วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

บทที่ 261 - สั่งเสียและจากลา

บทที่ 261 - สั่งเสียและจากลา

ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้นได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เนี้ยหลี่และคนอื่นๆได้ร่ำลาแก่ครอบครัวของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็มุ่งหน้าไปสู่ดินแดนใต้พิภพ

การตายของเอียเซิ่งยังคงรบกวนจิตใจและสร้างความเศร้าหมองภายในจิตใจของทุกคน

แม้ว่าในช่วงเวลานี้ชีวิตของพวกเขานั้นจะรู้สึกวุ่นวายสับสนไปหมด เมื่อการตายเป็นเรื่องปกติ แต่มนุษย์นั้นไม่ได้เป็นดั่งต้นไม้ ที่จะใช้ชีวิตไปโดยที่ไม่มีความรู้สึกใดๆ

ทันใดนั้นเนี้ยหลี่ก็มีความคิดขึ้นข้างในจิตใจ ในโลกเล็ก ๆ นี้นั้น พลังอำนาจที่ลึกลับที่สุดนั้นคืออานุภาพแห่งพื้นที่และเวลา และบุคคลที่ลึกลับที่สุดนั้นต้องเป็นเทพสถิตแห่งพื้นที่และเวลา เขาเท่านั้นที่สามารถกระตุ้นพลังแห่งเวลาและเปลี่ยนแปลงในดวงชะตาของคนคนหนึ่งได้ บางทีนั้นเอียเซิ่งอาจจะยังรอด ถ้าหากพวกเขาพบเทพสถิตแห่งพื้นที่และเวลา !!

แม้ว่าในชีวิตก่อนหน้านี้นั้น เนี้ยหลี่พึ่งเคยจะได้ยินเสียงกระซิบที่เงียบสงบของเทพสถิต การมีอยู่ของเขานั้นลึกลับอย่างน่าเหลือเชื่อ อย่างไรก็ตามเนี้ยหลี่เคยได้ยินมาว่าเทพสถิตนี้นั้นกลับด้อยประสิทธิภาพในการต่อสู้เป็นอย่างมาก นับตั้งแต่เขาฝืนใช้พลังมากเกินไปในทุก ๆ ครั้ง เขามีการเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของพื้นที่หรือช่วงเวลา

ในสวนด้านบนชั้นที่ 9 ของหอคอยมรณะ

เนี้ยหลี่รวมทั้งคนอื่นๆที่ถูกคัดเลือกมานั้นรวมทั้งเจ็ดผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งประดุจดั่งจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพ

เนี้ยหลี่กวาดสายตาไปยังพื้นที่รอบๆ เพื่อค้นหาร่องรอยของจอมมาร ถ้าหากจอมมารปรากฏตัวอีกครั้ง เนี้ยหลี่จะปลิดชีพจอมมารอย่างไม่ลังเล

อย่างไรก็ตาม จอมมารไม่ได้แสดงตัวตน !!

จ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพจ้องมองมาที่เนี้ยหลี่และเข้าใจเจตนาของเนี้ยหลี่ดี เขาได้เดือนเนี้ยหลี่จากข้างๆ เนี้ยหลี่ ข้าสามารถบอกได้เลยว่าเจ้าต้องการที่จะฆ่าใครบางคน แต่ข้าขอเตือนไว้อย่างหนึ่งว่า แม้เจ้าจะเป็นศิษย์ของข้า ข้าก็ไม่สามารถที่จะช่วยเจ้าได้ ถ้าหากเจ้าเริ่มลงมือฆ่าอีกฝ่ายละก็ อาจารย์ของฝ่ายนั้นคงจะฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน! ถ้าหากใครสักคนต้องการที่จะฆ่าเจ้า ข้าก็จะลงมือเช่นเดียวกัน !!

เมื่อได้ยินคำพูดจากท่านจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพแล้ว เนี้ยหลี่กำหมัดของเขาไว้แน่นและกล่าวว่า อาจารย์ข้าอยากต้องการถามอะไรบางอย่าง ถึงแม้ว่าคนคนนั้นจะฆ่าผู้มีพระคุณของพวกเรา พวกเราก็ไม่ได้รับอนุญาติให้ทำอะไรได้เลยอย่างนั้นหรือ?!”

จ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพจ้องมองมายังเนี้ยหลี่และหยุดคิดไปชั่วขณะหนึ่งก่อนจะกล่าว ยังไม่ใช่ตอนนี้ หากเจ้ามีความแค้นที่ฝังลึกแล้วละก็ ข้าอยากจะบอกว่าเจ้าอย่าพึ่งลงมือใดๆทั้งสิ้น รอจนกว่าจะเข้าไปยังดินแดนซากมังกร นอกจากนี้แล้วการบ่มเพาะพลังของเจ้าต้องก้าวข้ามไปอีกขั้นก่อนที่เจ้าจะแก้แค้น เมื่อถึงตอนนั้นตัวข้าเองก็จะไม่ห้ามเจ้า !!

