บทที่
263 - สถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้า
ณ
ดินแดนซากมังกร
นี่คือดินแดนที่กว้างใหญ่
ซึ่งมีกองกำลังที่แข็งแกร่งอยู่มากมาย ฝ่ายที่มีคุณธรรมประกอบด้วย นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์,
นิกายเหตุแห่งสวรรค์, นิกายไร้ลักษณ์, นิกายพันดอกไม้, นิกายฟ้ากำเนิด และนิกายเปลวฟ้า
ส่วนฝ่ายชั่วร้ายประกอบไปด้วย นิกายพระเจ้าปีศาจ, นิกายอสูรอัสนี, และนิกายจันทราสีชาด
นอกจากนี้ยังยังมีกองกำลังอิสระไม่สังกัดกับฝ่ายไหนใน เขตแดนบรรพบุรุษพระเจ้า และ เขตแดนบรรพบุรุษปีศาจ
และ อื่นๆ
กองกำลังเหล่านี้มีอยู่มานานแสนนานแล้วและก็พยายามรวบรวมผู้ที่เก่งกาจให้มาอยู่ภายใต้สังกัด
และสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา
ณ
ตะวันออกของดินแดนซากมังกร
ดินแดนส่วนนี้อยู่ภายใต้นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
ไม่มีใครรู้ว่านิกายนี้ได้อยู่ที่นี่มานานมากแค่ไหนแล้ว นิกายนี้มีหลายร้อยเมืองและมีจำนวนคนกว่าร้อยล้าน
แค่นับจำนวนสาวกภายนอกอย่างเดียวก็หลายล้านแล้ว ไม่มีใครทราบถึงจำนวนที่แน่ชัด รวมถึงจำนวนผู้เก่งกาจที่อยู่ภายใต้นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ว่ามีอยู่เท่าไหร่
นิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ถูกแบ่งเป็น
ชั้นสวรรค์ ชั้นใน และ ชั้นนอก คนสามัญทั่วไปจะเริ่มจากส่วนชั้นนอกเท่านั้น และจะผ่านเข้าสู่ชั้นในตามข้อกำหนด
ในส่วนของภายในนั้น ยังมีหลายๆอย่างที่ลึกลับ และส่วนของชั้นสวรรค์นั้นยิ่งไกลออกไป
จนแทบจะเป็นตำนาน
นอกจากนั้น
ยังมีหน่วยงานที่ดูแลพวกเขาทั้งหลาย นั่นก็คือสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้า ซึ่งอยู่ภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์
อัจฉริยะจากเมืองที่อยู่กระจัดกระจายกัน หรือมา จากอาณาจักรเล็กๆจะมาลงทะเบียนเรียนเพื่อพัฒนาฝึกฝนตนเองในสถาบันนี้
สถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้านี้จึงเป็นโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่มาก มีนักเรียนจำนวนนับล้าน
เป็น อาณาจักรย่อมๆได้เลยทีเดียว
สถาบันแห่งนี้อยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขา
จากอาคารเรียนสามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งป่า เป็นฉากที่งดงามน่าจดจำ
เซียวหยู
เนี้ยหลี่ หลู่เปียว และ กวนยี่ กำลังเดินผ่านป่าด้วยเส้นทางเล็กๆ กวนยี่อายุ 20 ปี
อยู่ในระดับเซียน เขามาจากดินแดนใต้พิภพชื่อเมืองซูหยู เขามีลักษณะคล้ายกับมนุษย์มากแต่มีผิวสีแดงกว่าหน่อย
กวนยี่มีลักษณะหยิ่งและหน้าตาหงุดหงิดตลอดเวลา
เท่าที่เนี้ยหลี่สังเกตุ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นลูกศิษย์ของจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพด้วยกันแต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย
วิธีการที่จะเข้าสถาบันแห่งนี้มีอยู่ไม่กี่วิธี
ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงรับสมัครพอดีในรอบสิบปี ดังนั้นทุกคนที่อยู่บริเวณนี้กำลังจะเป็นนักเรียนใหม่ของสถาบันแห่งนี้
ในระหว่างที่เดินอยู่
เซียวหยูก็อธิบายว่า “ สถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้านี้ แบ่งออกเป็น 5 ส่วน แต่ละส่วนมีการจัดอันดับ
ส่วนกลางเป็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุด ส่วนตะวันออกเป็นลำดับสอง ส่วนตะวันตกลำดับสาม
ส่วนใต้และเหนือ เป็นพวกปลายแถว พวกเจ้าจะต้องมีการสอบวัดระดับก่อนเพื่อเข้าสู่ส่วนต่างๆ”
