหน้าเป็นไปได้ ข้ามีวิธีที่จะทำให้เจ้าประสบความสำเร็จแต่ข้าจะต้องดำเนินการฝังเข็มกับเจ้า เผื่อที่จะเชื่อมโยงจุดเจี้ยนจิงและจุดตันเถียน ด้วยวิธีการนี้เจ้าจะสามารถประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะได้ " เนี้ยหลี่กล่าว

ส่วนหนึ่งของผลจากการฝังเข็มนี้คือการช่วยให้โคจรพลังวิญญาณหรือพลังงานสวรรค์เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บภายใน

เซียวหยูดูเหมือนจะลังเลเล็กน้อย " เจ้าแน่ใจนะ ? "

" แน่นอน ทักษะการฝังเข็มของข้าถูกต้องอย่างแน่นอน เพียงไม่กี่เข็มข้าก็สามารถรับประกันความก้าวหน้าของเจ้าไปถึงระดับลิขิตสวรรค์ได้อย่างแน่นอน " เนี้ยหลี่ กล่าวด้วยความมั่นใจ

เซียวหยูพยายามคิดอยู่นานในขณะที่อยู่ในหัวใจของเขา ในที่สุดเขาก็พยักหน้า " ตกลงข้าจะลองฝังเข็มดู! "

ถึงขณะนี้แม้จะมีความจริงที่ว่าเขาทำมาหมดแล้วทุกวิธีการ เขาก็ยังไม่สามารถที่จะไปถึงดินแดนลิขิตสวรรค์ได้ ถ้าหากมีโอกาศหรือวิธีการที่อาจจะช่วยได้ละก็เขาจะไม่ปล่อยผ่านโอกาสดังกล่าวนี้แน่

เซียวหยูค่อย ๆ ปลดเสื้อของเขาจนจะห้อยลงมาจากข้อศอกของเขา ไหล่ของเขาถูกเปิดเผยออกมาด้วยท่าทีที่เอียงอายเหมือนหญิงสาว

" เจ้าสามารถถอดเสื้อของเจ้าออกได้นะ ยังไงเราทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้ชาย มีอะไรที่จะต้องอาย? " เนี้ยหลี่ กล่าวออกมาหลังจากที่ได้มองอย่างอึดอัดใจมาก ด้วยวีธีที่เซียวหยูถอดเสื้อ

" ไม่จำเป็น " เซียวหยูกล่าวในขณะที่ใบหน้าของเขาเป็นสีแดงทั้ง 2 ข้าง

เนี้ยหลี่ยักไหล่ถ้าเซียวหยูต้องการที่เป็นเช่นนั้นแล้วเขาก็จะไม่บังคับ เนี้ยหลี่ก้มหน้าของเขาลงเพื่อตรวจสอบไหล่ของเซียวหยู ไหล่ทั้งสองข้างของเซียวหยูเรียบเนียนและนุ่ม กระดูกไหปลาร้าของเขาเหมือนงานประติมากรรมหยกที่สวยงาม ถึงขนาดที่ว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นที่เปรียบได้

เนี้ยหลี่สีหน้าแปลก ๆ ในขณะที่เขาตรวจสอบเซียวหยู ผิวเซียวหยูดูเหมือนถูกบำรุงรักษาอย่างดีนุ่มนวลกว่าหญิงสาวคนหนึ่งเสียอีก  ทันใดนั้นเนี้ยหลี่ก็ต้องเปลี่ยนความคิด *ผู้ชาย...ผู้ชาย...ผู้ชาย*

เขาเอาเข็มออกมาและค่อยปักมันลงในจุดเจี้ยนจิงทั้งสองจุด เซียวหยูครางออกมาอย่างช่วยไม่ได้เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่เมื่อเข็มของเนี่ยหลี่เจาะผิวหนังของเขา ความคันวิ่งผ่านร่างกายทั้งหมดของเขาและความรู้สึกสุข สุด ๆ แผ่ซ่านผ่านเส้นลมปราณ แต่หัวใจของเขาสั่นสะท้านขณะที่เขารู้สึกกลิ่นอาย ในขอบเขตจิตวิญญาณของเขากลายเป็นที่ตื่นเต้นแตกต่างจากเมื่อเขาได้รับการปลูกฝัง

