บทที่ 274
- ที่เหมาะสม
“พวกเจ้ารู้จักสมุนไพรหญ้ายอดสีชาดหรือไม่?
หากนำมันไปผสมเข้ากับอาหารหรือน้ำดื่ม ผลของมันจะทำให้เกิดเป็นพิษ
อีกทั้งยัง ไร้กลิ่น ไร้สี และไร้รส ไม่ว่าผู้ใดก็ยากแก่การรับรู้ว่าโดนวางยา
อาการหลังจากรับพิษเข้าไปแล้ว ร่างกายจะรู้สึกติดขัด ชีพจรจะค่อยๆตีบตัน
จนท้ายที่สุดการบ่มเพาะพลังจะหยุดชะงัก และมิอาจฝึกฝนต่อไปได้อีก” เนี้ยหลี่อธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ทุกถ้อยคำจากเด็กหนุ่ม
ส่งผลให้หัวใจของกู่หลานพลันสั่นสะท้าน
อาการที่เขาได้กล่าวอธิบายมานั้นตรงกับตัวนางทุกระเบียดนิ้ว
กูเป่ยพุ่งร่างเข้าจับไหล่ทั้งสองของเนี้ยหลี่พลางเอ่ยถามอย่างมีความหวัง
“ถ้าหากสิ่งที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง
เจ้าสามารถรักษาอาการที่ว่ามาเหล่านี้ได้หรือไม่?”
“ไม่ต้องห่วง
การรักษาพี่สาวของเจ้าไม่ใช่แค่วันสองวัน ฉะนั้นเจ้าอย่าพึ่งใจร้อน
ก่อนที่ข้าจะมาถึงที่นี่ ข้าคิดว่านางทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บป่วยปกติทั่วไป
ข้าเลยมั่นใจว่าความสามารถของข้าสามารถรักษานางได้ แต่ทว่า
ข้าเองก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่ากู่หลานจะถูกกระทำต่ำช้าอย่างการโดนลอบวางยาเยี่ยงนี้
ทั้งหมดล้วนผิดคาดเสียจริง” เนี้ยหลี่กล่าวในขณะที่สีหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด
“เนี้ยหลี่” ประกายแห่งความหวังถูกจุดขึ้นมาในหัวใจของกู่เป่ย
สายตาของเขาจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มตรงหน้าก่อนจะกล่าวว่า “หากเจ้ารักษาอาการของพี่สาวของข้าได้
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ข้าจักนำมาให้แก่เจ้า”
บิดามารดาของกู่หลานและกู่เป่ยนั้นได้ล้มหายตายจากไปเนิ่นนาน
ถึงแม้บุตรทั้งสองของพวกเขาจะมีสายเลือดหลักในการเป็นผู้สืบทอดผู้นำตระกูลโดยตรง
ทั้งยังมีพรสวรรค์โดดเด่นเหนือล้ำกว่าผู้ใด
ทว่าในตอนนี้กู่หลานได้เสียคุณสมบัติในการสืบทอดเหล่านั้นแล้วทั้งสิ้น
เพราะครึ่งล่างของนางใช้การไม่ได้โดยกะทันหัน
ตามธรรมเนียมกู่เป่ยจึงมีสิทธ์เป็นผู้สืบทอดเป็นลำดับที่สอง
เหตุเนื่องการบ่มเพาะของเขากับกู่หลานมีสภาพใกล้เคียงกันมากที่สุด
“ข้าแค่มาที่นี่เพราะต้องการหินจิตวิญญาณหนึ่งพันก้อนจากภารกิจเท่านั้น”
เนี้ยหลี่ระบายยิ้มบางเบา
ก่อนจะจับจ้องไปที่กู่เป่ยและกล่าวต่ออย่างจริงจังว่า “สถานที่แห่งนี้ข้าคิดว่ามันไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว
ยิ่งหากมีผู้อื่นล่วงรู้ว่าข้าสามารถรักษาอาการพี่สาวของเจ้าได้
พวกมันต้องหาวิธีจัดการพี่ของเจ้าอีกครั้งเป็นแน่”
“ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าอย่าได้เป็นกังวล”
กู่หลานเข้าใจสิ่งที่เนี้ยหลี่พยายามจะสื่อดี
