เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใครก็ตามที่หลงไปกับความงามของฮวาฮัว ก็ต้องเปลี่ยนความคิดไปอย่างรวดเร็ว ความหนาวเย็นสุดขั้วหัวใจลามไปถึงกระดูกสันหลัง เมื่อพวกเขามองไปยังเรียวขาที่ดูบอบบางแม้ว่าเรียวขานั้นจะงดงาม แต่พวกเขายังไม่อยากจะตายคาขาคู่นั้น
นอกเหนือจากฮวาฮัว , ชางหมิง และ มู่เอีย ก็ยังมีหนุ่มสาวอัจฉริยะอีกมากมายหลายคน
และก็ยังมีเด็กอีกหลายคน และถึงแม้การบ่มเพาะพลังของพวกเขาจะอยู่เพียงแค่ระดับแบล็คโกล แต่พวกเขาก็ยังนับว่าเป็นอัจฉริยะในหมู่คนรุ่นเดียวกัน เพราะงั้นก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ในเรื่องอัจฉริยภาพเมื่อเทียบกับคนรุ่นก่อนอย่างสิ้นเชิง
เสียงประกาศดังก้องไปทั่วท้องฟ้า
“ เริ่มการทดสอบ! ” หนึ่งในข้ารับใช้โบกมือของเขาและส่งอานุภาพแห่งกฎขึ้นไปบนท้องฟ้า แบ่งออกมาเป็นหมื่นส่วน แต่ละส่วนค่อยๆ กลายเป็นลูกบอลน้ำขนาดประมาณศีรษะมนุษย์ ลอยไปหาแต่ละคน ลูกบอลน้ำเหล่านั้นโปร่งใส แต่อย่างไรก็ตาม มันพุ่งทะลุผู้คนออกไป
เนี้ยหลี่คิ้วกระตุกเมื่อเขาสังเกตุไปยังบอลน้ำเบื้องหน้าเขา ทรงกลมนั้นมันกลับตาลปัต! นี่คือการทดสอบการควบคุมพลังวิญญาณหรืออานุภาพแห่งกฎของแต่ละคน!
ข้ารับใช้ยังคงประกาศกฎออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ ภายในลูกบอลน้ำพวกนั้นจะกลับด้านกันอยู่ ให้พวกเจ้าขยายขนาดของมันด้วยอานุภาพแห่งกฎหรือพลังวิญญาณด้วยความละเอียดอ่อน ถ้ารุนแรงกับมันมากเกินไป มันจะระเบิดออก ถ้าสามารถขยายมันออกไปได้ 1ฟุต เจ้าก็ผ่าน ”
การควบคุมพลังวิญญาณและอานุภาพแห่งกฎได้มากกว่า 1(ประมาณว่าทำ2อย่างพร้อมๆกัน) นั่นจะทำให้สามารถสู้กับคนที่มีการบ่มเพาะที่สูงกว่าได้ นอกจากนั้นมันยังแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อพลังวิญญาณและอานุภาพแห่งกฎ
เมื่อเห็นลูกบอลน้ำลอยมายังเบื้องหน้าของแต่ละคน ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนก็ไม่รีรอที่จะลอง พวกเขาวางมือลงบนผิวของมัน แล้วค่อยๆ ถ่ายเทพลังวิญญาณเข้าไปภายใน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง มันก็ระเบิดออกใส่หน้าของพวกเขา
ภายในแววตาของพวกเขาปรากฎแววตาที่ว่างเปล่าอย่างไม่อาจเข้าใจได้ในสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม จารึกภายในเขตอาคมใต้เท้าของพวกเขาเรื่องแสงขึ้นพร้อมกับปกครุมไปทั่วทั้งร่าง ชั่วอึดใจหนึ่ง พวกเขาก็หายไปจากชั้นที่7ของหอคอยมรณะ
ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ เริ่มลงมือพยายามปล่อยพลังวิญญาณเข้าไปในบอลน้ำเหล่านั้น แต่ส่วนมากพวกเขาจะเปลี่ยนเป็นแสงสีขาวและหายไป
เนี้ยหลี่มองไปยังรอบๆ ตอนนี้เหลือผู้เข้าร่วมการทดสอบราวๆ หนึ่งร้อยคนเท่านั้น เขาตระหนักได้ว่าผู้เชี่ยวชาญหลายคนไม่เข้าใจว่าเหตุใดบอลน้ำจึงระเบิดออก เหตุผลที่มันระเบิดออกก็คือสาเหตุเดียวกับที่ภาพภายในนั้นมันกลับด้าน ความละเอียดอ่อนของมันต้องควบคุมผ่านพลังวิญญาณ
หลู่เปียวมองมาทางเนี้ยหลี่พร้อมกับถามขึ้นว่า “ เนี้ยหลี่ ข้าจะทำอย่างไรกับเจ้านี่ดี ”
“ หลับตาแล้วใช้อานุภาพแห่งกฏสิ เจ้าจะสัมผัสได้ถึงมัน! ” เนี้ยหลี่ตอบ
“ ถ้าเป็นแบบนั้นก็พอจะเข้าใจละ ” ตู่ซือเบิกตากว้าง เขาเป็นคนฉลาดและสามารถเข้าใจมันได้เพียงแค่ได้คำใบ้เล็กน้อย เขาวางมือลงบนลูกบอลและค่อยๆ ถ่ายเทพลังวิญญาณเข้าไปภายใน
จำนวนของผู้คนที่ระเบิดออกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนที่จากไปแล้วไม่สามารถช่วยกลับมาได้ แต่ดูเหมือนจะมีบางคนที่ได้ผ่านบททดสอบนี้แล้ว
บอลพลังงานของชางหมิงขยายออกไปถึง3ฟุต ก่อนที่มันจะระเบิดออก ฉากที่ได้เห็นทำให้เหล่าข้ารับใช้พยักหน้าเบาๆ " ดูเหมือนว่าในหมู่รุ่นเยาว์เหล่านี้ยังพอมีผู้มีความสามารถอยู่บ้าง "
หลังจากที่เสร็จสิ้นการทดสอบ ชางหมิงเงยหน้าขึ้นมาทางด้วยใบหน้าที่ภาคภูมิใจ มู่เอีย ฮวาฮัว และคนอื่นๆ ที่อยู่ห่างออกไป ในบรรดารุ่นเยาว์ทั้งหมด มีเพียงพวกเขาที่ดึงดูดความสนใจได้
มู่เอียปล่อยอานุภาพแห่งกฏของเขาเข้าไปในบอลน้ำ ทำให้มันขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันระเบิดออกมา.
“ หนึ่งฟุต! ” ผู้รับใช้คนหนึ่งพูดขึ้น
ชางหมิงเหลือบตามองไปทางมู่เอียที่กำลังยิ้มบางๆ อย่างรวดเร็ว เขาตระหนักได้ว่ามู่เอียยังคงปกปิดความสามารถเอาไว้จนกระทั่งตอนนี้ ชางหมิงยังคงไม่รู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของเขา
ฮวาฮัววางมือลงบนทรงกลมและอัดอนุภาพแห่งกฎเข้าไป บอลน้ำขยายตัวออกไปถึง3ฟุต ก่อนจะระเบิดออก เมื่อเห็นเช่นนั้น ชางหมิงคิ้วกระตุก อย่างน้อยในแง่ของการควบคุมอานุภาพแห่งกฎ ฮวาฮัวไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา ทั้งมู่เอียและฮวาฮัวจะเป็นตัวเต็งในการคัดเลือกศิษย์ของจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพ!