โอ้ว มันยอดเยี่ยมมากเลย! หัวใจของเซียวหยูก็รู้สึกตื่นเต้นมากหลังจากที่ เนี้ยหลี่วางเข็มแรกเขาตามมาด้วยเข็มที่สองที่สาม จุดฝังเข็มของเซียวหยู ผิวที่ขาวดังหยกของเซียวหยูก็เปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อน ๆ ในจุดที่มีเข้มปักอยู่

“ เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง? " เนี้ยหลี่ถามในขณะที่เขามองไปที่เซียวหยู

" ข้ารู้สึกว่ามัน..........!!! " เสี่ยวหยูกล่าวอย่างตื่นเต้น พลังสวรรค์ในจิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่มันแผ่ซ่านไปในเส้นลมปราณ และผ่านร่างกายทั้งหมดของเขา



จบตอน
แปลไทยโดย
ลิงน้อย วิถีเม่า

วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

บทที่ 268 - หยิงเอ๋อ

บทที่ 268 - หยิงเอ๋อ

เซียวหยูไม่ได้สนใจเสียงนินทาของนักเรียนที่พูดคุยกัน เขายังคงพาเนี้ยหลี่และหลู่เปียวเข้าไปตามทางเล็ก ๆ ผ่านไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่แห่งนี้มีหลายภาคส่วน เซียวหยูก็มาถึง ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่เงียบสงบมากขึ้น

 อัจฉริยะที่เข้าสู่ส่วนตะวันตกจะอาศัยอยู่รอบ ๆ บริเวณนี้ มันจะเป็นการดีที่สุดถ้าพวกเจ้าไม่ไปสร้างปัญหาให้พวกเค้า พวกเขาที่อาศัยอยู่ที่นี่มักจะมาจากตระกูลที่ไม่ธรรมดา เซียวหยูเตือนในขณะที่เขาก็ไม่รู้สึกมั่นใจนักและกล่าวต่ออีกว่า “  ต่อไปพวกเจ้าจะมาฝึกฝนในที่แห่งนี้ 

เนี้ยหลี่มองไปยังรอบ ๆ และเห็นที่พักสองหลังในพื้นที่นี้ เนี้ยหลี่และหลู่เปียวจะอาศัยอยู่ถัดไปจากเซียวหยู

เซียวหยูมองไปทางเนี้ยหลี่และพูดว่า  ข้าไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาในห้องของข้า ก่อนที่จะข้าจะอนุญาต และอย่ามาหาข้าโดยไม่จำเป็น  เขายังคงมีความกังวลอยู่เกี่ยวกับเนี้ยหลี่

 ได้เลย  เนี้ยหลี่ยักไหล่ตอบ แต่ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำพูดเซียวหยูมากนัก

เนี้ยหลี่และหลู่เปียว เดินไปรอบ ๆ ลาน ที่นี่มีสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก มีเสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้ นอกจากนี้ยังมีลำธารเล็ก ๆ ไหลมาจากภูเขา พวกเขาทั้งสองพอใจกับที่พักนี้ เขายอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อจะได้อาศัยอยู่ที่นี่เลย

ข้าจะให้ของขวัญพวกเจ้าสองคนเป็นหินจิตวิญญาณ เจ้าสามารถเริ่มฝึกฝนและดูซับพลังงานจากมันได้  เซียวหยูกล่าวและหยิบหินไปให้เนี้ยหลี่และหลู่เปียว จากนั้นเขาพูดต่อ  ข้าจะไปลงทะเบียนที่พักให้พวกเจ้าข้างนอกนะ 

