บทที่ 230 - สิ่งรบกวนจิตใจ
พอได้ฟังเนี้ยหลี่และเซี่ยวหยูคุยกัน เอียจืออวิ้นก็จมอยู่ในห้วงความคิดและเหมือนจะเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง
พวกนางเพิ่งจะรู้จักกับเซี่ยวหยู การที่จะมีคนแปลกหน้ามาอยู่ร่วมกลุ่มด้วยในหอคอยมรณะเก้าชั้นนี้ มันดูไม่ค่อยจะปลอดภัยเท่าไหร่ เอียจืออวิ้นจึงเว้นระยะห่างกับเซี่ยวหยูในใจ
“ในเมื่อเจ้าไม่มีอคติอะไรกับข้า แล้วทำไมเจ้าจึงพยายามไล่ข้าไปล่ะ? แต่ถ้าน้องชายเนี้ยหลี่วางแผนที่จะทำอะไรบางอย่าง ข้าก็จะไม่รบกวนเจ้า” เซี่ยวหยูกล่าวพร้อมทั้งระบายยิ้มให้เนี้ยหลี่
ด้วยคำพูดของเซี่ยวหยู เนี้ยหลี่ก็รู้สึกสั่นอยู่ในใจ ออร่าของเซี่ยวหยูนั้นเขาสัมผัสได้ว่ามันทั้งแข็งแกร่งและลึกลับ หากเนี้ยหลี่ไล่เซี่ยวหยูไม่ถูกวิธีล่ะก็ เซี่ยวหยูก็จะกลายเป็นศัตรูทันที เพราะดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่อยากจะเข้ากลุ่มจนออกนอกหน้าโดยไม่มีทีท่าว่าจะถอยไปเลย
“ถ้าพี่ชายเซี่ยวหยูอยากจะอยู่ ข้าก็ไม่ว่าอะไร แต่หากเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรล่ะก็ เจ้าต้องดูแลตัวเองนะ” เนี้ยหลี่ตอบกลับหลังจากเงียบไปครู่ เขาคิดว่าหากจะไล่เจ้าหมอนี่ออกไปคงต้องรอให้รวมกลุ่มกันครบก่อน ลำพังเพียงพวกเขาสามคนคงไม่อาจรับมือหมอนี่ได้แน่ๆ
“น้องชายเนี้ยหลี่วางใจได้เลย ในดินแดนใต้พิภพนี้ไม่มีใครแตะข้าได้แม้แต่ปลายเล็บหรอก” เซี่ยวหยูกล่าวด้วยความมั่นใจ
เนี้ยหลี่ปรายตาไปมองเซี่ยวหยู ที่อีกฝ่ายบอกว่าในดินแดนใต้พิภพนี้ไม่มีใครแตะเขาได้แม้แต่ปลายเล็บนั้น เป็นเพราะมั่นใจในตัวเองหรือเพียงแต่อวดดีเท่านั้น ?
ตัวตนของเซี่ยวหยูนั้นยังคงเป็นปริศนา ในตอนนี้เนี้ยหลี่คงทำได้เพียงแต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ
เซี่ยวหนิงเอ๋อหันไปมองเนี้ยหลี่และเซี่ยวหยู ถึงแม้นางจะเชื่อว่าเซี่ยวหยูนั้นเป็นคนดี แต่ที่เนี้ยหลี่ทำไปก็น่าจะมีเหตุผลอยู่ แม้นว่าเซี่ยวหยูจะทำให้นางประทับใจในแรกพบก็เถอะ แต่ถึงยังไงนางก็ยังคงเชื่อใจเนี้ยหลี่มากกว่าอยู่แล้ว ในใจเซี่ยวหนิงเอ๋อตอนนี้นั้นค่อนข้างจะขัดแย้งกันเล็กน้อย
พวกเขาทั้งสี่เดินเรียดไปตามขอบบึงเพื่อเสาะหาสมาชิกในกลุ่มคนอื่นๆ
“นั่นใช่ผลจิตต้นกำเนิดหรือเปล่า?” เนี้ยหลี่มองไปยังผืนป่าข้างๆบึง ที่นั่นพวกเขาพบว่ามีผลไม้แปลกๆแวววาวคล้ายคริสตัล
เนี้ยหลี่เดินไปหาผลจิตต้นกำเนิด ก่อนจะหันมาหาเซี่ยวหยูและถาม “พี่ชายเซี่ยวหยูสนใจผลจิตต้นกำเนิดไหม?”
