วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559

บทที่ 184 - แม้ต้องตาย ข้าก็จะไม่เสียใจ


บทที่ 184 - แม้ต้องตาย ข้าก็จะไม่เสียใจ
มองดูสองสิ่งมีชีวิตที่หน้ากลัวบนท้องฟ้า. ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ที่นี่ต่างรู้สึกอัศจรรย์ใจ. ไม่แปลกใจเลยที่เป็นถึง 2 ตระกูลหลัก ที่ทำเรื่องเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้

เป็นถึง 2 ตระกูลหลัก. ใครจะรู้ว่าพวกเขามีแผนการอะไรเก็บซ่อนไว้อีก.

เงาปีศาจและเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์เริ่มสู้กัน ความสับสนวุ่นวายภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิด. กระสุนค้อนน้ำแข็งจำนวนมากยิงใส่เงาปีศาจ. เงาปีศาจใช้กงเล็บเงาสวนกลับค้อนทันที

ตูม!! ตูม!! ตูม!!

แรงระเบิดแทบจะกลบผู้เชี่ยวชาญด้านล่างทั้งหมด

ผู้เชี่ยวชาญต่างถอยออกมาและทำได้แค่มองดูอยู่ห่างๆ เพราะไม่สามารถทนแรงอสูรภูติผีปีศาจไหว

พลังของเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ มากกว่า เงาปีศาจ เล็กน้อย ท้องฟ้าเต็มไปด้วยพายุหิมะ กลิ้งไปทางเงาปีศาจ อุณหภูมิลดลงจนเงาปีศาจถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง

โฮก!!! (เสียงคำราม)

เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์เป็นเหมือนเทพโบราณ ท่อนล่างอยู่ในพายุหิมะ มีร่างกายขนาดใหญ่และทนทานดั่งภูเขา สร้างความเจ็บแสบเวลาเคลื่อนไหวด้วยขวานน้ำแข็ง สร้างใบมีดวายุได้ไม่มีสิ้นสุด.

ด้วยการโจมตีของเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ เงาปีศาจกรีดร้องอย่างอนาถขณะที่โดนดันไปอย่างช้าๆ

ผู้อาวุโสระดับแบล็คโกลของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ เดิมทีพวกเขาคิดว่า เงาปีศาจ ก็สามารถที่จะจัดการกับผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลต่างๆได้ ไม่คิดว่าเอียซิ่วจะอัญเชิญผู้ปกป้องประจำตระกูลวายุเหมันต์ อย่างเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ ด้วยพลังอำนาจของเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์สามารถกำหราบเงาปีศาจได้อย่างสมบูรณ์

ตลอดเวลา เขาคิดว่า เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ เป็นเพียงตำนาน

เนี้ยหลี่เห็นเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์เหมือนภูเขา พร้อมกล่าวว่า "ก็ว่าอยู่ ว่าทำไมเอียซิ่วถึงไม่ได้เตรียมการอะไรเลยก่อนหน้านี้ และไปเริ่มที่อาณาเขตหมื่นอสูร พวกเขาเตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว ประมาทตระกูลวายุเหมันต์ไม่ได้เลยจริงๆ" เนี้ยหลี่นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา เมืองกลอรี่ถูกทำลาย เขาเคยเห็นเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์จากที่ไกลๆ แม้ว่าเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์จะแข็งแกร่งมาก ก็ยังถูกกลืนโดยฝูงสัตว์อสูรจำนวนไม่ถ้วน

เหตุผลที่ว่าทำไม เอียซิ่วถึงได้ไม่เปิดอาณาเขตหมื่นอสูร เพราะเลือกเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ไว้แล้ว พวกเขาอาจตั้งใจเก็บอาณาเขตไว้เป็นตัวเลือกสุดท้าย เพื่อเป็นไพ่ตาย เนื่องจากเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว

ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้คงยังไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดอาณาเขตหมื่นอสูร พวกเขาอาจรอดูก่อนที่จะตัดสินใจเปิดอาณาเขต เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ก็เพียงพอแล้ว สำหรับปราบปรามคนจากตระกูลศักดิ์สิทธิ์

เงาปีศาจกรีดร้องด้วยความแค้น พร้อมทั้งโจมตีเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ด้วยกงเล็บใบมีดจำนวนนับไม่ถ้วน

เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์คำรามก้อง และใช้อุ้งมือโจมตีใส่ใบมีดของเงาปีศาจ

เป๊ง! เป๊ง! เป๊ง!