ผลการทดสอบที่ปรากฎออกมา มีหลายคนที่สามารถทำได้ 1ฟุต มีบ้างที่ได้ 2ฟุต และ3ฟุต ที่สามารถนับคนได้
“ การทดสอบที่ไร้สาระ! ” ภาพที่เห็นจอมมารที่วางมือลงบนผิวของบอลพลังค่อยๆเอ่อล้นขึ้นมา หนึ่งงฟุต สองฟุต สามฟุต อานุภาพแห่งกฎโคจรภายในทรงกลมจนกระทั่งเส้นผ่าศูนย์กลางถึง7ฟุต ก่อนระเบิดออก
อย่างไรก็ตาม เมื่อจอมมารลงมือกลับไม่ค่อยมีคนสังเกตุมัน
เห็นเช่นนั้นเหล่าข้ารับใช้ถึงกับขมวดคิ้ว พวกเขาไม่คิดเลยว่า ในคนกลุ่มนี้มีคนที่มีพลังถึงเพียงนั้น เป็นพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม บางทีแม้แต่จ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพคงจะยอมรับและสนับสนุนเขา
ในเวลาเดียวกัน เนี้ยหลี่และพรรคพวกได้เสร็จสิ้นการทดสอบแล้ว
“ ฮ่าๆ อานุภาพแห่งกฎของฉันสามารถขยายมันได้ถึงสองฟุต! ” หลู่เปียวเอามือท้าวเอวและอุทานอย่างตื่นเต้นและยังเอ่ยอีกว่า “ บางทีแท้จริงแล้ว ข้าอาจจะเป็นอัจฉริยะ! ก็ได้ ”
“ ข้าทำได้ 3ฟุต คนอื่นๆ เป็นไงบ้าง? ” เหวยหนานมองไปยังคนอื่นๆ พร้อมกับถามขึ้น
“ 3ฟุตแล้ว ”
“ 3ฟุตแล้ว! ” จูอวีจวิน , เซียวเสว่ , และคนอื่นๆ
คำตอบเหล่านั้นทำให้ใบหน้าของหลู่เปียวเจื่อนลง ในหมู่พวกเขา ตัวเขาแย่ที่สุด ถ้าหากเหวยหนานและคนที่เหลือได้ถึง 3ฟุต นั่นไม่ต้องพูดถึงเนี้ยหลี่ พอคิดแบบนั้นหลู่เปี่ยวถึงกับเศร้า ทำไมเขาถึงทำได้แย่สุดทุกที ?!
“ พวกเจ้าได้ 3ฟุต เหมือนกันงั้นหรือ? ” เนี้ยหลี่มองไปทางเซี่ยวหนิงเอ๋อ เอียจืออวิ้น และต้วนเจี้ยน.
“ ข้าได้ 5ฟุต ” เอียจืออวิ้นตอบ
“ข้าก็ 5ฟุต ” เซี่ยวหนิงเอ๋อตอบพร้อมกับชำเลืองมองไปทางเอียจืออวิ้น ความสามารถของทั้งสองคนทัดเทียมกัน
“ ข้าได้เพียง 4ฟุต ” ต้วนเจี้ยนกล่าว
" ข้าเองก็ได้เพียง 5ฟุต แล้วเจ้าล่ะเนี้ยหลี่? ” ตู่ซือมองไปทางเนี่ยหลี่พร้อมกับถาม
ความจริงที่ตู่ซือสามารถขยายออกไปได้ถึง 5ฟุต ทำให้เนี้ยหลี่แปลกใจเล็กน้อย พรสววรค์ของตู่ซือห่างไกลกับเอียจืออวิ้นและเซี่ยวหนิงเอ๋อ อย่างไรก็ตามเขาสามารถทำได้ แม้ในชาติที่แล้วตู่ซือจะไม่ได้มีพรสวรรค์มากนัก แต่ด้วยการฝึกฝนที่หนักหน่วงและความชาญฉลาดของเขานั้นทำให้เขาสามารถประสบความสำเร็จ
“ ข้าทำได้แค่สองฟุตเท่านั้น ” เนี้ยหลี่หัวเราะ
“ ฮ่าๆๆ! ในที่สุดก็มีคนทำได้เท่ากันกับข้า ” หลู่เปียวหัวเราะอย่างหนัก
ทุกคนมองไปทางหลู่เปียวราวกับว่าเขาเป็นคนที่โง่เง่า เมื่อเขาได้ตระหนักถึงความจริงเขาจึงอดผิดหวังไม่ได้และพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่ “เนี้ยหลี่ เจ้าแกล้งทำตัวเป็นเหยื่อแล้วค่อยกลายเป็นนักล่า วู้ว! โคตรน่าเบื่อ!"