นางจึงกล่าวกับเขาต่อว่า" หลังจากที่ข้าประสบปัญหาครั้งนี้
ทำให้ข้าตระหนักขึ้นมาได้ว่ามีคนในตระกูลจ้องจะเอาชีวิตของข้า
หากคุณชายสามารถรักษาพิษร้ายที่ข้าได้รับ ข้าจะปกปิดทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้
และจะพยายามให้โลกภายนอกรับรู้ว่าตัวข้านั้นยังคงพิการเฉกเช่นเดิม”
แม้ว่าเนี้ยหลี่จะเป็นเพียงบุรุษหนุ่มอายุน้อยกว่ากู่เป่ย
แต่ด้วยความสามารถที่แสดงออกมา ทำให้กู่หลานอดไม่ได้ที่จะชื่นชมอยู่ภายในใจ
เมื่อได้ยินสิ่งที่หญิงสาวกล่าว
เนี่ยหลี่จึงพยักหน้าเป็นทำนองเข้าใจ กู่หลานแท้จริงแล้วนางเป็นคนที่ฉลาดไม่เบา
“จากที่ข้ามองดูด้วยสายตาแล้ว
ร่างกายของเจ้าคงได้รับพิษมาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า3ปี ข้ากลัวว่าถ้าจ่ายยาหนักให้
ชีพจรของเจ้าจะเสียหาย ทำให้การรักษามีความยุ่งยากขึ้นมากกว่าเดิม
ฉะนั้นข้าจะเขียนใบสั่งยาชนิดอื่นก่อน หากพิษในร่างกายของเจ้าเจือจางลงแล้ว
ข้าจะค่อยๆรักษาเจ้าจนกว่าจะหายขาด” เนี้ยหลีกล่าวพร้อมกับดึงกระดาษและปากกาออกมาจากแหวนมิติ
ก่อนจะลงมือเขียนใบสั่งยาให้แก่กู่เป่ย
กู่เป่ยรับใบสั่งยาและเก็บเอาไว้ราวกับสมบัติล้ำค่า
“ข้าจะรีบหาสมุนไพรเหล่านี้ให้เร็วที่สุด”
ตั้งแต่กู่หลานล่มป่วยลง
ภายในบ้านของเขาจึงมีนักปรุงยาและสมุนไพรอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย
กู่เป่ยรีบเรียกพวกเขามาอย่างร้อนรน
หลู่เปียวกระซิบถามเนี้ยหลี่ด้วยน้ำเสียงบางเบา
“เนี้ยหลี่เจ้ามั่นใจเกี่ยวกับอาการของนางหรือ?”
“ตั้งแต่ที่ข้ารู้สาเหตุของอาการป่วยของนาง
ข้าก็มั่นใจแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์”เนี้ยหลี่เงยหน้าพลางส่งยิ้มให้แก่กู่หลาน
หากสำรวจดีๆแล้วกู่หลานนางมีอายุ สิบแปด สิบเก้าปีเท่านั้น หากนางไม่ล้มป่วย
นางคงเป็นหญิงงามที่บุรุษทุกคนชมชอบ แต่ถึงจะงดงามเช่นไรแล้ว
เนี้ยหลี่ก็ทำได้แค่เพียงชื่นชมเท่านั้น
“ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยชีวิตของข้าไว้”
กู่หลานกล่าวอย่างสุภาพ หัวใจของนางเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง
“แม่นางกู่ เจ้าอย่าได้สุภาพกับข้าเลย
มันเป็นเรื่องปกติสำหรับข้าที่ต้องช่วยเหลือผู้คนอยู่แล้ว”เนี้ยหลี่กล่าวพลางอมยิ้มเล็ก
ๆ
กู่หลานพยักหน้าในขณะที่นางนั่งอยู่อย่างสงบเสงี่ยม
หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามบุรุษตรงหน้า
“ข้าแปลกใจยิ่งนัก เจ้ามาจากสถานที่แห่งใดกัน”
“โลกใบเล็กน่ะ” เนี้ยหลี่ให้คำตอบ
“เจ้ามาจากโลกใบเล็กอย่างนั้นหรือ”
เสียงของกู่หลานเงียบอยู่พักใหญ่ก่อนที่นางจะกล่าวต่อว่า “เมื่อตอนที่ยังเยาว์วัย ข้าเองก็เคยมีอาจารย์ที่มาจากโลกเล็กเหมือนเจ้าเช่นกัน”
เนี้ยหลี่อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความใคร่รู้