เขาเหลือบไปมองกวนยี่และพูดต่อ
“นอกจากนี้ข้าอยากจะให้พวกเจ้าทำความเข้าใจจุดนี้ก่อน ถึงแม้ว่าเจ้าจะอยู่ในระดับตำนาน
หรือระดับเซียน เจ้าไม่ควรแสดงความเย่อหยิง ตอนนี้เจ้าอยู่ในดินแดนซากมังกร เจ้าเพิ่งมีพลังอยู่ในด่านแรกเท่านั้น
ระดับพลังในดินแดนซากมังกรนี้แบ่งออกเป็น 5 ระดับจิตวิญญาณ คือ ลิขิตสวรรค์ ดาราสวรรค์
แดนสวรรค์ วิถีแห่งมังกร และเทพสงคราม ทุกระดับจิตวิญญาณแบ่งย่อยอีก 9 ขั้น ต่ำกว่าระดับลิขิตสวรรค์
เราเรียกว่า ลิขิตปฐพี ใครที่ยังไม่ได้ปลุกลิขิตวิญญาณ เราเห็นเขาเป็นชนชั้นแรงงานเลยทีเดียว
จากที่เซียวหยู
อธิบาย กวนยี่ ถึงกับตะลึง ในดินแดนใต้พิภพของเขานั้น ผู้เชี่ยวชาญระดับเซียน ถือว่าอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ณ ดินแดนซากมังกร เขาเป็นเพียงแค่ ระดับลิขิตปฐพีเท่านั้นหรอ เป็นไปได้อย่างไร
ด้วยความสามารถของเขา เขาจะต้องเหนือกว่าคนอื่น ๆ สิ
กวนยี่หันไปมองเนี้ยหลี่อย่างรวดเร็ว
เขารู้สึกไม่พอใจเนี้ยหลี่เป็นอย่างมาก เขาทั้งคู่เป็นลูกศิษย์ของจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพเหมือนกัน
แต่เนี้ยหลีกลับได้รับการยอมรับที่สูงกว่าจากจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพ อาจเป็นเพราะเนี้ยหลี่มีความใกล้ชิดกับลูกบุญธรรมของจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพ
ทำให้กวนยี่รู้สึกเป็นคนนอก
เนี้ยหลี่รู้สึกได้ถึงความเป็นปรปักษ์ที่ออกมาจากกวนยี่
แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ศัตรูที่แท้จริงของเขาคือ จอมมารและจักรพรรดินักปราชญ์เท่านั้น
กวนยี่ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาเลย
จากคำอธิบายของ
เซียวหยู ทั้งสามคนได้เข้ามาสู่สนามหญ้า ที่ ๆ อาจารย์ของเขาจะขานชื่อเรียกพวกเขา อาจารย์เหล่านี้สวมเสื้อคลุมยาวและมีรัศมีออร่าที่ออกมาจากตัวพวกเขา
ด้วยรัศมีที่ปล่อยออกมานี้อย่างน้อยที่สุดพวกเข้าอยู่ในระดับลิขิตสวรรค์เป็นอย่างน้อย
เซียวหยู
เดินไปหาอาจารย์คนหนึ่งแล้วบอกกว่า “นี่คือจดหมายแนะนำตัวของนักเรียนทั้งสามคนนี้”
อาจารย์วัยสามสิบที่สวมเสื้อคลุมสีเงิน
เมื่อเขามองเห็นเซียวหยู ก็เกิดร่องรอยความประหลาดใจผ่านดวงตาของเขา “โอ๊ะ นั่น เซียวหยู”
เมื่อได้ยินอาจารย์พูดออกมา
อาจารย์คนอื่นๆก็หันมาสนใจพวกเขา
อาจารย์คนแรกรีบมองไปทางเนี้ยหลี่และหันไปทางอาจารย์คนอื่นๆ
“เราได้รับจดหมายแนะนำตัวแล้ว นำพวกเขาเข้าไปข้างใน”
เซี่ยวหยู
โยกศีรษะและบอกเนี้ยหลี่และอีกสองคน “ตามข้ามา”
เนี้ยหลี่
มองไปที่อาจารย์ที่ตกใจหลังจากได้ยินชื่อของเซียวหยู เหมือนกับว่าเซียวหยู มีชื่อเสียงอย่างมากในสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้านี้
ถึงแม้ว่าระดับพลังของเซียวหยูยังอยู่ในช่วงปลุกลิขิตวิญญาณ
พวกเขาเดินผ่านเข้ามาทางห้องโถงใหญ่
ที่ที่นักเรียนนับพันคนรวมตัวกันและร่วมทำกิจกรรมกันบางอย่าง
เซี่ยวหยู
หันมาทางพวกเขาและบอก เนี่ยหลี่และอีกคนทั้งสองว่า “ก่อนที่จะได้รับอนุญาตเข้าไปยังสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้า
อย่างแรกเลยจะต้องผ่านการทดสอบ การทดสอบนี้จะแบ่งระดับตามรากจิตวิญญาณ ซึ่งแบ่งออกเป็น
รากจิตวิญญาณสวรรค์ รากจิตวิญญาณปฐพี และ รากจิตวิญญาณมนุษย์ ซึ่งพวกเขาแบ่งระดับย่อยอีก
9 ขั้น คนที่มีรากจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งจะฉลาดและมีความสามารถที่จะพัฒนาและรับเอาพลังสวรรค์ไปได้อย่างรวดเร็ว
“แล้วท่านละมีรากจิตวิญญาณอยู่ระดับไหน.”