ฟังคำถามของเนี้ยหลี่แล้ว เซี่ยวหยูก็ส่ายหน้า “ข้ามีร่างกายที่พิเศษอยู่แล้ว ทั้งผลไม้นี่ก็ไม่มีประโยชน์อันใดสำหรับข้า”
ขนาดผลไม้ที่มีค่าอย่างผลจิตต้นกำเนิดนี้ เซี่ยวหยูยังไม่สนใจ...หมอนี่มันวางแผนอะไรอยู่กันแน่? เนี้ยหลี่คิดชั่วขณะ ก่อนจะก้มลงไปเก็บผลจิตต้นกำเนิดและเก็บมันไว้ในแหวนมิติเก็บของ
หากเขากินผลไม้นี่ตอนนี้ คงใช้เวลานานกว่าจะย่อยและรับเอาพลังของมันมาได้ ทั้งตอนนี้ยังมีผลจิตต้นกำเนิดเพียงแค่ผลเดียว มันคงไม่พอที่จะแบ่งให้คนอื่นเป็นแน่ เนี้ยหลี่จึงเก็บผลไม้นี้ไว้ในแหวนมิติเก็บของก่อน และเริ่มเสาะหาดูที่อื่นว่าจะมีเจ้าผลจิตต้นกำเนิดนี้อีกไหม
“น้องชายเนี้ยหลี่ ในโลกใบนี้ บุรุษยอมตายเพื่อโชคลาภ นกยอมตายเพื่ออาหาร บุรุษหนึ่งแย่งชิง ขณะที่อีกคนไขว่คว้า ในท้ายที่สุด ใครที่ตายก็ตายเลย ใครที่เจ็บก็เจ็บอยู่อย่างนั้น มันหมายความว่าอย่างไรหรือ?” เซี่ยวหยูกล่าวยิ้มๆ ในสายตาของเขาแล้ว เนี้ยหลี่นั้นเป็นเพียงชายที่ละโมบในโชคลาภคนหนึ่ง
ได้ยินที่เซี่ยวหยูกล่าว เนี้ยหลี่ก็เหลือบไปมองอีกฝ่าย เขาไม่คิดเลยว่าเซี่ยวหยูจะมาเล่นสำหนอกสำนวนกับเขาแบบนี้
เนี้ยหลี่ระบายยิ้มและเอ่ยว่า “ในโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ มีอารมณ์7 ฉันทา6 พวกมันเหล่านี้ต่างนำพาเราไปสู่ห้วงแห่งความทุกข์อันไม่มีที่สิ้นสุด ตามที่พี่ชายเซี่ยวหยูได้กล่าวไว้ มันจะไม่ดีกว่าหรือหากเราตายๆไปให้พ้นทุกข์เหล่านี้เสียเลย? ถึงอย่างไรชีวิตคนเราก็เปรียบดั่งเปลวเทียน ที่เมื่อดับไปแล้วก็ไม่เหลืออะไรทิ้งไว้ ทว่าหากโลกใบนี้เป็นดั่ง ‘บุรุษหนึ่งแย่งชิง ขณะที่อีกคนไขว่คว้า’ มันก็ดูมีชีวิตชีวาและน่าสนใจกว่าเยอะนะ ”
(หมายเหตุ
...ฉันทา 6 คือ ใจเอนเอียงเพราะ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์ปรุงแต่ง
...อารมณ์ 7 คือ ยินดี โทสะ เศร้าโศก ร่าเริง รัก เกลียด ราคะ )
ได้ยินที่เนี้ยหลี่ตอบ เซี่ยวหยูก็เผลอหัวเราะออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อเขาลองใคร่ครวญตามที่อีกฝ่ายกล่าว เขาก็พบว่าคำตอบของอีกฝ่ายนั้นแฝงซึ่งหลักปรัชญาไว้อยู่ หากคนเราไม่สู้เพื่อตัวเอง แล้วชีวิตจะมีความหมายอะไรล่ะ?
เขาไม่คิดเลยว่าเนี้ยหลี่จะแฝงหลักปรัชญามาแบบนี้ เซี่ยวหยูระบายยิ้มและคิดว่าเนี้ยหลี่ก็เป็นอีกคนที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
“ข้าเริ่มจะสนใจเจ้าแล้วสิ แล้วเจ้าทำยังไงถึงได้เชี่ยวชาญเรื่องการสลักจากรึกอักขระนักล่ะ? เป็นถึงนักจารึกอักขระระดับอาวุโสเลยนี่!” พอเห็นว่าเซี่ยวหนิงเอ๋อและ เอียจืออวิ้นกำลังคุยกันอยู่ห่างออกไป เซี่ยวหยูก็กอดอกยิ้มๆและยิงคำถามนี้ออกไป
ได้ยินคำถามอีกฝ่าย เนี้ยหลี่ก็ตกใจ อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเป็นนักจารึกอักขระระดับอาวุโสได้ยังไง? ยิ่งเนี้ยหลี่คิดเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ เจ้าเซี่ยวหยูนี่มันเป็นใครกันแน่ ทำไมมันถึงรู้เรื่องของเขาได้ สงสัยเรื่องที่มันเข้ามาตีสนิทกับเซี่ยวหนิงเอ๋อก็น่าจะเป็นหนึ่งในแผนการของมันเช่นกัน!
เนี้ยหลี่กำหมัดแน่นก่อนจะเดินไปขนาบข้างกับเซี่ยวหยูและพูดเสียงขรึมว่า “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใครหรือรู้เรื่องของข้าได้ยังไง แต่หากเจ้ากล้าแตะต้องคนข้างข้า เจ้าจะต้องเสียใจ!”
พอรู้สึกว่าเนี้ยหลี่ขยับเข้ามาใกล้ เซี่ยวหยูก็ขยับถอยห่างทิ้งระยะไว้ เขามองเนี้ยหลี่และกล่าวว่า “น้องชายเนี้ยหลี่เข้าใจผิดแล้ว ข้าเพียงแต่สงสัยหลายๆอย่างในตัวเจ้าเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะไปทำร้ายคนของเจ้าหรอก”
“ก็ดี” เนี้ยหลี่คิดครู่หนึ่ง เขาไม่รู้ว่าเซี่ยวหยูนั้นพูดจริงหรือไม่ มันยากที่จะให้เขาเชื่อใจคนตรงหน้าได้
“เจ้ายังไม่ตอบคำถามข้าเลยนะ” เซี่ยวหยูระบายยิ้ม
เนี้ยหลี่หยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบ เขาจะไม่ให้ใครรู้เรื่องการกลับมาจุติใหม่ของตนเด็ดขาด “การจารึกอักขระเป็นอีกหนึ่งในความสามารถของอานุภาพแห่งกฏ หากเราคุ้นเคยและรับรู้ถึงมันได้ เราก็จะเข้าใจมันได้เอง”
“อานุภาพแห่งกฏ” พอได้ยินคำนี้ เซี่ยวหยูก็หรี่ตาและหันมาถามเนี้ยหลี่ “น้องชายเนี้ยหลี่เข้าถึงเบื้องลึกของอานุภาพแห่งกฏแล้วหรือ?”