ดังที่จ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพนั้นได้เสนอมา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแก้แค้นได้ในเวลาเช่นนี้ นอกซะจากว่าการบ่มเพาะพลังของพวกเขาจะก้าวข้ามอาจารย์ของจอมมาร! เมื่อถึงตอนนั้น แม้แต่อาจารย์ของจอมมารก็ไม่มีทางที่จะหยุดยั้งเนี้ยหลี่ได้ เนี้ยหลี่พยายามสงบสติอารมณ์และความแค้นของเขาที่มีต่อจอมมารก่อนที่จะพยักหน้าและตอบไปว่า ข้าจะฟังคำแนะนำของท่าน

เมื่อได้ยินคำพูดของเนี้ยหลี่ จ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพพยักหน้าอย่างพอใจ เซียวหยูกล่าวเสริม เวลาจะแก้แค้นใคร ก็ต้องรอทุกอย่างให้คลี่คลาย ให้เค้าใช้ชีวิตอย่างปกติสุข แล้วค่อยเล่นงานช่วงนั้นแหละ” (เป็นสำนวนจีนที่มีความหมายว่าจะล้างแค้นทั้งทีแม้สิบปีก็ยังไม่ถือว่าสาย !!)

เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวหยู เนี้ยหลี่ก็พยักหน้าและไม่ได้กล่าวอะไรต่อ การตายของเอียเซิ่งนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสามารถทนได้เลย เขาเคลื่อนไปยังด้านข้างๆของต้วนเจี้ยนและกระซิบข้างๆหูว่า ต้วนเจี้ยน เจ้าและจอมมารมีอาจารย์คนเดียวกัน ระวังตัวด้วย!!จอมมารอาจจะลอบกัดเจ้าก็เป็นได้ !!

ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าเพียงคนเดียวข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถจัดการกับจอมมารได้ เจ้าต้องดูแลตัวเองดีๆละ !!เนี้ยหลี่เตือนไปยังต้วนเจี้ยน ต้วนเจี้ยนเป็นคนที่ค่อนข้างหนักแน่นและมีการเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกายขึ้นอย่างมาก เขาน่าจะไม่เป็นอะไร

ครับนายท่าน ข้าเข้าใจแล้วต้วนเจี้ยนพนักหน้าตอบ

เมื่อเขามองไปยังเอียจืออวิ้น เนี้ยหลี่สัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของนาง หลังจากที่มุ่งหน้าไปยังดินแดนซากมังกร เขาจะไม่สามารถดูแลนางได้อีกเลย อย่างไรก็ตาม เนี้ยหลี่เข้าใจเอียจืออวิ้นเป็นอย่างดี นางเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งพอที่จะเดินออกมาจากความโศกเศร้าของตัวนางเองได้

เขานึกย้อนกลับไปเมื่อชาติที่แล้ว แม้ว่าปู่และพ่อของเอียจืออวิ้นนั้นจะตายลงไปแต่เอียจืออวิ้นยังคงเข้มแข็งและยังเป็นผู้นำของทุกคนผ่านพ้นเทือกเขาบรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์และไม่เคยสูญสิ้นในความหวัง เมื่อมองไปในดวงตาขอนางนั้นถูกเติมเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆแม้แต่เนี้ยหลี่เองยังอดที่จะชื่นชมไม่ได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม?เนี้ยหลี่จึงได้มีความอดทนเพียงพอที่จะฝ่าฝันอยู่ในดินแดนทะเลทรายเพียงลำพังก่อนที่จะก้าวไปสู่ยังพระราชวังแห่งทะเลทราย มันเป็นเพราะความมุ่งมั่นของเอียจืออวิ้นที่ส่งผลกระทบมายังเขาโดยตรงและสอนให้เนี้ยหลี่นั้นไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งใดๆ

เนี้ยหลี่มองไปยังเอียจืออวิ้นและกล่าว อวิ้นเอ๋อหลังจากที่พวกเจ้าถึงดินแดนซากมังกรเจ้าต้องดูแลตัวเองดีๆนะ !!