หลังจากแจ้งราคาที่พักกับเนี้ยหลี่และหลู่เปียวแล้ว เซียวหยูก็เดินออกไป เนี้ยหลี่เอาหินจิตวิญญาณออกมาและนั่งเพ่งสมาธิในขณะที่เขาเริ่มฝึกฝน เทพธิดายู่เหยียน บินออกมาจากแขนเสื้อของเนี้ยหลี่แบบทุลักทุเล

 ข้าเกือบตายอยู่แล้วเนี้ย  เทพธิดายู่เหยียน กล่าวอย่างประชด

นับตั้งแต่พวกเขามาถึงดินแดนซากมังกร นางต้องซ่อนตัวอยู่ในแขนเสื้อเนี้ยหลี่ แม้นางจะรู้ว่านางไม่สามารถแอบซ่อนได้ตลอดไป แต่ยางก็ไม่อยากให้เป็นที่ดึงดูดความสนใจจากนักเรียนคนอื่นในสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้าและแถมยังนำเอาสัตว์เลี้ยง (จินตัน) มาด้วยอีก ดังนั้นคนในดินแดนซากมังกรก็จะปฏิบัติต่อนางเสมือนเป็นสัตว์เลี้ยงเช่นกัน

สำหรับจินตัน ก่อนที่จะเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ เนี้ยหลี่วางเขาไว้ในกระเป๋า และดูเหมือนมันก็เข้าสู่ช่วงจำศีลและหดหัวเท่ากำปั้นพอดี อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากคนอื่น

เจ้าตัวน้อย (จินตัน) เนี้ยหลี่ยังไม่มีวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับมัน แต่ตอนนี้มันกำลังนอนหลับ เนี้ยหลี่ยังต้องกังวลอีกครั้งเมื่อถึงเวลานั้น

 มันเป็นจริงหรอเนี้ย ที่มีกองกำลังเป็นจำนวนมากในดินแดนซากมังกร  เทพธิดายู่เหยียน พูดออกมาพร้อมกับถอนหายใจ

ตามที่เทพธิดายู่เหยียนใช้จิตสัมผัสได้ มีคนเป็นจำนวนมากที่มีความแข็งแกร่งและสร้างความประหลาดใจให้นางอย่างเต็มที่ เกือบทุกคนในดินแดนแห่งนี้ล้วนเป็นผู้เชียวชาญในแต่ละส่วน

 แน่นอนอยู่แล้ว โลกของเราจะไปเทียบกับดินแดนซากมังกรได้อย่างไร  เนี้ยหลี่พูด

ตลอดทั้งชีวิตของเทพธิดายู่เหยียนอยู่แต่ในโลกใบเล็กเท่านั้น นางไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้เลย แม้ว่าเนี้ยหลี่อยากจะให้เทคนิคฝึกพลังกับเทพธิดายู่เหยียนแต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ตั้งแต่ที่นางไม่ได้อยู่ในรูปแบบชีวิตปกติ เขารู้แค่โครงสร้างจารึกภายในของนางเท่านั้น อย่างไรก็ตามเนี้ยหลี่รู้สึกว่าเปลวไฟของนางนั้นมีพลังพิเศษและมันยังมีความลี้ลับอยู่ในร่างกายของนาง ดังนั้นการฝึกฝนของนางจึงแตกต่างออกไป

 เนี้ยหลี่ ข้าต้องการใช้เวลานี้เพื่อฝึกฝน รังสีอาร่าที่เปร่งออกมาภายในดินแดนซากมังกรนี้แตกต่างจากในโลกของเรา ข้าไม่สามารถดูดซับมันได้เลย  เทพธิดายู่เหยียนบินลอยในอากาศและในขณะที่นางฝึกฝน นางปิดตาและเริ่มใช้เปลวไฟหมุนรอบตัวนาง ตอนนี้มันเหมือนกับว่านางเข้าสู่ส่วนลึกของการฝึกฝนไปแล้ว