ได้ยินที่เซี่ยวหยูกล่าวเนี้ยหลี่ก็ลอบตกใจ ชายคนนี้รู้แม้กระทั่งเรื่องเบื้องลึกของอานุภาพแห่งกฏด้วย! หมอนี่จริงๆมันเป็นใครกันแน่? เนี้ยหลี่สบตากับอีกฝ่าย ตาสีฟ้าของหมอนี่ก็ดูสวยอย่างกับเม็ดไพลิน เป็นความสวยที่หาเหตุผลไม่ได้เลย
เนี้ยหลี่ยืนอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนสติจะกลับมาลงรอยอีกครั้ง
“ไม่รู้สินะ หากเจ้าบอกว่าจริงๆแล้วเจ้าเป็นใคร ข้าอาจจะตอบเจ้าก็ได้” เนี้ยหลี่กล่าว
เซี่ยวหยูระบายยิ้มและเอ่ยว่า “จริงๆน้องชายเนี้ยหลี่ไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่เพียงแต่เข้าถึงอานุภาพแห่งกฏธรรมดา แต่เข้าถึงอานุภาพแห่งกฏถึงสองอานุภาพ สองอานุภาพแห่งกฏปรากฏในชายคนเดียว...ช่างน่าตกใจยิ่งนัก”
เนี้ยหลี่ปวดหัวกับคำของเซี่ยวหยูทันที มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมแม้แต่เรื่องนี้เซี่ยวหยูก็รู้ด้วย!
ต่อหน้าเซี่ยวหยูแล้ว เนี้ยหลี่รู้สึกเหมือนถูกเปลื้องผ้า ทุกความลับของตนถูกเปิดเผยออกมาหมดเลย
แต่ในเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องเก็บงำความลับอะไรไว้อีก คำพูดของเขาก็จะตรงไปตรงมาขึ้น หากแต่เซี่ยวหยูประสงค์ร้ายล่ะก็เขาจะตอบโต้โดยทัน ดังนั้นเนี้ยหลี่จึงเอ่ยว่า
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน แต่ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องพวกนี้อยู่ก่อนแล้ว เจ้าจะมาถามข้าทำไม?”
“ข้าแค่อยากจะดูว่าเจ้าเต็มใจที่จะเอ่ยความจริงไหม” เซี่ยวหยูกล่าว มุมปากของเขายิ้มชี้ขึ้น
เนี้ยหลี่อึ้งไปชั่วขณะพลางจ้องไปที่เซี่ยวหยู ถามคำถามคนอื่นเพียงแค่อยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายเต็มใจจะพูดความจริงไหม? แล้วมันจะยังไงถ้าเขาเต็มใจหรือไม่เต็มใจ? นี่มันไร้สาระสิ้นดี! เนี้ยหลี่ไม่เข้าใจเลยว่าเซี่ยวหยูกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังแอบสนใจน้องสาวเซี่ยวหนิงเอ๋อด้วย เพราะงั้นข้าจึงได้ตามนางมา” เซี่ยวหยูกล่าวยิ้มๆ
สายตาของเนี้ยหลี่เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “หากเจ้าคิดร้ายกับ เซี่ยวหนิงเอ๋อล่ะก็ อย่าตำหนิข้าที่ไม่สุภาพด้วยล่ะ!”
“คิดร้าย? น้องชายเนี้ยหลี่จริงจังเกินไปแล้ว ทำไมข้าจะต้องไปคิดร้ายกับน้องสาวเซี่ยวหนิงเอ๋อด้วยล่ะ ในเมื่อนางทั้งจิตใจดีงามและโอบอ้อมอารีแบบนั้น ข้าก็ไม่คิดที่จะทำร้ายนางหรอกนะ หญิงสาวที่สวยงามและเพียบพร้อมก็ต้องคู่กับสุภาพบุรุษ และในเมื่อเจ้าไม่ได้เป็นอะไรกับนาง งั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่น้องชายเนี้ยหลี่จะมากันไม่ให้ข้าเข้าหานางหรอก จริงไหม?” เซี่ยวหยูยิ้มกว้างพลางพูดไปด้วย จากนั้นก็หันหลังกลับแล้วเดินไปหาเซี่ยวหนิงเอ๋อ
ได้ยินที่เซี่ยวหยูพูด เนี้ยหลี่ก็อึ้งไปชั่วขณะ ถ้าหากเซี่ยวหยูจริงจังกับเซี่ยวหนิงเอ๋อจริงๆล่ะก็ จะมีเหตุผลอะไรที่เขาต้องไปห้าม? และในตอนที่เซี่ยวหยูกำลังพูดกับตนนั้น ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ? มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนมาฉกฉวยเอาสิ่งที่มีค่าจากตนไป
เนี้ยหลี่เริ่มระลึกความหลังที่ตนมีร่วมกับเซี่ยวหนิงเอ๋อมองไปยังช่วงที่เขาได้ช่วยนางจากอาการป่วยเอาไว้ บางทีนางอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้ในชีวิตของเขาเสียแล้ว
เซี่ยวหยูดูเหมือนจะดูออกหมดทุกอย่าง ดูเหมือนเขาจะอยากทำให้เนี้ยหลี่รู้สึกแบบนี้ตั้งแต่แรก
แต่...เนี้ยหลี่ควรจะทำอย่างไรล่ะ?
หลังจากได้จุติใหม่ เนี้ยหลี่ก็อยากจะปกป้องเอาไว้ซึ่งทุกสิ่งและไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายทั้งเพื่อนและครอบครัวของเขาได้ เขากุมอำนาจไว้มากมาย บางครั้งเพียงแค่เขาเคลื่อนไหวก็ทำให้ทั้งเมืองสั่นคลอน แต่ทว่าพอมาตอนนี้ เขากลับทำอะไรไม่ถูก
ไม่ทำอะไรให้วุ่นวายเพื่อคงไว้ซึ่งมิตรภาพและสายสัมพันธ์ บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่เซี่ยวหนิงเอ๋อคิดไว้ก่อนจะยอมให้เซี่ยวหยูเข้าหาก็ได้?