อื้อเอียจืออวิ้นพยักหัวนาง

เนี้ยหลี่นั้นค่อยๆกอดเอียจืออวิ้นอย่างอบอุ่น มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาทั้งคู่ก็แยกออกจากกัน อย่างไรก็ตาม เพื่ออนาคตของเขาและคนอื่นๆพวกเขาทุกคนก็ตั้งใจที่จะฝึกฝนตัวเองแม้ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ตาม

นางค่อยๆที่จะตะหนักได้ว่าเนี้ยหลี่นั้นได้กลายเป็นคนที่ไม่สามารถหาใครมาแทนเขาได้ นางเองก็เป็นคู่หมั้นของเขา ขณะที่นางคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้อยู่นางรู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงเป็นใย นางต้องการที่จะรออีกสักนิด ให้นางโตอีกสักหน่อยเมื่อถึงตอนนั้นนางจะสวมชุดเจ้าสาวและอยู่เคียงข้างเนี้ยหลี่ตลอดไป

พวกเขาเข้ามาใกล้กันมากขึ้นเพื่อที่จะกล่าวคำอำลา แม้ว่านางไม่ต้องการที่จะจากกันก็ตาม….

เมื่อถึงเวลา เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้าของหอคอยมรณะ 9 ชั้น ก็ปรากฎหลุมหมุนวนกันเป็นเกลียวคลื่นขนาดใหญ่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะดูดพวกเขาและนำพาพวกเขาไปที่ใด

ภาพที่เห็นอยู่ตรงนั้น จ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพ หลิงหยุน เทียนฮุน และผู้เชี่ยวชาญที่เหลือทั้งหมดมุ่งตรงไปยังเกลียวคลื่นนั้น สายตาของพวกเขานั้นลุกโตไปด้วยแสงของพระเจ้าราวกับว่าพวกเขาจะหายไปในความว่างเปล่า

ทันใดนั้นผู้เชี่ยวชาญในเสื้อคลุมสีเงินที่ยืนอยู่ในบริเวณใกล้ๆกล่าวว่า เอาละ ! ประตูของโลกเล็ก ๆ แห่งนี้ได้เชื่อมไปยังสถานที่ของแต่ละนิกาย ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องไป !

ผู้เชี่ยวชาญเสื้อคลุมสีเทาคืออาจารย์ของ เหวยหนาน และ จูอวีจวิน

เหวยหนานและ จูอวีจวิน มองไปยังเนี้ยหลี่และคนอื่นๆและกล่าวลา เนี้ยหลี่! ตู่ซือ! พวกเราจะล่วงหน้าเจ้าไปก่อนนะ !

เอาละ รักษาตัวดีๆและก็ดูแลตัวเองด้วยนะเนี้ยหลี่พยักหน้าของเขา

ตู่ซือ หลู่เปียว และคนที่เหลือกล่าวลากับพวกเขาทั้งสอง

ผู้เชี่ยวชาญชุดคลุมสีเทาโบกมือขวาของเขาด้วยกันกับ เหวยหนาน จูอวีจวิน และผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนที่เหลือพวกเขาบินไปยังท้องฟ้าและเข้าสู่เกลียวคลื่นมหึมา

ช่วงเวลาต่อมาในขณะนั้น

ขณะนี้ประตูของโลกเล็ก ๆ เชื่อมเข้ากับบริเวณใกล้เคียงของนิกายหมายเหตุสวรรค์! มันถึงเวลาที่พวกเราจะต้องไปแล้วเช่นกันรอยยิ้มเล็กๆแสดงออกมาบนใบหน้าของหลิงหยุนและมองไปยังเอียจืออวิ้นและเซียวหนิงเอ๋อ และเซียวเสว่ เมื่อนางเห็นว่าเอียจืออวิ้นไม่สามารถที่จะแยกจากเนี้ยหลี่ได้นางก็ได้แต่ถอนหายใจในขณะที่นางเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ มันเป็นความผูกพันที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงของหนุ่มสาว หลังจากที่นางนั้นอยู่มานานนางก็ได้ลืมความรู้สึกเหล่านั้นไปจนสิ้นแล้ว

เซี่ยวหนิงเอ๋ออยู่ข้าง ๆ เนี้ยหลี่อย่างเงียบ ๆ และมองไปทางเนี้ยหลี่น้ำตาได้ไหลออกมาเอ่อล้นดวงตาจนทำให้มองภาพแทบไม่ชัด ! นางเห็นเด็กหนุ่มที่มีไหวพริบและรอยยิ้มสดใสอย่างเลือนลางอยู่ข้างหน้า นางได้แต่ยอมรับความเจ็บปวดที่อยู่ภายในจิตใจของนาง มันเป็นภาพที่นางจะจำไว้ตลอดจวบจนวันสุดท้ายแม้ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม

เอียจืออวิ้นค่อยๆปาดน้ำตาออกจากแก้มของเซี่ยวหนิงเอ๋ออย่างอ่อนโยน

หนิงเอ๋อ เมื่อเจ้าได้มาถึงทางที่จะต้องเลือกเดินแล้วเจ้าก็ต้องดูแลตัวเองด้วยละ !เนี้ยหลี่ก้มตัวของเขาเล็กน้อยและจ้องมองไปยังไปใบหน้าที่งามราวกับหยกบริสุทธ์ของเซี่ยวหนิงเอ๋อที่มีน้ำตาเป็นดั่งเช่นเพชรระยิบระยับก็มิปาน

เมื่อได้ยินคำของเนี้ยหลี่ ทันใดนั้นเซียวหนิงเอ๋อก็ถูกดึงเข้ามาในอ้อมกอดของเขา ภายในอ้อมกอดที่ลึกและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าเอียจืออวิ้นและเนี้ยหลี่จะผูกผันกันมากแค่ไหนแต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเซี่ยวหนิงเอ๋อนั้นก็ไม่ได้น้อยไปกว่า เอียจืออวิ้นเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่การกล่าวอำลานั้นนางไม่สามารถที่จะควบคุมตัวเองได้เลย

หนิงเอ๋อ...เนี้ยหลี่มองไปที่หนิงเอ๋อในอ้อมกอดของเขาด้วยความตกใจเล็กน้อย เมื่อนางค่อยๆรู้สึกตัวนางแสดงสีหน้าอย่างอ่อนโยน เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าหนิงเอ๋อรู้สึกเช่นใด

เซียวหนิงเอ๋อตอนนี้อยู่ภายในอ้อมแขนของเนี้ยหลี่ ช่วงเวลาสั้นๆต่อมา นางได้พึมพำ เนี้ยหลี่เจ้าไม่ต้องพูดอะไรออกมาหรอก ข้าเข้าใจ ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นข้าฝันมาตลอด ว่าข้าได้กลายเป็นคนที่หน้าสมเพศ ข้าไม่รู้ว่าจะต้องทนทุกทรมานที่ต้องต่อสู้ไปแบบนั้นอีกนานแค่ไหน จนข้าได้พบกับเจ้า เนี้ยหลี่ เจ้าได้ทำให้ชีวิตของข้านั้นมีความหมาย ชีวิตนี้ข้าจะร่วมสู้กับเจ้าตราบจนวันที่หมดลมหายใจ แม้ว่าข้าจะรู้ว่าทั้งหมดนั้นมันก็แค่ความฝันแต่ข้าก็รู้สึกว่ามันถูกกำหนดไว้ ลาก่อนเนี้ยหลี่ หลังจากที่ไปถึงที่ดินแดนซากมังกร ข้าสัญญาว่าจะเข้มแข็งขึ้น !!

หลังจากที่เซี่ยวหนิงเอ๋อพูดจบก็ได้มองไปรอบๆและเช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของนางและเดินไปยังเอียจืออวิ้น

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเซี่ยวหนิงเอ๋อ เนี้ยหลี่ยังคงตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นและยืนอยู่ที่กับที่สักพัก จิตใจของเขาได้รับบางสิ่งบางอย่างแม้ว่ามันจะเล็กๆน้อยๆแต่ก็เริ่มไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทันใดนั้นความทรงจำก็พรั่งพรูขึ้นมาอย่างไม่สิ้นสุด

ในความเป็นจริงในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้นั่น เนี้ยหลี่มีผู้หญิงอีกคนหลังจากเสียเอียจืออวิ้นไป ตอนนั้น เขาได้กลายเป็นผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของดินแดนซากมังกรและได้พบกับผู้หญิงที่สวมหน้ากากผู้หนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่ทราบว่าต้นกำเนิดของนางนั้นเป็นใคร มาจากไหน แต่ก็ได้รับการยอมรับจากคนอื่นอย่างรวดเร็ว ในช่วงแรกนั้นเนี้ยหลี่พยายามที่จะอยู่ให้ห่างกับนางและพยายามที่จะไม่เข้าไปอยู่ใกล้ ๆ นาง อย่างไรก็ตามแต่อีกฝ่ายก็ได้ช่วยชีวิตเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะการตายของเอียจืออวิ้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เนี้ยหลี่จะรู้สึกอะไรกับคนอื่น อย่างไรก็ตามในที่สุดเนี้ยหลี่ก็ให้การยอมรับนางคนนั้นและอยู่กับนางคนนั้นเป็นเวลาที่แสนยาวนาน จนในท้ายที่สุด นางก็ตายในระหว่างการต่อสู้