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งทดสอบที่สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์ เนี้ยหลี่สามารถทำคะแนนได้ 100ติดต่อกัน 3ครั้ง และนั้นทำให้เสิ่นซิ่วเกือบกระอักเลือด ฉากนั้นยังคงฝังอยู่ในความจำของหลู่เปียว
เนี้ยหลี่ยักไหล่ สำหรับบอลน้ำเหล่านี้เขาเล่นกับมันไปแล้วหลายครั้งในชาติก่อนเมื่อครั้งฝึกฝนแม้ว่าเขาจะไม่สามารถนำพลังจากชีวิตก่อนหน้าติดมาได้ แต่เทคนิกการควบคุมพลังยังคงอยู่ในความทรงจำ ทักษะการควบคุมพลังของเขาไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเข้าใจ แต่ในการทดสอบนี้เขาต้องการเพียงแค่ผ่านเท่านั้น
ในขณะนั้น เหล่าข้ารับใช้กวาดตาไปทางต้วนเจี้ยน เอียจืออวิ้น และพรรคพวกอย่างประหลาดใจ โดยทั่วไป อัจฉริยะรุ่นเยาว์นั้นมีเพียง 1ในหมื่น นั่นทำให้ยากที่จะพบเจอ แล้วเหตุใดกลุ่มนี้จึงมีอัจฉริยะมากมายนัก
มีหลายคนในนั้นสามารถขยายบอลน้ำออกไปได้ถึง 5ฟุต แม้จะน้อยเมื่อเทียบกับคนก่อนหน้าที่ทำได้ 7ฟุต แต่กลุ่มนี้มีอายุที่น้อยกว่ามาก ดังนั้น ความสำเร็จในอนาคตของพวกเขายังคงยากที่จะคาดเดา
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่สามารถทำได้ สาม สี่ และห้าฟุต พวกเขายังถือว่ามีความสามารถ อย่างไรก็ตาม ผุ้ที่สามารถทำได้ถึง 7ฟุต ไม่มีเลย
*วูบ!* *วูบ!* *วูบ!*
ผู้ที่ความสามารถไม่ถึงถูกส่งกลับไป ในตอนแรกมีผู้คนมากถึงหนึ่งหรือสองแสนคน อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เหลือเพียงแค่ไม่กี่พันคนเท่านั้น เหล่าข้ารับใช้ค่อนข้างจะพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ในด่านแรก
“ พวกเจ้าผ่านการทดสอบแรก ข้าจะส่งพวกเจ้าไปยังชั้นที่แปด ที่นั้นจะมีใครบางคนรออยู่เพื่อที่จะทดสอบพวกเจ้า ” หลังจากพูดจบ เหล่าบริวารทั้งหลายได้กลายเป็นแสงและหายไป
ชั้นที่7 อันแสนแออัดกลายเป็นเพียงที่ว่างเปล่า หลังจากนั้นเพียงพริบตา อสูรปิศาจนับไม่ถ้วนพลันปรากฎขึ้นกลางอากาศ และกลับสู่ลักษณะเดิมของชั้นที่7 แห่งหอคอยมรณะ
เหล่าข้ารับใช้ที่ลอยอยู่บนฟ้าได้มองไกลออกไป “ ข้าสงสัยว่าท่านอาจารย์จะสามารถหาผู้สมัครที่เหมาะสมได้ในเวลานี้งั้นหรือ? ”
ชั้นที่แปดของหอคอยมรณะ
ภายในป่า พลันปรากฎคนกว่าพันคนออกมา ตามพื้นมีรอยแตกที่ครอบคลุมไปทั่วพื้นที่ เปลวไฟพุ่งผ่านจากพื้นขึ้นสู่ท้องฟ้า ถ้าหากมีใครคนหนึ่งที่มีระดับต่ำกว่าแบล็คโกล จุดจบของเขาอาจเป็นเถ้าธุลีจากเปลวไฟ