เนี้ยหลี่รู้สึกอยู่ตลอดเวลาเลยว่าชายปริศนาอย่างเซี่ยวหยูนั้น น่าจะไม่ได้มาดีแน่ๆ
‘หากมันคิดจะแตะต้องเซี่ยวหนิงเอ๋อล่ะก็ เหอะ...มันต้องผ่านศพข้าไปก่อน!’ เนี้ยหลี่แค่นเสียงในใจ
ตั้งแต่จุติมา เขาเพิ่งจะถูกอีกฝ่ายเผยไพ่ในมือตั้งหลายใบแบบนี้เป็นครั้งแรก ทำให้เนี้ยหลี่รู้สึกถูกคุกคามเป็นอย่างมาก หากเนี้ยหลี่ทำให้เซี่ยวหยูอยู่ในโอวาทของเขาไม่ได้ล่ะก็ งั้นชีวิตที่ผ่านมาอย่างยาวนานของเขาก็เท่ากับว่ามันสูญเปล่าแล้วล่ะ
เซี่ยวหนิงเอ๋อและเอียจืออวิ้นยืนอย่างเงียบๆข้างๆทะเลสาบ ภาพสะท้อนจากผิวน้ำฉายภาพของสองสาวที่ดูงดงามราวกับเทพธิดาในจินตภาพ สวยจนถึงขั้นที่ว่าหาผู้ใดเสมอเหมือนก็หามีไม่
จู่ๆ ภาพทะเลสาบที่สงบสุขก็ถูกทำลาย พร้อมๆกับที่ชางหมิงและมังกรซอมบี้เจ่าหลงพุ่งออกมาต่อสู้กันบนผิวน้ำ สร้างคลื่นกระเพื่อมที่รุนแรงบนผิวน้ำของทะเลสาบ
“ระวัง!” เนี้ยหลี่รีบวิ่งมาทางนี้ทันที
เอียจืออวิ้นและเซี่ยวหนิงเอ๋อรีบถอยออกมาให้ห่างจากระยะต่อสู้ทันที
“การต่อสู้นี้ช่างรบกวนจิตใจอันสงบสุขของข้าเสียจริงๆ” เซี่ยวหยูกล่าวอย่างหน่ายๆ ปิ่นปักผมหยกปรากฏบนมือของเขาก่อนที่มันจะพุ่งไปทางมังกรซอมบี้เจ่าหลงและชางหมิง
ฟิ้ววว!
แนวแสงสาดส่องดูสวยงามราวกับกำลังร่ายรำ
ปิ่นปักผมกระแทกหอกอัสนีของชางหมิงจนหลุดจากมือ
ซึ่งในขณะนั้นชางหมิงกำลังจะสะบัดหอกอัสนีของตนเพื่อฆ่าเจ้ามังกรซอมบี้เจ่าหลงอยู่พอดี ทว่าเขาถูกพลังที่ลึกลับและน่าเกรงขามพุ่งเข้ามาจู่โจมใส่หอกอัสนีเสียก่อน หอกอัสนีหลุดจากมือของเขาพร้อมๆกับที่เขากระเด็นออกไปไกล แขนของเขาสั่นเทิ้มไม่ยอมหยุดทั้งมือขวาก็เต็มไปด้วยหยาดเลือด
เขามองไปยังเนี้ยหลี่และพวกด้วยความเกรงกลัว เมื่อกี้มันคืออะไรกันแน่? พลังน่ากลัวที่เขาเพิ่งเผชิญมันคืออะไร? แถมที่อีกฝ่ายทำเมื่อกี้ยังเป็นเพียงแค่การขู่เฉยๆเท่านั้นด้วย!
ชางหมิงตัดสินใจว่าตนจะต้องจากไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เขารีบไปเก็บหอกอัสนีแล้วเหาะหนีไปทันที
ความประหลาดใจปรากฏบนสายตาของเนี้ยหลี่ ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินพลังของเซี่ยวหยูต่ำไปกว่าความเป็นจริงมากโขเลยสินะ!
พวกนางเพิ่งจะรู้จักกับเซี่ยวหยู การที่จะมีคนแปลกหน้ามาอยู่ร่วมกลุ่มด้วยในหอคอยมรณะเก้าชั้นนี้ มันดูไม่ค่อยจะปลอดภัยเท่าไหร่ เอียจืออวิ้นจึงเว้นระยะห่างกับเซี่ยวหยูในใจ
“ในเมื่อเจ้าไม่มีอคติอะไรกับข้า แล้วทำไมเจ้าจึงพยายามไล่ข้าไปล่ะ? แต่ถ้าน้องชายเนี้ยหลี่วางแผนที่จะทำอะไรบางอย่าง ข้าก็จะไม่รบกวนเจ้า” เซี่ยวหยูกล่าวพร้อมทั้งระบายยิ้มให้เนี้ยหลี่
ด้วยคำพูดของเซี่ยวหยู เนี้ยหลี่ก็รู้สึกสั่นอยู่ในใจ ออร่าของเซี่ยวหยูนั้นเขาสัมผัสได้ว่ามันทั้งแข็งแกร่งและลึกลับ หากเนี้ยหลี่ไล่เซี่ยวหยูไม่ถูกวิธีล่ะก็ เซี่ยวหยูก็จะกลายเป็นศัตรูทันที เพราะดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่อยากจะเข้ากลุ่มจนออกนอกหน้าโดยไม่มีทีท่าว่าจะถอยไปเลย
“ถ้าพี่ชายเซี่ยวหยูอยากจะอยู่ ข้าก็ไม่ว่าอะไร แต่หากเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรล่ะก็ เจ้าต้องดูแลตัวเองนะ” เนี้ยหลี่ตอบกลับหลังจากเงียบไปครู่ เขาคิดว่าหากจะไล่เจ้าหมอนี่ออกไปคงต้องรอให้รวมกลุ่มกันครบก่อน ลำพังเพียงพวกเขาสามคนคงไม่อาจรับมือหมอนี่ได้แน่ๆ
“น้องชายเนี้ยหลี่วางใจได้เลย ในดินแดนใต้พิภพนี้ไม่มีใครแตะข้าได้แม้แต่ปลายเล็บหรอก” เซี่ยวหยูกล่าวด้วยความมั่นใจ
เนี้ยหลี่ปรายตาไปมองเซี่ยวหยู ที่อีกฝ่ายบอกว่าในดินแดนใต้พิภพนี้ไม่มีใครแตะเขาได้แม้แต่ปลายเล็บนั้น เป็นเพราะมั่นใจในตัวเองหรือเพียงแต่อวดดีเท่านั้น ?