ใบมีดสีดำปะทะกับฝ่ามือของเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ เสียงการโจมตีเหมือนเสียงการตีเหล็ก ไม่สามารถก่อให้เกิดความเสียหายต่อเทพทั้งปวง

ปัง!

เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์จับเงาปีศาจ คลื่นพลังงานของวายุเหมันต์ พุ่งไปยังเงาปีศาจ เป็นผลให้มันแข็งอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นมันก็ยังดิ้นรนพร้อมทั้งกรีดร้องอย่างโหยหวน เพื่อให้พ้นจากพันธนาการ ในที่สุดมันก็ถูกแช่แข็ง

ผู้อาวุโสจากตระกูลศักดิ์สิทธิ์กระอักเลือด เงาปีศาจถูกอัญเชิญจากแรงวิญญาณของพวกเขา หลังจากเงาปีศาจถูกแช่แข็ง จึงมีผลกระทบต่อแรงดันวิญญาณของพวกเขา

เอียซิ่วยืนอยู่ด้านล่างของเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ "แค่เงาปีศาจหรือจะสามารถต้านทานตระกูลวายุเหมันต์ของข้าได้? เจ้ายังกล้าอวดดีในดินแดนของตระกูลวายุเหมันต์อีกมั้ย ?"

ทุกครั้งที่อัญเชิญเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ จำเป็นที่จะต้องใช้ศิลาจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก ในคลังมีศิลาวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่เหลืออยู่ของตระกูลวายุเหมันต์เพียงพอที่จะอัญเชิญเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ได้อีกเพียง 3 ครั้ง จึงต้องระมัดระวังมากๆในการอัญเชิญ แต่เนื่องจากตอนนี้พวกเขามีอาณาเขตหมื่นอสูร ตระกูลวายุเหมันต์ยังมีไพ่ตายอีกใบ เอียซิ่วจึงตัดสินใจอัญเชิญเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์

ด้วยเงาปีศาจพ่ายแพ้ต่อความแข็งแกร่งของเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ คนจากตระกูลศักดิ์สิทธิ์คงถึงคราวตาย!

เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ก้มลง ใช้ฝ่ามือขนาดใหญ่คว้าผู้อาวุโสระดับแบล็คโกลของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ ถ้าพวกเขาถูกจับโดยเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ เหล่าผู้อาวุโสจากตระกูลศักดิ์สิทธิ์ จะถูกแช่แข็งในทันที และแตกออกเป็นชิ้นๆ

เมื่อเสิ่นฮองเห็นฉากนี้ รู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจ และทุกครั้งที่เขาพยายามหนี จะถูกขัดขวางโดยต้วนเจี้ยน ไม่ว่าเขาจะพยายามอย่างไรก็ไม่สามารถหนีออกไปได้ ถ้าเขาอยู่ที่นั่นด้วย ก็คงมิอาจต้านเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ได้อยู่ดี อย่างน้อยเงาปีศาจคงไม่แพ้ง่ายดายเช่นนี้ และเอียซิ่วคงไม่ง่ายที่จะชนะ

เสิ่นฮองทำหน้าเครียด ทำไมเขายังไม่มาอีก? ตระกูลศักดิ์สิทธิ์คงไม่ได้ถูกสมาคมทมิฬทอดทิ้งใช่ไหม?

เนี้ยหลี่เทียบระหว่างตระกูลศักดิ์สิทธิ์และตระกูลวายุเหมันต์ ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นที่จะต้องใช้งานอาณาเขตหมื่นอสูรแล้วกระมัง.

แค่เพียงอุงมือของเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ ก็เก็บกวาดเหล่าผู้อาวุโสระดับแบล็คโกลเรียบแล้ว อยู่ๆก็มีแสงสีดำปกคลุมพวกเขา

ตูม!

ฝ่ามือของเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ก็ปะทะกับแสงสีดำ แต่ก็ทำอะไรต่อไม่ได้

"ตระกุลวายุเหมันต์มีรากฐานที่มั่นคง เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ก็แข็งแกร่ง" ชายคนดังกล่าวลอยอยู่ด้านหน้าของเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ พร้อมกับปีกแสงสีดำที่ด้านหลังของเขา แม้ว่าเสียงของเขาจะเบา แต่ทุกคนก็ได้ยินมันอย่างชัดเจน

มองไปที่ชายหนุ่มบนอากาศ, เอียซิ่วจ้องมอง "เราไม่เคยพบกันมาก่อน เจ้าคือ...."