เนี้ยหลี่เอาหินจิตวิญญาณของเขาออกมา เขามีวิธีในการดูซับพลังงานจากมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาอยากจะเข้าไปสู่ระดับลิขิตสวรรค์โดยเร็ว เขาควบคุมขอบเขตวิญญาณในตัวเขาและค่อย ๆ ดูดซับจากหินจิตวิญญาณ และทำการปรับแต่งจิตภายในร่างกายและส่งพลังกระจายไปทั่วร่างกาย ก่อนหน้านี้เขาติดอยู่ในโลกแต่ตอนนี้เขาก็จะสามารถดูซับพลังสวรรค์ได้แล้ว

เนี้ยหลี่ฝึกฝนโดยใช้เทคนิคเทพวิถีฟ้า เขารู้สึกว่าพลังสวรรค์เข้าไปในส่วนกลางจิตวิญญาณอย่างช้า ๆ และรู้สึกถึงพลังสวรรค์ที่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา หลังจากนั้นพลังสวรรค์จากหินจิตวิญญาณก็เริ่มมีปัญหา เนี้ยหลี่รู้สึกได้ว่าเขาดูดพลังสวรรค์จากหินจิตวิญญาณจนจะหมด

เมื่อรู้สึกถึงพลังสวรรค์กำลังจะหมด เนี้ยหลี่ยิ้มอย่างขมขื่น นับตั้งแต่ที่เขาฝึกฝนใช้เทคนิคเทพวิถีฟ้า ความจุของขอบเขตวิญญาณในตัวเขานั้นกว้างใหญ่มาก แค่หินจิตวิญญาณก้อนเดียวไม่เพียงต่อเขาเลยสักนิด มันเหมือนเขาเพิ่งกินเนื้อไปหนึ่งคำและมันถูกตัดส่วนที่เหลือออกไปกะทันหัน และไม่มีให้กินต่อ

 ข้าต้องหาทางที่จะทำให้ได้รับหินจิตวิญญาณให้มากขึ้น  เนี้ยหลี่คิดในใจ ตราบใดที่เขามีหินจิตวิญญาณที่เพียงพอ ด้วยรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 8 แล้วละก็ ความก้าวหน้าในการฝึกฝนหลังจากผ่านไปถึงระดับลิขิตสวรรค์จะดูซับพลังสวรรค์อย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาจะต้องเกิดปัญหาที่มีหินจิตวิญญาณไม่เพียงพอ หลังจากที่เขาเข้ามาในดินแดนซากมังกร พลังของเขายังตามหลังจอมมารอยู่ เขาจึงต้องรีบฝึกฝน

ในขณะที่เนี้ยหลี่และหลู่เปียวฝึกฝนอยู่ ก็มีคนมาเคาะประตู ก๊อก ๆ

เสียงอ่อนหวานอย่างสดใส  พี่เซียวหยูจ๋า พี่อยู่หรือเปล่าจ๊ะ  เสียงนุ่มลึกสยิวไปถึงกระดูกเลย

เมื่อได้ยินเสียงจากด้านนอก หลู่เปียวเปิดตาและยิ้มบนมุมปากอย่างชั่วร้าย เขาหันไปหาเนี้ยหลี่ และกล่าว  เนี้ยหลี่ กิ๊กของเซียวหยูมาว่ะ 

 เซียวหยูไม่ได้อยู่ที่นี่  เนี้ยหลี่ตะโกนออกไปในขณะที่เขายิ้มเจื่อน ๆ มาทางหลู่เปียว เจ้านี่ช่างทะเล้นซะจริง

 หืม  เสียงประหลาดใจจากด้านนอกพร้อมทั้งประตูเปิดออก

สาวสวยที่เห็นตรงประตูอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปี นางสวมชุดยาวสีเหลืองและมีผิวขาวสดใส สายตาของนางสดใสเหมือนน้ำพุ พวกเขาทั้งสองมองไปที่นาง สาวคนนี้มีรูปร่างและผิวพรรณที่สวยดุจไข่มุก เปล่งปลั่งดุจหยกเรืองแสง คิ้วของนางบ่งบอกถึงความมีไหวพริบ