ตัวตนของเซี่ยวหยูนั้นยังคงเป็นปริศนา ในตอนนี้เนี้ยหลี่คงทำได้เพียงแต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ
เซี่ยวหนิงเอ๋อหันไปมองเนี้ยหลี่และเซี่ยวหยู ถึงแม้นางจะเชื่อว่าเซี่ยวหยูนั้นเป็นคนดี แต่ที่เนี้ยหลี่ทำไปก็น่าจะมีเหตุผลอยู่ แม้นว่าเซี่ยวหยูจะทำให้นางประทับใจในแรกพบก็เถอะ แต่ถึงยังไงนางก็ยังคงเชื่อใจเนี้ยหลี่มากกว่าอยู่แล้ว ในใจเซี่ยวหนิงเอ๋อตอนนี้นั้นค่อนข้างจะขัดแย้งกันเล็กน้อย
พวกเขาทั้งสี่เดินเรียดไปตามขอบบึงเพื่อเสาะหาสมาชิกในกลุ่มคนอื่นๆ
“นั่นใช่ผลจิตต้นกำเนิดหรือเปล่า?” เนี้ยหลี่มองไปยังผืนป่าข้างๆบึง ที่นั่นพวกเขาพบว่ามีผลไม้แปลกๆแวววาวคล้ายคริสตัล
เนี้ยหลี่เดินไปหาผลจิตต้นกำเนิด ก่อนจะหันมาหาเซี่ยวหยูและถาม “พี่ชายเซี่ยวหยูสนใจผลจิตต้นกำเนิดไหม?”
ฟังคำถามของเนี้ยหลี่แล้ว เซี่ยวหยูก็ส่ายหน้า “ข้ามีร่างกายที่พิเศษอยู่แล้ว ทั้งผลไม้นี่ก็ไม่มีประโยชน์อันใดสำหรับข้า”
ขนาดผลไม้ที่มีค่าอย่างผลจิตต้นกำเนิดนี้ เซี่ยวหยูยังไม่สนใจ...หมอนี่มันวางแผนอะไรอยู่กันแน่? เนี้ยหลี่คิดชั่วขณะ ก่อนจะก้มลงไปเก็บผลจิตต้นกำเนิดและเก็บมันไว้ในแหวนมิติเก็บของ
หากเขากินผลไม้นี่ตอนนี้ คงใช้เวลานานกว่าจะย่อยและรับเอาพลังของมันมาได้ ทั้งตอนนี้ยังมีผลจิตต้นกำเนิดเพียงแค่ผลเดียว มันคงไม่พอที่จะแบ่งให้คนอื่นเป็นแน่ เนี้ยหลี่จึงเก็บผลไม้นี้ไว้ในแหวนมิติเก็บของก่อน และเริ่มเสาะหาดูที่อื่นว่าจะมีเจ้าผลจิตต้นกำเนิดนี้อีกไหม
“น้องชายเนี้ยหลี่ ในโลกใบนี้ บุรุษยอมตายเพื่อโชคลาภ นกยอมตายเพื่ออาหาร บุรุษหนึ่งแย่งชิง ขณะที่อีกคนไขว่คว้า ในท้ายที่สุด ใครที่ตายก็ตายเลย ใครที่เจ็บก็เจ็บอยู่อย่างนั้น มันหมายความว่าอย่างไรหรือ?” เซี่ยวหยูกล่าวยิ้มๆ ในสายตาของเขาแล้ว เนี้ยหลี่นั้นเป็นเพียงชายที่ละโมบในโชคลาภคนหนึ่ง
ได้ยินที่เซี่ยวหยูกล่าว เนี้ยหลี่ก็เหลือบไปมองอีกฝ่าย เขาไม่คิดเลยว่าเซี่ยวหยูจะมาเล่นสำหนอกสำนวนกับเขาแบบนี้
เนี้ยหลี่ระบายยิ้มและเอ่ยว่า “ในโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ มีอารมณ์7 ฉันทา6 พวกมันเหล่านี้ต่างนำพาเราไปสู่ห้วงแห่งความทุกข์อันไม่มีที่สิ้นสุด ตามที่พี่ชายเซี่ยวหยูได้กล่าวไว้ มันจะไม่ดีกว่าหรือหากเราตายๆไปให้พ้นทุกข์เหล่านี้เสียเลย? ถึงอย่างไรชีวิตคนเราก็เปรียบดั่งเปลวเทียน ที่เมื่อดับไปแล้วก็ไม่เหลืออะไรทิ้งไว้ ทว่าหากโลกใบนี้เป็นดั่ง ‘บุรุษหนึ่งแย่งชิง ขณะที่อีกคนไขว่คว้า’ มันก็ดูมีชีวิตชีวาและน่าสนใจกว่าเยอะนะ ”
(หมายเหตุ
...ฉันทา 6 คือ ใจเอนเอียงเพราะ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์ปรุงแต่ง
...อารมณ์ 7 คือ ยินดี โทสะ เศร้าโศก ร่าเริง รัก เกลียด ราคะ )
ได้ยินที่เนี้ยหลี่ตอบ เซี่ยวหยูก็เผลอหัวเราะออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อเขาลองใคร่ครวญตามที่อีกฝ่ายกล่าว เขาก็พบว่าคำตอบของอีกฝ่ายนั้นแฝงซึ่งหลักปรัชญาไว้อยู่ หากคนเราไม่สู้เพื่อตัวเอง แล้วชีวิตจะมีความหมายอะไรล่ะ?