“ข้าสงสัยเหลือเกินว่าอาจารย์ของเจ้ามีนามว่าอะไร”
“อาจารย์ของข้า
ไม่เคยเปิดเผยชื่อแซ่ที่แท้จริงมาก่อน อยู่ๆเขาก็หายไปโดยไม่บอกลาข้าแม้สักถ้อยคำ
ทุกวันนี้ข้าก็ได้แต่หวังว่าเขาจะกลับมาพบข้าในสักวัน” กู่หลานระบายยิ้มอย่างข่มขื่น
“อาจารย์ของข้าไม่ได้แสดงตนออกมาห้าปีแล้ว หากเขายังอยู่
ข้าอาจจะมิได้ตกอยู่ในสภาพแบบนี้ก็เป็นได้
เอาเถอะ พูดไปก็หาได้อะไรขึ้นมา
ใช่สิอาจารย์ของข้านั้นมีการบ่มเพาะพลังที่สูงไม่น้อย เขาอยู่ในระดับเทพสงครามขั้นที่
5 เชียวนะ”
เนี้ยหลี่อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้
เขาไม่รู้มาก่อนว่าคนที่มาจากโลกใบเล็ก จะมีความแข็งแกร่งถึงระดับนี้
แม้ว่าจะน่าเสียดายที่กู่หลานจะไม่ทราบนามของอาจารย์ของนาง
แต่อย่างไรแล้วตอนนี้เรื่องนั้นยังไม่ได้เป็นเรื่องสลักสำคัญอะไรที่ต้องเก็บเอามาขบคิดให้มากความ
ในระหว่างที่เนี้ยหลี่และกู่หลานคุยกันอยู่นั้น
กู่เป่ยรีบกลับมาพร้อมกับชามใบใหญ่ที่ข้างในเต็มไปด้วยตัวยาสมุนไพรที่ส่งควันลอยฉุยออกมา
“นี่คือยาต้มที่ข้าได้จัดหามา
เจ้าพี่ได้โปรดลองดื่มดู” กู่เป่ยส่งชามสมุนไพรให้แก่กู่หลาน
หญิงสาวพยักหน้าตอบรับ
ก่อนจะยกซดสมุนไพรด้วยสีหน้าราบเรียบตามฉบับนิสัยของนาง
หลังจากดื่มยาเข้าไปแล้ว
คิ้วคู่สวยขมวดมุ่น นางหลับตาลง พร้อมสำรวจการเปลี่ยนแปลงของขอบเขตจิตวิญญาณ
สายตาของกู่เป่ยจับจ้องไปที่กู่หลานอย่างใจจดใจจ่อ
หลู่เปียวเองก็จ้องตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งผิดกับเนี้ยหลี่ที่สีหน้าของเขามีความมั่นใจอย่างออกนอกหน้า
ผ่านไปครู่ใหญ่นัยน์ตาคู่งามของกู่หลานได้ลืมขึ้นก่อนจะมองไปที่เนี่ยหลี่ด้วยแววตาตื่นตระหนก
ริมฝีปากบางซีดสั่นเล็กน้อย พร้อมกล่าวว่า “ยาตัวนี้สามารถบรรเทาพิษในร่างกายของข้าได้
ข้ารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเส้นชีพจร ขอบพระคุณเจ้ามาก
สำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้”
สีหน้าของหญิงสาวไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก
นางคิดไม่ถึงว่ายาจะให้ผลรวดเร็วถึงเพียงนี้ มันช่างมหัศจรรย์โดยแท้
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าช่วยเจ้าอย่างเต็มใจ”
เนี้ยหลี่ยิ้มเล็กน้อย “แม่นางกู่หลาน เจ้าควรกินยาที่ข้าจัดไว้ให้ตลอดหนึ่งเดือน
หลังจากกินหมดแล้ว ข้าจะเปลี่ยนยาชุดใหม่ให้แก่เจ้าอีกรอบ ข้าเอาหัวเป็นประกัน เจ้าจะต้องหายอย่างแน่นอน”
กู่เป่ยรู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก
เขาคิดไม่ถึงว่ายาที่เนี้ยหลี่ให้มาจะเห็นผลได้รวดเเร็วถึงเพียงนี้
ตราบใดที่เนี้ยหลี่ยังสามารถรักษากู่หลานได้ ไม่ว่าไรเขาก็พร้อมจะเสียสละทุกอย่าง
“เนี้ยหลี่
นี่คือรางวัลสำหรับการที่ช่วยพี่สาวของข้า หากเจ้าต้องการสิ่งใดในอนาคต
ถ้าข้าสามารถช่วยเจ้า ข้าจะช่วยเต็มที่!”
