บทที่ 301 - รางวัล

บทที่ 301 - รางวัล

หลังจากสิ้นบทเรียน หลงยู่หยินมุ่งหน้ากลับบ้านของนาง คำสอนของเนี้ยหลี่ยังคงวนเวียนอยู่ในใจของนาง

ในที่สุดนางก็เข้าใจว่านางนั้นเป็นกบที่อยู่ในกะลา ความรู้ในวงกว้างของเนี้ยหลี่ ไกลเกินกว่าที่นางได้จินตนาการไว้ ในโลกนี้ คนเดียวที่มากสามารถ และสามารถเป็นอาจารย์ของนางได้ก็คือเนี้ยหลี่ นางเต็มใจที่จะยอมรับเนี้ยหลี่เป็นอาจารย์

ในขณะที่หลงยู่หยินกำลังใช้ความคิดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีร่าง ๆ หนึ่งปรากฏต่อหน้านาง

หลงยู่หยินเดินไปด้วยท่าทีที่เคร่งขึม “ฮูหยง เจ้านะเอง”

ใบหน้าของฮูหยงบูดเบี้ยว “หลงยู่หยิน ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไปฝึกกับเนี้ยหลี่มายังงั้นหรือ เจ้าพูดคุยกับเขาด้วยเสียงที่นุ่มนวน เจ้านอกใจข้าใช่ไหม” เมื่อเขาได้ยินว่าหลงยู่หยินและเนี้ยหลี่อยู่ด้วยกันในชั้นเรียนของพวกเขา เขาเกือบจะบ้าตายด้วยความโกรธ เขารู้สึกเหมือนถูกสวมเขาอยู่

สีหน้าของหลงยู่หยินเย็นชาขึ้นทันที เมื่อได้ยินคำพูดของฮูหยง “ฮูหยง เจ้าอยากให้ข้าเป็นคนพิการอย่างนั้นหรือ เนี้ยหลี่ชนะข้า เขาแนะนำข้าในการบ่มเพาะพลัง และข้าก็นับถือเขา ถ้าเจ้ากล้าจริง ทำไมเจ้าไม่มาสู้กับข้าแบบตัวต่อตัวล่ะ”

ฮูหยงรู้สึกถึงเจตจำนงในการต่อสู้ที่ออกมาจากร่างกายของหลงยู่หยิน ช่วยไม่ได้ที่หัวใจของเขาจะสั่นเทาไปด้วยความกลัว

นางล้อเล่นใช่ไหม ตัวต่อตัว ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาไม่สามารถเอาชนะนางได้ เขาไม่มีแม้แต่รากจิตวิญญาณสวรรค์ ในขณะที่เขาเผชิญอยู่ต่อหน้านางเขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก ในทางตรงกันข้าม ความเกลียดชังที่มีต่อเนี้ยหลี่นั้นเพิ่มมากขึ้น แต่เขาทำอะไรเนี้ยหลี่ไม่ได้ หน้าอกของเขาพร้อมที่จะระเบิดออกมาด้วยความโกรธ

ฮูหยงตะโกนด้วยความโกรธ “ข้าคือคู่หมั้นของเจ้านะ....”

คิ้วของหลงยู่หยินกระตุกในขณะที่นางมองฮูหยงด้วยความเย็นชา “ข้าไม่เคยยอมรับการหมั้นนั้น ขยะอย่างเจ้าหนะหรือจะมาเป็นคู่หมั้นของข้า ถ้าเจ้าอยากจะเป็นคู่หมั้นของข้า ค่อยพูดมันออกมาหลังจากที่ชนะข้าได้ก็แล้วกัน”

หัวใจของฮูหยงสั่นสะท้านเมื่อเห็นแววตาฆาตรกรของหลงยู่หยิน นางมีสีหน้าเหมือนกับตอนนั้น ตอนที่นางได้ปู้ยี้ปู้ยำเขา เขารู้สึกกลัว

ฮูหยงตัดสินใจเขาจะแก้แค้นเนี้ยหลี่และหยงยู่หยิน “หลงยู่หยิน จำเรื่องนี้เอาไว้นะ ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจ คอยดู”

เขากลัวที่จะเผชิญหน้ากับหลงยู่หยิน เขาหันกลับและจากไปด้วยหัวใจที่หดหู่

หลงยู่หยินพ่นลม “ฮึม. , ข้าจะคอยดูว่า เจ้าจะทำให้ข้าเสียใจได้ยังไง” นางชอบทำตามใจตัวเอง แม้แต่ผู้ใหญ่ในตระกูลตราประทับมังกรก็ไม่สามารถแตะต้องนางได้ เนื่องจากนางนั้นมีตำแหน่งที่สำคัญมากในตระกูล นางถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นทายาทอันดับหนึ่ง นั้นก็เพราะมีส่วนมาจากลักษณะบุคลิกภาพของนาง อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครที่จะกล้าแตะต้องนาง