เขาไม่คิดเลยว่าเนี้ยหลี่จะแฝงหลักปรัชญามาแบบนี้ เซี่ยวหยูระบายยิ้มและคิดว่าเนี้ยหลี่ก็เป็นอีกคนที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
“ข้าเริ่มจะสนใจเจ้าแล้วสิ แล้วเจ้าทำยังไงถึงได้เชี่ยวชาญเรื่องการสลักจากรึกอักขระนักล่ะ? เป็นถึงนักจารึกอักขระระดับอาวุโสเลยนี่!” พอเห็นว่าเซี่ยวหนิงเอ๋อและ เอียจืออวิ้นกำลังคุยกันอยู่ห่างออกไป เซี่ยวหยูก็กอดอกยิ้มๆและยิงคำถามนี้ออกไป
ได้ยินคำถามอีกฝ่าย เนี้ยหลี่ก็ตกใจ อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเป็นนักจารึกอักขระระดับอาวุโสได้ยังไง? ยิ่งเนี้ยหลี่คิดเขาก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ เจ้าเซี่ยวหยูนี่มันเป็นใครกันแน่ ทำไมมันถึงรู้เรื่องของเขาได้ สงสัยเรื่องที่มันเข้ามาตีสนิทกับเซี่ยวหนิงเอ๋อก็น่าจะเป็นหนึ่งในแผนการของมันเช่นกัน!
เนี้ยหลี่กำหมัดแน่นก่อนจะเดินไปขนาบข้างกับเซี่ยวหยูและพูดเสียงขรึมว่า “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใครหรือรู้เรื่องของข้าได้ยังไง แต่หากเจ้ากล้าแตะต้องคนข้างข้า เจ้าจะต้องเสียใจ!”
พอรู้สึกว่าเนี้ยหลี่ขยับเข้ามาใกล้ เซี่ยวหยูก็ขยับถอยห่างทิ้งระยะไว้ เขามองเนี้ยหลี่และกล่าวว่า “น้องชายเนี้ยหลี่เข้าใจผิดแล้ว ข้าเพียงแต่สงสัยหลายๆอย่างในตัวเจ้าเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะไปทำร้ายคนของเจ้าหรอก”
“ก็ดี” เนี้ยหลี่คิดครู่หนึ่ง เขาไม่รู้ว่าเซี่ยวหยูนั้นพูดจริงหรือไม่ มันยากที่จะให้เขาเชื่อใจคนตรงหน้าได้
“เจ้ายังไม่ตอบคำถามข้าเลยนะ” เซี่ยวหยูระบายยิ้ม
เนี้ยหลี่หยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบ เขาจะไม่ให้ใครรู้เรื่องการกลับมาจุติใหม่ของตนเด็ดขาด “การจารึกอักขระเป็นอีกหนึ่งในความสามารถของอานุภาพแห่งกฏ หากเราคุ้นเคยและรับรู้ถึงมันได้ เราก็จะเข้าใจมันได้เอง”
“อานุภาพแห่งกฏ” พอได้ยินคำนี้ เซี่ยวหยูก็หรี่ตาและหันมาถามเนี้ยหลี่ “น้องชายเนี้ยหลี่เข้าถึงเบื้องลึกของอานุภาพแห่งกฏแล้วหรือ?”
ได้ยินที่เซี่ยวหยูกล่าวเนี้ยหลี่ก็ลอบตกใจ ชายคนนี้รู้แม้กระทั่งเรื่องเบื้องลึกของอานุภาพแห่งกฏด้วย! หมอนี่จริงๆมันเป็นใครกันแน่? เนี้ยหลี่สบตากับอีกฝ่าย ตาสีฟ้าของหมอนี่ก็ดูสวยอย่างกับเม็ดไพลิน เป็นความสวยที่หาเหตุผลไม่ได้เลย
เนี้ยหลี่ยืนอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนสติจะกลับมาลงรอยอีกครั้ง
“ไม่รู้สินะ หากเจ้าบอกว่าจริงๆแล้วเจ้าเป็นใคร ข้าอาจจะตอบเจ้าก็ได้” เนี้ยหลี่กล่าว
เซี่ยวหยูระบายยิ้มและเอ่ยว่า “จริงๆน้องชายเนี้ยหลี่ไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่เพียงแต่เข้าถึงอานุภาพแห่งกฏธรรมดา แต่เข้าถึงอานุภาพแห่งกฏถึงสองอานุภาพ สองอานุภาพแห่งกฏปรากฏในชายคนเดียว...ช่างน่าตกใจยิ่งนัก”
เนี้ยหลี่ปวดหัวกับคำของเซี่ยวหยูทันที มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมแม้แต่เรื่องนี้เซี่ยวหยูก็รู้ด้วย!
ต่อหน้าเซี่ยวหยูแล้ว เนี้ยหลี่รู้สึกเหมือนถูกเปลื้องผ้า ทุกความลับของตนถูกเปิดเผยออกมาหมดเลย
แต่ในเมื่อเขาไม่จำเป็นต้องเก็บงำความลับอะไรไว้อีก คำพูดของเขาก็จะตรงไปตรงมาขึ้น หากแต่เซี่ยวหยูประสงค์ร้ายล่ะก็เขาจะตอบโต้โดยทัน ดังนั้นเนี้ยหลี่จึงเอ่ยว่า
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน แต่ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องพวกนี้อยู่ก่อนแล้ว เจ้าจะมาถามข้าทำไม?”
“ข้าแค่อยากจะดูว่าเจ้าเต็มใจที่จะเอ่ยความจริงไหม” เซี่ยวหยูกล่าว มุมปากของเขายิ้มชี้ขึ้น
เนี้ยหลี่อึ้งไปชั่วขณะพลางจ้องไปที่เซี่ยวหยู ถามคำถามคนอื่นเพียงแค่อยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายเต็มใจจะพูดความจริงไหม? แล้วมันจะยังไงถ้าเขาเต็มใจหรือไม่เต็มใจ? นี่มันไร้สาระสิ้นดี! เนี้ยหลี่ไม่เข้าใจเลยว่าเซี่ยวหยูกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังแอบสนใจน้องสาวเซี่ยวหนิงเอ๋อด้วย เพราะงั้นข้าจึงได้ตามนางมา” เซี่ยวหยูกล่าวยิ้มๆ
สายตาของเนี้ยหลี่เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “หากเจ้าคิดร้ายกับ เซี่ยวหนิงเอ๋อล่ะก็ อย่าตำหนิข้าที่ไม่สุภาพด้วยล่ะ!”