หญิงสาวที่อยากรู้อยากเห็น มองไปที่เนี้ยหลี่และหลู่เปียว  พี่เซียวหยูไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกหรอ แล้วพวกเจ้าเป็นใครหรอจ๊ะ 

เนี้ยหลี่มองไปที่หญิงสาวและกล่าว  พวกเราเป็นเพื่อนของเซียวหยู ตอนนี้เขาออกไปข้างนอก เจ้ามาหาเขาทำไมหรอ 

หลู่เปียวจ้องมองไปที่หญิงสาวแบบไม่กระพริบตา เขาถอนหายใจและรู้สึกมีความทุกข์ในหัวใจ นี่กิ๊กของเซียวหยูแม่งโครตแจ่มเลย ตั้งแต่เกิดมาเจอสาว ๆ ที่เคยเจอ นางเป็นรองเพียง เอียจืออวิ้นและเซี่ยวหนิงเอ๋อ อยู่เล็กน้อยเท่านั้น

 โอ้ ไม่มีอะไรมากหรอจ๊ะ ข้าได้ยินว่าพี่เขากลับมาแล้ว ข้าจึงอยากรีบมาทักทายเขา ข้าไม่คิดว่าจะเจอพวกเจ้าทั้งสอง พวกเจ้าเป็นศิษย์ใหม่หรอจ๊ะ  หญิงสาวมองและกระพริบตา

 ถูกต้องนะคร๊าบบ  หลู่เปียวพยักหน้าทันที

 อืม...ข้าชื่อ หวังหยิง ข้ากับพี่เซียวหยูเป็น.....เอ่อ..... เป็นเพื่อนกัน  รอยสีแดงเข้มปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว

เนี้ยหลี่มองด้วยสายตาก็รู้ทันทีว่า หญิงสาวคนนี้ชอบเซียวหยู  เจ้าต้องการจะรอจนกว่าเซียวหยูจะกลับมาหรือว่า..... "  เนี้ยหลี่ถาม

หวังหยิง ครุ่นคิดชั่วขณะแล้วกล่าว  งั้น ในระหว่างนี้ขอรอที่นี่ละกันนะจ๊ะ 

เพียงสักครู่เดียว ก็มีหนุ่มสวมเสื้อสีขาวเดินเข้ามา เมื่อเห็นหวังหยิงใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมในทันที  หยิงเอ๋อ เจ้าทำไมถึงอยู่จริงด้วย หลังจากที่ข้าได้ยินว่าเซียวหยูกลับมา ข้าก็เดาแล้วว่าเจ้าจะต้องมาที่นี่ 

 หยานเฮ่า ทำไมเจ้าต้องตามข้ามาด้วย  หวังหยิงแสดงความไม่พอใจ

 หวังหยิง  เจ้าเซียวหยูมันมีอะไรดีนัก ถึงทำให้เจ้าต้องคิดถึงแต่มันตลอดเวลา  หยานเฮ่ากล่าวด้วยความไม่พอใจ ในแง่ของฐานะครอบครัวเขาดีกว่าเซียวหยูหลายเท่า ในแง่ของความหล่อ เขายอมรับว่าด้อยกว่าเพียงเล็กน้อย แต่เซียวหยูอยู่ห่างไกลจากเขาตั้งเยอะ

 ข้ามีความสุขที่จะทำอย่างนี้ เจ้าไม่ต้องมาสนใจข้าหรอก  หวังหยิงบ่นเหมือนว่านางจะไม่ชอบหยานเฮ่า

หยานเฮ่ากวาดสายตาไปที่เนี้ยหลี่และหลู่เปียว และกล่าวอย่างเย็นชา  พวกเจ้าทั้งสองเป็นอัจฉริยะที่มาจากโลกใบเล็กใช่ม่ะ รากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 8  และรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 5 งั้นหรือ ”

เนี้ยหลี่เหลือบมองไปทางหยานเฮ่า แต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามเขา หลู่เปียวยังรำคาญขี้เกียจตอบกลับ