นางไม่สนใจในความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ นางเป็นคนที่หมกหมุ่นอยู่กับเฉพาะการต่อสู้แบบเต๋า พรสวรรค์ของนางนั้นโดดเด่นเกินไป อย่างน้อยก็ก่อนที่นางจะพบกับเนี้ยหลี่ ก่อนหน้านั้น คนที่อายุเท่ากับนางไม่มีใครที่จะมายืนเทียบกับนางได้

นอกจากนั้น เมื่อหลงยู่หยินอยู่ในระดับลิขิตสวรรค์แล้ว นางจะสามารถผสานรวมกับจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีอัตราการเจริญเติบโตระดับพระเจ้า นางจะสามารถตัดสินใจด้วยตัวของนางเองได้และตำแหน่งของหลงยู่หยินภายใจตระกูลก็จะไม่เหมือนเดิมอีก ดังนั้น นางไม่เคยให้ความเคารพต่อฮูหยงมากนัก จากมุมมองของนาง เขาเป็นเพียงแค่เศษขยะที่ไม่สามารถข่มขู่นางได้

ตอนนั้น นางได้แอบรู้ว่ามีบางคนในตระกูลตราประทับมังกร พยามที่จะให้นางแต่งงานออกไป โดยจัดการให้นางนั้นแต่งงานกับฮูหยง แม้แต่ตระกูลของฮูหยงและตระกูลตราประทับมังกรก็ไม่สามารถทำอะไรกับนางได้

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในทุกบทเรียนต่อมา ทุก ๆ ครั้งที่นักเรียนมีการจับคู่กันเพื่อทำอะไรบางอย่าง หลงยู่หยินก็จะมองหาเนี้ยหลี่ ทำให้เหอหยินหยินไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้ นางได้แต่ยืนอยู่เฉย ๆ และเกลียดหลงยู่หยิน

บางครั้ง เมื่อหลงยู่หยินมีปัญหาในการบ่มเพาะพลังของนาง นางก็จะออกไปขอคำแนะนำจากเนี้ยหลี่ เขาได้ให้คำแนะนำแก่นางและนางก็ฟังด้วยความเคารพ ซึ่งทำให้นางเข้าใจอย่างลึกซึ้งในพลังแห่งเต๋าที่อยู่ในตัวของนาง ทำให้นางรู้สึกชื่นชมในตัวของเนี้ยหลี่ บางครั้งเขาได้ตำหนินางแต่นางก็ไม่เคยที่จะบ่น นอกจากนี้นางกลายเป็นคนที่อ่อนโยนต่อหลู่เปียวและกู่เป่ยด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกจากเนี้ยหลี่และเพื่อนของเขาแล้ว หลงยู่หยินไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา

เนี้ยหลี่ทำการบ่มเพาะพลังของเขาต่อในขณะที่เขาได้รวบรวมหินจิตวิญญาณไปด้วย บางครั้งเขาก็ให้คำแนะนำแก่นางในระหว่างที่มีบทเรียนของพวกเขา

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

แค่ 10 วัน หลู่เปียวก็ได้ก้าวไปสู่ระดับลิขิตสวรรค์ขั้นที่ 1 และเดือนต่อมา เนี้ยหลี่ก็ยังคงไม่สามารถก้าวเข้าสู่ระดับลิขิตสวรรค์ได้ แม้การบ่มเพาะพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้เขาได้เก็บรวบรวมรางวัลจากกระดานวิญญาณศักดิ์สิทธิ์

เนี้ยหลี่อยู่อันดับที่สามในกระดานวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น เขาจะได้รับสิ่งประดิษฐ์ระดับ 4 , หินแก่นจิตวิญญาณ 3 ก้อน , จิตอสูรสายเลือดมังกรอัตราเจริญเติบโตระดับดีเยี่ยม 1 ดวง และหินจิตวิญญาณ 1,000 ก้อน

สิ่งประดิษฐ์ระดับ 4  เกราะสวรรค์ มันเป็นเกราะส่วนหน้าอกที่ทรงประสิทธิภาพ ผู้เชี่ยวชาญธรรมดานั้นไม่สามารถทะลวงมันได้ เกราะสวรรค์สามารถปกป้องจิตวิญญาณแห่งชีวิต(ดวงจิต)จากการแตกสลายได้ ดังนั้นมันจะสร้างโอกาสที่จะหลบหนีกลับไปยังโลกย่อยได้ หลังจากแขนของจอมมารถูกตัดขาด เขาหนีโดยใช้สิ่งประดิษฐ์ระดับ 3 ป้องกันจิตวิญญาณแห่งชีวิต(ดวงจิต)ของเขา ในขณะที่เนี้ยหลี่ใช้เกราะสวรรค์ซึ่งมันดีกว่าของจอมมารเล็กน้อย

ผู้เชี่ยวชาญระดับลิขิตสวรรค์ขั้นที่ 5 ธรรมดา ยากที่จะทะลวงเกราะสวรรค์ระดับ 4 แต่นั้นก็เป็นเพียง หากฝ่ายตรงข้ามของเขาไม่ได้มีเพียงสิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณภาพระดับขยะเท่านั้น