“คิดร้าย? น้องชายเนี้ยหลี่จริงจังเกินไปแล้ว ทำไมข้าจะต้องไปคิดร้ายกับน้องสาวเซี่ยวหนิงเอ๋อด้วยล่ะ ในเมื่อนางทั้งจิตใจดีงามและโอบอ้อมอารีแบบนั้น ข้าก็ไม่คิดที่จะทำร้ายนางหรอกนะ หญิงสาวที่สวยงามและเพียบพร้อมก็ต้องคู่กับสุภาพบุรุษ และในเมื่อเจ้าไม่ได้เป็นอะไรกับนาง งั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่น้องชายเนี้ยหลี่จะมากันไม่ให้ข้าเข้าหานางหรอก จริงไหม?” เซี่ยวหยูยิ้มกว้างพลางพูดไปด้วย จากนั้นก็หันหลังกลับแล้วเดินไปหาเซี่ยวหนิงเอ๋อ
ได้ยินที่เซี่ยวหยูพูด เนี้ยหลี่ก็อึ้งไปชั่วขณะ ถ้าหากเซี่ยวหยูจริงจังกับเซี่ยวหนิงเอ๋อจริงๆล่ะก็ จะมีเหตุผลอะไรที่เขาต้องไปห้าม? และในตอนที่เซี่ยวหยูกำลังพูดกับตนนั้น ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ? มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนมาฉกฉวยเอาสิ่งที่มีค่าจากตนไป
เนี้ยหลี่เริ่มระลึกความหลังที่ตนมีร่วมกับเซี่ยวหนิงเอ๋อมองไปยังช่วงที่เขาได้ช่วยนางจากอาการป่วยเอาไว้ บางทีนางอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้ในชีวิตของเขาเสียแล้ว
เซี่ยวหยูดูเหมือนจะดูออกหมดทุกอย่าง ดูเหมือนเขาจะอยากทำให้เนี้ยหลี่รู้สึกแบบนี้ตั้งแต่แรก
แต่...เนี้ยหลี่ควรจะทำอย่างไรล่ะ?
หลังจากได้จุติใหม่ เนี้ยหลี่ก็อยากจะปกป้องเอาไว้ซึ่งทุกสิ่งและไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายทั้งเพื่อนและครอบครัวของเขาได้ เขากุมอำนาจไว้มากมาย บางครั้งเพียงแค่เขาเคลื่อนไหวก็ทำให้ทั้งเมืองสั่นคลอน แต่ทว่าพอมาตอนนี้ เขากลับทำอะไรไม่ถูก
ไม่ทำอะไรให้วุ่นวายเพื่อคงไว้ซึ่งมิตรภาพและสายสัมพันธ์ บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่เซี่ยวหนิงเอ๋อคิดไว้ก่อนจะยอมให้เซี่ยวหยูเข้าหาก็ได้?
เนี้ยหลี่รู้สึกอยู่ตลอดเวลาเลยว่าชายปริศนาอย่างเซี่ยวหยูนั้น น่าจะไม่ได้มาดีแน่ๆ
‘หากมันคิดจะแตะต้องเซี่ยวหนิงเอ๋อล่ะก็ เหอะ...มันต้องผ่านศพข้าไปก่อน!’ เนี้ยหลี่แค่นเสียงในใจ
ตั้งแต่จุติมา เขาเพิ่งจะถูกอีกฝ่ายเผยไพ่ในมือตั้งหลายใบแบบนี้เป็นครั้งแรก ทำให้เนี้ยหลี่รู้สึกถูกคุกคามเป็นอย่างมาก หากเนี้ยหลี่ทำให้เซี่ยวหยูอยู่ในโอวาทของเขาไม่ได้ล่ะก็ งั้นชีวิตที่ผ่านมาอย่างยาวนานของเขาก็เท่ากับว่ามันสูญเปล่าแล้วล่ะ
เซี่ยวหนิงเอ๋อและเอียจืออวิ้นยืนอย่างเงียบๆข้างๆทะเลสาบ ภาพสะท้อนจากผิวน้ำฉายภาพของสองสาวที่ดูงดงามราวกับเทพธิดาในจินตภาพ สวยจนถึงขั้นที่ว่าหาผู้ใดเสมอเหมือนก็หามีไม่
จู่ๆ ภาพทะเลสาบที่สงบสุขก็ถูกทำลาย พร้อมๆกับที่ชางหมิงและมังกรซอมบี้เจ่าหลงพุ่งออกมาต่อสู้กันบนผิวน้ำ สร้างคลื่นกระเพื่อมที่รุนแรงบนผิวน้ำของทะเลสาบ
“ระวัง!” เนี้ยหลี่รีบวิ่งมาทางนี้ทันที
เอียจืออวิ้นและเซี่ยวหนิงเอ๋อรีบถอยออกมาให้ห่างจากระยะต่อสู้ทันที
“การต่อสู้นี้ช่างรบกวนจิตใจอันสงบสุขของข้าเสียจริงๆ” เซี่ยวหยูกล่าวอย่างหน่ายๆ ปิ่นปักผมหยกปรากฏบนมือของเขาก่อนที่มันจะพุ่งไปทางมังกรซอมบี้เจ่าหลงและชางหมิง
ฟิ้ววว!