 ข้าถามพวกเจ้าอยู่นะ  หยานเฮ่ากล่าวด้วยเสียงเย็นชาและขมวดคิ้ว

เนี้ยหลี่กวาดสายตามมาที่หยานเฮ่าและกล่าว  ดูเหมือนไม่มีความจำเป็นที่ข้าต้องตอบคำถามเจ้านะ 

หยานเฮ่าอึ้งไปสักพักและเดินเข้ามาในห้องโดยไม่ขอใคร ซึ่งเนี้ยหลี่ไม่ชอบใจ

 ชิชะ แกรู้มัยว่าข้าคือใคร อย่าคิดว่าที่เข้ามาอยู่ภายในสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้าและมีรากจิตวิญญาณสวรรค์ แล้วจะมาหยิ่งยโสได้นะ ทางที่ดีแกควรถามคนอื่น ๆ ว่าใครคุมในที่แห่งนี้ ข้ารู้ว่าแกมีรากจิตวิญญาณสวรรค์ แต่ก่อนที่แกจะไปถึงระดับลิขิตสวรรค์ พวกแกก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนอื่น  หยานเฮ่าส่งจิตสังหารกดดันไปทางเนี้ยหลี่และหลู่เปียว

หยานเฮ่านี้อยู่ในระดับลิขิตสวรรค์แล้ว ทำให้เนี้ยหลี่และหลู่เปียวรู้สึกกดดันหายใจไม่ออกทันที

อย่างไรก็ตาม หยานเฮ่าทำได้แค่ส่งจิตสังหารกดดันเท่านั้น เขายังไม่กล้าที่จะฆ่าใครในสถาบันแห่งนี้ ถ้าเขาพลังมือฆ่าใครในสถาบันนี้ ครอบครัวของเขาก็ไม่อาจปกป้องได้เช่นกัน

เนี้ยหลี่ส่งสายตาเย็นชาไปที่หยานเฮ่า ในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้เขาพบเจอผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากแต่ละคนมาจากตระกูลที่แข็งแกร่งกว่าหยานเฮ่ามาก แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยลืมสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีระดับลิขิตสวรรค์เขายังคงมีจิตสังหารจากชาติที่แล้วติดตัวมาด้วย เนี้ยหลี่กำลังจะปล่อยจิตสังหารออกมาส่วนทางกลับไป

หวังหยิงรีบมายืนอยู่ระหว่างเนี้ยหลี่และหยานเฮ่า นางจ้องด้วยสายตาเย็นชาไปที่หยานเฮ่า หยานเฮ่า เจ้ากำลังจะทำอะไร  เจ้าห้ามทำร้ายเพื่อนของพี่เซียวหยูแบบนี้นะ

หยานเฮ่ารีบลบกลิ่นอายรังสีสังหารออกและกลบเกลื่อนบรรยากาศกับเนี้ยหลี่ที่ยืนข้างหลังนาง เท่าที่สังเกตุเนี้ยหลี่นั้นยังคงอยู่ในระดับลิขิตปฐพี ทำไมเขารู้สึงถึงรังสีสังหารที่ปล่อยออกมาจากเขาแม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับคนที่มีรังสีสังหารระดับลิขิตสวรรค์ ทำไมเขาถึงไม่เกรงกลัวละ?

รังสีสังหารปรากฏออกมาจากสายตาของเนี้ยหลี่ในชั่วครู่หนึ่ง เขารีบควบคุมจิตตนเองกลับมาสู่ความสงบ มันจะเป็นการดีกว่าถ้าไม่ทำให้หยานเฮ่ารู้

หยานเฮ่ากล่าวอย่างเย็นชา  พวกแกทั้งสองคนหลบอยู่หลังผู้หญิง วันนี้ข้าจะปล่อยไปก่อน แต่ข้าแนะนำว่าอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเซียวหยูจะดีกว่า แน่นอนพวกแกจะไม่ได้อะไรถ้ายังอยู่กับขยะอย่างมัน แต่ถ้าพวกแกต้องการมาติดตามข้า ข้าจะพิจารณาให้เป็นพิเศษ