หลู่เปียวถามเซียวหยู ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"ข้ามีรากจิตวิญญาณสวรรค์ ระดับ 7” เซี่ยวหยูกระซิบบอก
หลังพูดจบ
เนี้ยหลี่ตกใจ เขาคาดไม่ถึงเลยว่าพรสวรรค์ของเซียวหยูอยู่ในระดับสูงขนาดนี้ แล้วทำไมเขายังไม่สามารถปลุกลิขิตวิญญาณได้ละ
โดยทั่วไปแล้วแค่รากจิตวิญญาณมนุษย์ระดับ 7 ก็ถือว่ามีฉลาดยอดเยี่ยมมาก และตั้งแต่รากจิตวิญญาณปฐพีระดับ 5 ขึ้นไป ก็เข้าสู่ระดับอัจฉริยะ แต่สำหรับรากจิตวิญญาณสวรรค์นั้น
หาได้ยากมาก ภายในนิกายขนนกศักดิ์สิทธิ์ มีแทบไม่ถึงพันคนเลย
“รากจิตวิญญาสวรรค์ระดับ 7 นี่แข็งแกร่งมากเลยหรอ” หลู่เปียวหันไปถามเนี้ยหลี่
คนที่ยืนอยู่ใกล้ๆได้ยินคำพูดของหลู่เปียวหันไปมองทันที
คนคนนี้โคตรโง่เง่าน่ารังเกียจ ถามมาได้อย่างไร รากจิตวิญญาณสวรรค์หาได้ยากมาก
ตั้งแต่ระดับ 3
ขึ้นไปก็ถือว่าฉลาดล้ำเลิศแล้ว ยิ่งใครสูงกว่าระดับ 7 นี่สะเทือนสวรรค์ได้เลยหละ
หลังจากจับสัญญาณจากคนรอบข้างได้
หลู่เปียวเกาหัว เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาไม่ควรถามแบบนี้
เนี้ยหลี่มองไปที่เซียวหยู
ในความเป็นจริงแล้วถ้าเขามีรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 7 และด้วยอายุเท่านี้
เขาน่าจะปลุกลิขิตวิญญาณได้แล้ว แต่ทำไมเขายังไม่มีอีกละ เนี้ยหลี่ยังคงมึนงงคิดไม่ตกกับสิ่งนี้
ในชีวิตก่อนหน้าของเนี้ยหลี่
เขาเองได้ถูกทดสอบและได้รากจิตวิญญาณปฐพีระดับ 7 ซึ่งมีความฉลาดในระดับสามัญ
อย่างไรก็ตาม เพราะเขาครอบครองตำราจิตอสูรชั่วขณะเนี้ยหลี่ก็สามารถเข้าถึงระดับเทพสงครามได้
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีตำราจิตอสูรชั่วขณะในชีวิตนี้
แต่เขาก็ยังคงมีความรู้จากชีวิตในก่อนหน้านี้
“การทดสอบรากจิตวิญญาณนี่น่ากลัวชะมัด
ข้ากลัวผลของการทดสอบเหลือเกิน การทดสอบจิตวิญญาณครั้งสุดท้าย ข้ายังคงเป็นที่โหล่”
หลู่เปียวกล่าวแบบคอตก
“การทดสอบนี้เป็นการทดสอบรากจิตวิญญาณ
ไม่เหมือนกับการสอบจิตวิญญาณที่เคยทดสอบ เพียงแค่ทำตามเทคนิคฝึกฝนที่เคยได้ทำมา แม้ว่าระดับรากจิตวิญญาณของเจ้าจะไม่สูง
เจ้าก็ยังสามารถพัฒนาไปได้อยู่ดี ไม่ต้องกังวลมาก” เนี้ยหลี่ตบไหล่หลู่เปียวและยิ้มให้
กวนยี่เหลือบมองไปที่หลู่เปียว
แล้วเขาก็หัวเราะหลู่เปียว สำหรับการทดสอบนี้พวกอ่อนหัดก็มักจะกลัวการทดสอบ
จำนวนของคนที่เข้ามาทดสอบเพิ่มขึ้น
อาจารย์ทั้งสามยังคงบันทึกคะแนนอยู่
“รากจิตวิญญาณมนุษย์ระดับ 3 ส่งกลับไป”