กู่เป่ยพูดในขณะที่เขาเอามือตบเข้าที่หน้าอกเบาๆ
เขาหยิบแหวนมิติซึ่งข้างในเต็มไปด้วยหินจิตวิญญาณ ส่งไปให้เนี้ยหลี่
เนี้ยหลี่รับแหวนมา
ในนี้มีหินจิตวิญญาณอยู่ราวๆ1500ก้อน กู่เป่ยช่างล่ำซำเสียจริง
กู่เป่ยและพี่สาวของเขาเป็นผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูล
กู่ แม้ว่าเขาจะไม่อยู่ในเส้นทางนี้โดยตรง
แต่หินจิตวิญญาณจำนวนขนาดนี้คนทั่วไปไม่สามารถหาได้แน่นอน
อย่างไรก็ตามหินจิตวิญญาณจำนวน1500 ก้อน ที่ได้รับมานั้น
ซึ่งหินจิตวิญญาณนั้นเป็นทรัพยากรที่หายากมาก
และกู่เป่ยก็จำเป็นต้องใช้มันเป็นจำนวนมากในการบ่มเพาะพลังของเขา
เนี้ยหลี่
เอาหินจิตวิญญาณออกมาจากแหวนมิติ 500 ก้อน และส่งแหวนกลับคืนกู่เป่ย “ในเนื้อหางานบอกไว้ว่ารางวัลคือหินจิตวิญญาณ
1000 ก้อนเท่านั้น
ข้ายังไม่รักษาให้พี่สาวของเจ้าหายจากการอาการเจ็บป่วย
ข้าขอรอจนกว่าอาการของพี่สาวเจ้าจะหายดี แล้วเจ้าค่อยเอาส่วนที่เหลือมาให้ข้า”
กู่เป่ยรับแหวนมิติ
และมองมาที่เนี้ยหลี่ด้วยสายตาซาบซึ้ง ไม่มีทางเลยที่หนี้บุญคุณนี้จะใช้หมด
“เนี้ยหลี่ หลู่เปียว
ตอนนี้พวกเจ้าทั้งสองก็เหมือนพี่น้องของข้า” กู่เป่ยมองมาที่เนี้ยหลี่
และ หลู่เปียว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ให้ตายเถอะ
จนถึงตอนนั้น เจ้าไม่ได้คิดว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันหรอกรึ!!” หลู่เปียวกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ข้าไม่ได้หมายความเยี่ยงนั้น”
กู่เป่ยรีบอธิบาย
ขณะที่กู่หลานกำลังเฝ้ามองบุรุษทั้งสาม
กู่หลานอดไม่ได้ที่จะแย้มรอยยิ้ม นางไม่ได้พบความสุขแบบนี้มาเป็นเวลานานแล้ว
นางคิดเสมอว่าอาการป่วยของนางนั้นไม่สามารถที่จะรักษาหายได้ ดังนั้น
นางจึงไม่ค่อยเปิดใจให้แก่ผู้อื่น
จนกระทั่งวันนี้
นางไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้พบแสงแห่งความหวังในชีวิตของนางอีกครั้ง
“กู่เป่ยดูแลพี่สาวของเจ้าให้ดีล่ะ
พวกข้าขอตัวกลับก่อน ต่อไปนี้เจ้าต้องระวังยาพิษในอาหาร เข้าใจที่ข้าพูดหรือไม่?