เนี้ยหลี่รู้สึกเสียใจอยู่ตลอดเวลา หลังจากนั้น ขณะที่พวกเขาอยู่ด้วยกันทั้งคู่นั้น เขาไม่เคยรักนางอย่างแท้จริง ในช่วงเวลาหลังจากการตายของนาง เนี้ยหลี่พยายามที่จะนึกถึงนาง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ที่พบนาง นางได้สวมหน้ากากอยู่ตลอดเวลา เขาไม่เคยมีความทรงจำของนางคนนั้นที่ชัดเจนเลย เขารู้แค่ว่าชื่อของนางคือ เซี่ยวหนิง

ในชีวิตนี้ของเนี้ยหลี่มีความตั้งใจที่จะตามหาเซี่ยวหนิงในดินแดนซากมังกร เขาก็อยากที่จะทำให้มันดีกว่าในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา

แต่สิ่งใดกันที่เป็นฝันของเซี่ยวหนิงเอ๋อ?มันเป็นไปได้มั้ยที่นางจะไม่ได้ตายอยู่ในป่าทมิฬและยังเดินทางไปในดินแดนซากมังกร? หรือแม้แต่ความทรงจำของเซี่ยวหนิงเอ๋อที่เป็นเซียวหนิงในชาติที่แล้ว?

เซี่ยวหนิงเอ๋อ , เซี่ยวหนิง….?”เนี้ยหลี่พึมพำกับตัวเอง เขาค่อยๆคิดถึงเรื่องที่เหมาะเจาะพอดีกันของทั้งสองคน ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนางจำได้ทันทีเมื่อเขาพับกันครั้งแรก หลังจากนั้นเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเซี่ยวหนิงเอ๋อนั้นไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่นางก็จะคอยช่วยเหลือเขาตลอดเวลาโดยไม่มีแม้แต่ความลังเลและไม่ออกความเห็นใดๆทั้งสิ้น !

แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเนี้ยหลี่ ที่เซี่ยวหนิงเอ๋อนั้นอาจจะเป็นเซี่ยวหนิงอีกคนนั่นอาจจะเป็นเพราะช่องว่างที่เกิดขึ้นในห้วงเวลาจนกว้างจนได้ทำให้เขาลืมได้หมดแล้ว

เซียวหนิงเล่าว่าเมื่อครั้งในอดีตใบหน้าของนางได้ถูกทำลายจากป่าทมิฬ จิตวิญญาณของนางยังได้รับประกายบางอย่างและนางก็จมลงไปในคำสาปไม่มีที่สิ้นสุด ที่ป่าทมิฬนั้นมืดมากซะจนมองแทบจะไม่เห็นเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างถึงที่สุด เกินกว่าขอบเขตของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดทุกคนในดินแดนซากมังกร

ความลับนั้นเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของป่าทมิฬ?เซี่ยวหนิงเอ๋อสามารถอยู่รอดในสถาณการณ์เช่นนั้นได้อย่างไร?และก้าวมายังดินแดนซากมังกรได้อย่างไร?ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา คำสาปชนิดใดกันที่นางได้พบ?


จบตอน

แปลไทยโดย
Phorr Tananchai

22 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับผมรออ่านอยูเลยอะ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับผมรออ่านอยูเลยอะ

    ตอบลบ
  3. รับผมเข้ากลุมทีครับ แม็ก ผู้ชายอ้วนดำ ครับ

    ตอบลบ
  4. กำลังเศร้าเลย รออ่านนะคะทีมแปล ขอบคุณมากๆค่ะ

    ตอบลบ
  5. รับผมเข้ากลุมทีครับ แม็ก ผู้ชายอ้วนดำ ครับ

    ตอบลบ
  6. สนุกมากครับบบบ รับเข้ากลุ่มทีนะครับ Thanapat Prapasirirux

    ตอบลบ
  7. มีใครทราบมั้ยครับ เทพอัคคีอยู่ไหน

    ตอบลบ
  8. เรื่องราวเริ่มตื่นเต้นๆแล้ว ขอบคุณมากๆค้าบ Piyanan Inraksa

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณครับสำหรับการแปล ยังไงขอรบกวนรับเข้าร่วมกลุ่มด้วยนะครับ Atcharat Suppradit ขอบคุณอีกครั้งครับ

    ตอบลบ
  10. พี่ครับรับผมเข้ากลุ่มทีครับ มีเพียงร้อยยิ้ม ที่ยังเหมื่อนเดิม ขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

    ตอบลบ
  11. ขอบคุณคับ เริ่มสร้างฮาเร็ม อิอิ

    ตอบลบ