สิ่งประดิษฐ์ขั้น 4 เป็นของที่ล้ำค่ายิ่งนัก ถ้าใครพบมันนับว่าเป็นคนที่โชคดีมาก มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเจอเรื่องแบบนี้ ถ้ามีใครกำลังมองหามันอยู่ ราคาของมันอย่างน้อยก็ 10,000 หินจิตวิญญาณ หรืออาจมากกว่านั้น สำหรับผู้เชี่ยวชาญธรรมดาแล้วนั้น หินจิตวิญญาณ 10,000 ก้อน นับว่ามากมายเกินกว่าที่จะจินตนาการได้

มีแก่นหินจิตวิญญาณ 3 ก้อน ก้อนเดียวเทียบเท่าหินจิตวิญญาณ 1,000 ก้อน นอกจากนี้ เขาได้รับจิตอสูรสายเลือดมังกรที่มีอัตราการเติบโตระดับดีเยี่ยม นั้นเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้

เนี้ยหลี่รวบรวมหินจิตวิญญาณได้ 30,000 ก้อน จากการขายจิตอสูรธรรมดาที่มีอัตราการเติบโตระดับพระเจ้า เพิ่มเข้ามารวมกับของรางวัลที่เขาได้รับวันนี้ ความโชคดีของเขานั้นเป็นที่น่าตกตลึง

แค่เพียงทะเลสาบพระเจ้าระดับต่ำ ก็สามารถผลิตหินจิตวิญญาณได้ตลอดทั้งปี

ถ้าฮูหยง จินแยน และฮวาหลิง รู้ว่าในแหวนมิติของเนี้ยหลี่มีหินจิตวิญญาณมากมายขนาดนี้ซ่อนอยู่พวกเขาคงจะกระอักเลือดตายเพราะความอิจฉาเป็นแน่

เนี้ยหลี่ใส่เสื้อเกราะและค่อย ๆ ปรับแต่งให้มันกลมกลืนกับจิตวิญญาณของเขา สิ่งประดิษฐ์ระดับ 4 นี้จะปกป้องเขา เขาจะปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเมื่อออกไปยังโลกภายนอก

เนี้ยหลี่นำหินจิตวิญญาณออกมา 3 ก้อน และเริ่มดูดซับพวกมัน การบ่มเพาะพลังของเขายังคงปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง หลังจากดูดซับพลังจากหินทั้ง 3 ก้อนไปแล้ว เขายังไม่สามารถก้าวผ่านประตูนั้นไปได้(หมายถึงระดับลิขิตสวรรค์) เขารู้สึกได้ว่าพลังสวรรค์นั้นได้เติมเต็มขอบเขตวิญญาณที่อ้างว้างของเขา ทั้งหมดที่เขาต้องการคือคำใบ้ของโอกาสสำหรับการพัฒนา

ตามความเร็วการพัฒนาในการบ่มเพาะพลังของเขาในชีวิตก่อนหน้านี้ เนี้ยหลี่ควรจะมีการพัฒนาหลังจากได้ดูดซับหินจิตวิญญาณไปมากมาย เขาไม่เคยคิดเลยว่าเถาวัลย์ที่อยู่ในขอบเขตวิญญาณของเขานั้นจะทำให้การบ่มเพาะพลังของเขานั้นยากมากยิ่งขึ้น

สำหรับ อสูรสายเลือดมังกรที่อัตราการเติบโตระดับดีเยี่ยมนั้น เนี้ยหลี่ไม่ได้มีแผนที่จะเก็บมันไว้กับตัวเอง แน่นอน อสูรสายเลือดมังกรนั้นมีคุณภาพต่ำไปสำหรับเขา เมื่อเขาได้ไปถึงระดับลิขิตสวรรค์ ซึ่งเขามีวิธีที่จะได้จิตอสูรสายเลือดมังกรอัตราการเติบโตระดับพระเจ้ามาไว้ในมือของเขาแล้ว

เนี้ยหลี่นำเอาจิตอสูรสายเลือดมังกรอัตราการเติบโตระดับดีเยี่ยมของเขาออกมา ไม่รวมในครั้งนี้ เขายังมีจิตอสรูสายเลือดมังกรอัตราการเติบโตระดับธรรมดามากกว่า 30,000 จิตอสูร

ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณกู่เป่ยในความพยายามอย่างต่อเนื่องของเขา บางส่วนของพวกมันได้มาจากคลังสมบัติของตระกูลกู่ ตระกูลที่มีอำนาจเช่นนี้ไม่ใช้จิตอสูรสายเลือดมังกรอัตราการเติบโตระดับธรรมดา พวกมันคือขยะที่ไม่มีใครต้องการ

เดิมทีเนี้ยหลี่วางแผนจะไปให้ถึงระดับลิขิตสวรรค์ก่อนที่จะหลอมรวมจิตอสูรสายเลือดมังกรอัตราการเติบโตระดับพระเจ้า แต่จนถึงตอนนี้การบ่มเพาะพลังของเขายังก้าวไปไม่ถึงจุดนั้น ดังนั้นเนี้ยหลี่จะเริ่มหลอมรวมพวกมันก่อน

จบตอน

แปลไทยโดย

Nattapon Deesoi

https://www.facebook.com/groups/200491286989237/permalink/232755497096149/