“เนี้ยหลี่กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาให้กู่เป่ยได้ยิน
อยู่ๆความคิดแปลกๆขึ้นในหัวของกู่เป่ย
ในขณะที่เขาพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว”
ใครบางคนที่สามารถวางยากู่หลานลงในอาหารโดยที่พวกมันไม่ถูกจับ
มันจะต้องเป็นคนใกล้ตัวแน่ๆ
เนี้ยหลี่และหลู่เปียวกล่าวคำล่ำลาก่อนจะเดินจากไป
กู่หลาน
มองไปที่เนี้ยหลี่และหลู่เปียว จากนั้นนางได้เหลือบมองไปยัง กู่เป่ยพร้อมพูดว่า “น้องชาย เจ้ารู้จักพวกเขาทั้งสองได้อย่างไร”
“พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของข้า
ที่ชั้นเรียนอัจฉริยะ โดยเฉพาะเนี้ยหลี่เขามีรากจิตวิญญาณสวรรค์ระดับ 8 ” กู่เป่ยรีบกล่าวต่อว่า “ข้าไม่นึกเลยว่าเนี้ยหลี่จะมี
ความสามารถมากถึงขนาดนี้ ทั้งที่เหล่าบรรดาหมออาวุโสไม่สามารถหาสาเหตุอาการป่วยของเจ้าได้
แต่เนี้ยหลี่กลับสามารถทำได้ราวกับปาฏิหาริย์ นับว่าเป็นบุคคลที่น่ากลัวอย่างยิ่ง”
“หืม? รากวิญญาณสวรรค์ระดับ 8 ” ดวงตาของกู่หลานเปร่งประกาย
นางไม่คิดว่าเนี้ยหลี่จะมีพรสวรรค์สูงจนน่าหวาดหวั่น ไม่ว่าจะความรู้ทางด้านการแพทย์
หรือความรู้เรื่องสมุนไพร ล้วนน่าทึ่ง
นางอยากรู้ยิ่งนักว่าในอนาคตเนี้ยหลี่จะไปได้ไกลถึงจุดไหน
ในระหว่างที่กำลังเดินทางกลับ
หลู่เปียวเอ่ยถามอย่างสงสัย “เนี้ยหลี่
พวกเขามอบจิตวิญญาณให้ตั้งมากมายขนาดนี้ เหตุใดเจ้าถึงไม่เอามันมาทั้งหมด?”
“วิญญูชน
ต้องรับมาแต่พอประมาณ กู่เป่ยมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับพี่สาวของเขา
บรรดาหินจิตวิญญาณที่เขาให้มานั้น อาจจะเป็นทั้งหมดของเขาก็เป็นได้
ฉะนั้นห้าร้อยหินจิตวิญญาณที่พวกเราได้มาก็เพียงพอสำหรับพวกเราแล้ว” เนี้ยหลี่ยิ้มบางๆ ก่อนหน้านี้เขาได้รับหินจิตวิญญาณมาจากเซียวหยู
เขารับมันมาเล็กน้อย เพราะไม่อยากจะให้เซียวหยู่ติดหนี้บุญคุณมากนัก
และนั่นเป็นเหตุผลที่เนี้ยหลี่ไม่ได้เอาหินจิตวิญญาณทั้งหมดของกู่เป่ยมาเพราะว่าเขาต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกู่เป่ยและพี่สาวกู่หลาน
“งั้นหรือ” หลู่เปียวพยักหน้าเป็นทำนองเข้าใจ เขาอาจจะรู้สึกว่า กู่เป่ย และ กู่หลาน
เป็นคนที่ซื่อสัตย์และจริงใจ หากพวกเขาจะนำหินจิตวิญญาณทั้งหมด
มันอาจจะไม่ดีเท่าใดนัก
หินจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่หายากไม่น้อย
ถ้าเป็นศิษย์ของห้องเรียนรากจิตวิญญาณสวรรค์ซึ่งสามารถรับ หินวิญญาณ5ก้อนต่อเดือน แต่หินจิตวิญญาณที่เนี้ยหลี่ได้รับมา 500ก้อนนั้นก็เพียงพอต่อการบ่มเพาะพลังแล้ว
จบตอน
V.1 : https://www.facebook.com/groups/200491286989237/permalink/230516760653356/
แปลไทยโดย
แล้วไงละ ถ้าใจอยากจะรัก
V.2: https://www.facebook.com/groups/200491286989237/permalink/230544827317216/
แปลไทยโดย