เนี้ยหลี่ได้เริ่มสงสัยเกี่ยวกับหอคอยมรณะ ตามความเข้าใจเล็กๆน้อยๆของเขา ก่อนหน้านี้ ที่ๆเขายืนอยู่ตอนนี้ต้องเป็นอาณาเขตเพลิงรกร้าง
ข้ารับใช้ของจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพยืนอยู่กลางท้องฟ้าในเกราะสีทอง ปีกสีทองประกายสยายออกไปด้านหลัง พวกเขามีระดับเพียงแค่เซียน อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับมอบพลังจากจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพ ดังนั้น ความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจเทียบได้กับระดับเซียนทั่วไป
เขากวาดสายตาไปทั่วบริเวณที่กลุ่มคนปรากฏขึ้น และกล่าวอย่างเย็นชา “ แม้จะไม่ถึงตายแต่จงระวัง! นี่เป็นการทดสอบขั้นที่สอง ถ้าหากประมาทแม้ไม่ตายแต่ก็อาจต้องพิการไปตลอดชีวิต ในที่แห่งนี้มีหอคอยทมิฬอยู่ มันถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญมากฝีมือ ภายในหอคอยนั้นมีเปลวเพลิงสีดำทมิฬและอสูรระดับสูง แม้พวกมันจะถูกจองจำไว้ แต่คลื่นพลังงานที่พวกมันส่งออกมายังคงอันตราย พวกเจ้าต้องฝึกอยู่ภายในนั้นเป็นเวลา 10วัน ผู้ที่สามารถบ่มเพาะได้ถึงสภาวะอนัตตา จะผ่านเข้าสู่ชั้นต่อไป! ”
จากคำพูดของบริวารจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพ ผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานบางคนหรือกระทั้งระดับเซียนถึงกับต้องงงงวย อะไรคือสภาวะอนัตตา?
“ การเข้าถึงสภาวะอนัตตาในสถานที่ที่เต็มไปด้วยเพลิงทมิฬเป็นสิ่งที่น่าสนใจ! ” จอมมารขมวดคิ้วจ้องมองออกไปยังพื้นที่แห้งแล้งที่มีหอคอยอันงดงามตั้งอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงทมิฬที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่ง
จบตอน
แปลไทยโดย
ขอบคุณครับ สนุกมวาก
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุลนะ
ตอบลบขอบคุณครับ เป็นกำลังใจให้คับ อ่านแล้วสนุกมากๆคับ
ตอบลบ-v- ขอบคุณคับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบขอบคุณครับผมสำหรับผลงานดีๆ ....
ตอบลบขอบคุณครับผม
ตอบลบขอบคุณครับผม
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบเป็นกำลังใจให้เด้อ
ตอบลบนี่มันหอคอยฝึกตน หอเพลิงใจดับสูญของเสี่ยวเอี้ยน นี่นา555
ตอบลบขอบคุนคับ
ตอบลบขอบคุณครับผม แปลได้ลื่นปื้ดมากศิษย์พี่
ตอบลบดีๆ ดีมากกกก แปลเยอะๆๆ แปลอีกๆๆ
ตอบลบกลับมาแว้ววววว ขอบคุณคร้าบ
ตอบลบขอบคุนคับ
ตอบลบขอบคุณครับอ่านในกลุ่มจนตันไปนานแล้ว รองกลับมาอ่านในนี้มั้ง อิอิ
ตอบลบ