“รากจิตวิญญาณมนุษย์ระดับ 2 ส่งกลับไป”
ได้ยินเสียงอาจารย์บอกอย่างนั้น
หลู่เปียว หันกลับมาถามเซียวหยู “อะไรคือส่งกลับไป”
เซียวหยู
อธิบาย “เมื่อพวกเขาถูกระบุให้ ส่งกลับไป หมายความว่า สถาบันนี้ไม่ยอมรับเขา สถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้าจะรับคนที่มีรากจิตวิญญาณมนุษย์ระดับ 5 ขึ้นไป พวกที่พรสวรรค์ไม่ถึง จะถูกปฎิเสธ”
หลังจากเซียวหยูพูด
หลู่เปียวหดคอเหมือนเต่า ความคิดว่า “ส่งกลับไป ช่างน่ากลัวเหลือเกิน พวกเขาไม่สามารถกลับไปยังโลกเล็ก
ๆของพวกเขาได้ภายใน 5 ปี ดังนั้นถ้าสถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้า นี้ไม่รับเขา เขาจะไปที่ใดได้ล่ะ? หลู่เปียวแทบจะร้องไห้ออกมาในขณะที่เขาคิดว่าจุดจบของเขาคือ
ส่งกลับไป”
กวนยี่
ชำเลืองมองไปที่ใบหน้าของหลู่เปียวอย่างเย็นชา และสบถ “ขยะเอ้ย”
หลังจากกวนยี่พูด
เนี้ยหลี่หันไปจ้องหน้ากวนยี่อย่างเย็นชาและพูดว่า “ใครที่เจ้าเรียกว่าขยะ” เนี้ยหลี่ไม่ยอมให้ใครดูถูกเพื่อนของเขา
เห็นเนี้ยหลี่ถามอย่างนั้น
กวนยี่ยักไหล่ “เจ้าคิดว่าข้าพูดถึงใครละ”
เซี่ยวหยู
ขมวดคิ้วของเขาสักพัก เขาก็ไม่พอใจในคำพูดของกวนยี่ อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นเนี่ยหลี่เอาเรื่อง
เซี่ยวหยูกลัวว่าเนี่ยหลี่จะจัดการกับเขาแน่ เขาจึงรีบไปห้ามและกล่าว “สถาบันจิตวิญญาณแห่งฟ้านี้ไม่อนุญาตให้มีการต่อสู้ใดๆเกิดขึ้น
นอกเหนือจากการแข่งขันอย่างเป็นทางการภายใน พวกเขามีบทลงโทษที่เข้มงวด สำหรับผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎเหล่านั้น
พวกเขาจะถูกส่งไปยังคุกใต้ดินเป็นเวลาหลายเดือน”
แม้เขารำคาญกวนยี่อย่างมาก
เนี้ยหลี่ก็เข้าใจในกฎและไม่ได้เอาเรื่องต่อ
เซียวหยูมองไปที่กวนยี่และกล่าวอย่างเย็นชา
"เจ้าเป็นลูกศิษย์ของพ่อบุญธรรมข้า ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะไม่สร้างปัญหาใด ๆ ให้กับคนอื่น
ถ้าใครพยายามเริ่มมันขึ้นมา อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้าก่อน และอย่ามาร้องไห้ขอให้ข้าช่วยเมื่อเจ้าถูกทำโทษละกัน”
ได้ยินคำที่เซียวหยูบอก
กวนยี่รีบขอโทษทันที “นายน้อยเซียวหยู เมื่อสักครู่ข้าพลั้งปากไปหน่อย กรุณาอย่าได้ใส่ใจ”
เซียวหยูถอนหายใจแต่ยังคงเงียบ
กวนยี่เหงื่อตก
เขาไม่คิดว่าเซียวหยูจะเข้าข้างเนี้ยหลี่และหลู่เปียว เขาเข้าใจชัดแล้วว่า เขาต่อต้านเซียวหยูไปก็เป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาด
แม้ว่าเขายังคงดูหมิ่นพวกเนี้ยหลี่และหลู่เปียว แต่มันจะดีที่สุดถ้าเขาหลีกเลี่ยงและไม่ต่อต้านเซียวหยู
ในขณะที่ทั้งสี่คนพูดคุยกัน
ก็มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเดินผ่านเข้ามา คนที่เป็นผู้นำดูหนุ่มแน่นและมีรังสีประสงค์ร้ายเล็ดรอดออกมา
เขาอายุประมาณสิบเจ็ด หรือสิบแปด และยิ้มเล็กน้อยมองมาทางนี้
หนุ่มคนนั้น
พูดเล่นเสียง “ว๊าว วาว ว๊าว นั้นมันสุดยอดอัจฉริยะเซียวหยูจากส่วนตะวันตกนี่ ไม่ได้เจอกันนาน
กลับมาเจอกันในที่แห่งนี้ มันช่างบังเอิญอะไรขนาดนี้”
“
ฮวาหลิง ถ้าเจ้าไม่พูด ก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอกนะ ข้าไม่ได้มีเวลาว่างมาสนทนากันเจ้า”
เซียวหยูทำสีหน้าเย็นชาใส่
เนี้ยหลี่รู้สึกได้ถึงความเป็นปรปักษ์ระหว่างคนทั้งสอง
เนี้ยหลี่สังเกตคนที่ชื่อฮวาหลิง หนุ่มคนนี้มีคนหลายสิบคนตามหลังเขามา และเขาก็มีลิขิตวิญญาณแล้ว
และกำลังจะเขาสู่ระดับลิขิตสวรรค์
ฮวาหลิง
หัวเราะออกมาและพยายามกอดคอเซียวหยู แต่เซียวหยูสะบัดออกไป ฮวาหลิงดึงแขนกลับแล้วหัวเราะ
นายน้อยเซียวหยู ยังคงไม่สุภาพเหมือนเดิม เลยนะ
จบตอน
แปลไทยโดย
ค้างครับ ขอบคุณมากครับ
ตอบลบค้างครับ ขอบคุณมากครับ
ตอบลบมาแล้วๆๆ เย่ๆๆๆ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ ติดตามตอนต่อไปอยู่ครับ
ตอบลบขอบคุณหลายเด้อ ครัช
ตอบลบแจ๋ววววว
ขอบคุณครับ
ตอบลบเข้ามาดูไม่ต่ำกว่า10รอบ รอตอนต่อไปนะครับ
ตอบลบผมแวะมาดูทุก ชม. เรยก็ว่าได้ 555+
ลบผมนี้ทุก ครึ่ง ชม.อ่ะ ว่างปุ้บ กดเข้าดูปั้บ
ลบอ่านซ้ำๆวนๆไปรอตอนต่อไป ;)
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบเพลินเลย
ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ รอตอนใหม่อยู่ครับ
ตอบลบไม่ทราบว่าจะเข้ากลุ่มต้องทำยังไงบ้างหรอ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบขอบคุณคัฟ
ตอบลบช่วยเพิ่มผมเข้ากลุ่ม ปิด FB ด้วยได้ไหมครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง
ตอบลบhttps://web.facebook.com/profile.php?id=100002143417566&fref=ts
ต้องการเข้ากลุ่มครับ https://www.facebook.com/ShinzqXw
ตอบลบรบกวนขอเข้ากลุ่มด้วยได้ไหมครับ
ตอบลบhttps://www.facebook.com/nadd.kub
ขอบคุณครับที่แปลให้อ่าน
ตอบลบขอบคุณผลงานดีดีคับ ^_^
ตอบลบระดับสูงก็ยังมีคนกวงติง
ตอบลบอยากเข้ากลุ่มคับ
ตอบลบขอบคุนคับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