แนวแสงสาดส่องดูสวยงามราวกับกำลังร่ายรำ
ปิ่นปักผมกระแทกหอกอัสนีของชางหมิงจนหลุดจากมือ
ซึ่งในขณะนั้นชางหมิงกำลังจะสะบัดหอกอัสนีของตนเพื่อฆ่าเจ้ามังกรซอมบี้เจ่าหลงอยู่พอดี ทว่าเขาถูกพลังที่ลึกลับและน่าเกรงขามพุ่งเข้ามาจู่โจมใส่หอกอัสนีเสียก่อน หอกอัสนีหลุดจากมือของเขาพร้อมๆกับที่เขากระเด็นออกไปไกล แขนของเขาสั่นเทิ้มไม่ยอมหยุดทั้งมือขวาก็เต็มไปด้วยหยาดเลือด
เขามองไปยังเนี้ยหลี่และพวกด้วยความเกรงกลัว เมื่อกี้มันคืออะไรกันแน่? พลังน่ากลัวที่เขาเพิ่งเผชิญมันคืออะไร? แถมที่อีกฝ่ายทำเมื่อกี้ยังเป็นเพียงแค่การขู่เฉยๆเท่านั้นด้วย!
ชางหมิงตัดสินใจว่าตนจะต้องจากไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เขารีบไปเก็บหอกอัสนีแล้วเหาะหนีไปทันที
ความประหลาดใจปรากฏบนสายตาของเนี้ยหลี่ ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินพลังของเซี่ยวหยูต่ำไปกว่าความเป็นจริงมากโขเลยสินะ!
จบตอน
แปลไทยโดย
แปลไทยโดย
Ganauou H Shitai
ขอบคุนคับ
ตอบลบขอบคุณครับ ขออีกนะครับกำลังสนุก
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบอย่าบอกนะว่านี่คือเจ้านรการ
ตอบลบของกลุ่มผมใช้จ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพครับ
ลบในกลุ่มนี่แปลไปไกลแล้วหรอครับ
ลบผมอ่านทั้งสองกลุ่มครับ สนุกทั้งคู่ครับ เป็นกำลังใจให้คนแปลทุกคนครับ ถึงจะแยก2กลุ่มแต่จุดมุ้งหมายเดียวกันครับ สิ่งที่ชอบอ่านกี่เที่ยวก้อไม่เบื่อจริงๆครับ
ลบมีอีกกลุ่มหรอครับ ขอด้วยสิครับ เผื่อไปขอเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ลบพิมในกูเกิ้ลเลยครับ มีอีกเว็บนึง
ลบพิมในกูเกิ้ลเลยครับ มีอีกเว็บนึง
ลบเหนือฟ้ายังมีฟ้า
ตอบลบสงสัย มีสาวเพิ่มอีกคน ...พระเอกกู ขอบคุณมากครับ
ตอบลบขอบคุณ ครับ
ตอบลบเหมือนกับอ่านใจได้ ใช่เทพสถิตป่าวหว่า
ตอบลบตอบว่าไม่ใช่ละกัน
ลบงั้นก็รอเผยความลับตอนต่อไป มีเรื่องให้คิดให้ลุ้นแบบนี้แหละ นิยายถึงสนุก
ลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบสนุกมากครับขอบคุณครับ รับผมที Tee Peera
ตอบลบลุ้นๆเลย ขอยคุณครับๆ
ตอบลบขอบคุณครับ +_+.....231 โอมมม จงมาาา
ตอบลบสนุกมากขอรับสนุกหนุกมาก
ตอบลบสนุกมากขอรับสนุกหนุกมาก
ตอบลบรับผมเข้ากลุ่มทีนะครับ dew kaitisak suksa ขอบพระคุณอย่างสูงเลยครับบบ
ตอบลบสนุกมากครับ
ตอบลบสนุกมากครับ
ตอบลบสนุกครับ เปิดดูทุกชั่วโมง
ตอบลบลุ้นว่าตอนใหม่มาหรือยัง
ขอติดตามผลงานด้วยคนครับ
ขอบคุณมากครับ
ตอบลบขอบคุณครับสนุกมากๆ ช่วยรับเข้ากลุ่มด้วยนะครับ ขอบพระคุณอย่างยิ่ง (สูขหรือทุกข์ ล้วนอยู่ที่ใจ)
ตอบลบขอบคุณครับที่แปลให้อ่าน
ตอบลบขอบคุณ ครับ
ตอบลบขอบคุนคับ ช่วยรับเข้ากลุ่มด้วยคับ ah risingstar
ตอบลบอารมณ์7 กิเลศ6 มีอะไรบ้างคับ
ตอบลบ(หมายเหตุ
ลบ...ฉันทา 6 คือ ใจเอนเอียงเพราะ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อารมณ์ปรุงแต่ง
...อารมณ์ 7 คือ ยินดี โทสะ เศร้าโศก ร่าเริง รัก เกลียด ราคะ )
ขอบคุนคับ
ลบที่กำลังสู้กับมังกรเจาหลง ตัวนี่ไม่ใช่ตัวที่มีมุกสีชาดใช่ไหมครับ ตัวนั้นหนีลงน้ำไปแล้วถูกต้องไหมครับ
ตอบลบมันไปตามขึ้นมา มีตัวเดียวที่มีมุก
ลบสนุกมากขอบคุณครับ
ตอบลบโอมมมมม.....231จงมา
ตอบลบผมเดานะว่า เซียวหยูเป็นจอมมาร
ตอบลบใจจะขาดแล้วเอ๋ย ใจจะขาดแล้วเอ๋ย
ตอบลบจากตี5รีทุกชั่วโมงจาก8โมงรีทุกครึ่งชั่วโมงจาก9โมงรีทุก15นาที ปัจจุบันรีทุก5นาที T Tจะลงแดงตาย
ตอบลบเห็นโพสนี้แล้วปรื้มปริ่ม รู้สึกเกิดความยินดีขึ้นภายในจิตใจ
ลบเหมือนกันเลย กดตั้งแต่ตี5
ลบจะลงแดงคายแล้วครับแอด อิอิ
ตอบลบนี่ถ้าไม่ใช่จ้าวใต้พิภพ ก็คงเป็นลูกศิษย์แนวหน้าแหงๆ เล่นมองทะลุขนาดนี้ เจ๊ยู่หนาน ยังไม่สามารถเลย
ตอบลบเมิงไปถอนหมั้นหวินเอ๋อเลยดีมั้ยอย่างงี้ อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน
ตอบลบเจ้าปฎพีเปล่านิ
ตอบลบ