"กุ๋ยซา แห่งสมาคมทมิฬ" ชายหนุ่มหัวเราะ "ตอนนี้เป็นผู้คุมกฎของสมาคมทมิฬ นายของข้าอยู่ในช่วงฝึกตน ดังนั้นสมาคมทมิฬตอนนี้จัดการโดยหลงซาและข้า เมื่อนายของข้ากลับมาจากการฝึกตน เขาจะแสดงให้เห็นถึงขอบเขตที่เป็นไปไม่ได้ ต่อให้ตระกูลวายุเหมันต์ต้านทานเพียงไรก็ไร้ความหมาย ศิโรราบต่อสมาคมทมิฬซะ และข้าจะให้ตระกูลวายุเหมันต์เป็นส่วนหนึ่งของสมาคมทมิฬ

"ไร้สาระสิ้นดี" เอียซิ่วกล่าวอย่างเย็นชา "ไปคุยกับเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์โน้น"

เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์มาถึงกุ๋ยซา

ร่างของ กุ๋ยซา เปลี่ยนเป็นบอลทมิฬ การโจมตีด้วยฝ่ามือขอของเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ ไม่สามารถทำลายบอลทมิฬนี้ได้

เห็นฉากนี้ เอียซิ่วขมวดคิ้วขึ้น กระทั่งเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ไม่สามารถทำลายการป้องกันนี้ได้ อย่างน้อยๆกุ๋ยซาต้องอยู่ในระดับตำนาน ผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานเป็นเพียงข้ารับใช้งั้นหรือ? แล้วนายของเขาหละ จะแข็งแกร่งเพียงใด

"จะทำลายสาขาของสมาคมทมิฬของข้า และจัดการตระกูลศักดิ์สิทธิ์ด้วยงั้นหรือ ดูเหมือนว่าตระกูลวายุเหมันต์จะจัดการยากกว่าที่คิดไว้ซะอีก อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง หากตระกูลวายุเหมันต์ยอมจำนน ก็ยังพอมีทางรอด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าเสียมารยาท" กุ๋ยซากล่าวอย่างเยือกเย็น เขาค่อยๆยกมือขวาขึ้นต่อหน้าเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ เขาปล่อยเพลิงทมิฬใส่เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์

เปลวเพลิงค่อยๆออกจากฝ่ามือ และค่อยๆกลืนเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์

"แค่เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ ยังกล้ามาเผชิญหน้ากับข้าอีกรึ" กุ๋ยซาพ่นไอเย็นออกมา ขณะที่เขาลอยอยู่ในอากาศ ออร่าที่น่ากลัวถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของเขาไม่มีใครเทียบได้

แม้กระทั่งเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ก็ไม่สามารถต้านทานเขาได้?

แท้จริงแล้ว ความแข็งแกร่งของกุ๋ยซาก็เพียงพอที่จะอยู่ระดับสุดยอด? แล้วผู้นำที่แท้จริงของสมาคมทมิฬหละ? จะน่ากลัวขนาดไหน?

ในเวลานี้ผู้เชี่ยวชาญจากครอบครัวต่างๆตกใจเป็นอย่างมาก ความแข็งแกร่งของกุ๋ยซาข่มขู่พวกเขา

ทุกคนรู้ว่าเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ แม้แต่ตัวท่าเอียมัวเองก็ไม่สามารถต้านทานได้ และเขาเป็นถึงขั้นสุดท้ายของระดับตำนาน

หรือว่ากุ๋ยซาก็เป็นระดับตำนานขั้นสุดท้ายด้วยงั้นหรือ? ดังนั้นด้วยพลังของเขา แม้จะทำลายเมืองกลอรี่ก็คงไม่ใช่ปัญหา

เอียซิ่วขมวดคิ้ว แม้เขาจะรู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง แต่เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร พลังของกุ๋ยซาเป็นที่แน่นอนว่าน่ากลัว ด้วยพลังที่น่ากลัวของกุ๋ยซานี้ แถมเพิ่มจอมมารด้วยอีกคน ทำไมพวกเขาไม่ทำลายเมืองกลอรี่โดยตรง

เพราะอะไร ?

ในขณะที่ดูฉากนี้ เสิ่นฮองเผยรอยยิ้มที่มุมปาก เขารู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของกุ๋ยซาอยู่ก่อนแล้ว และรู้ว่าเขามาถึงแล้วซึ่งระดับตำนาน และเพิ่มหลงซา และเจ้าปีศาจเข้าไปอีก พวกเขาเป็น 3 ผู้เชียวชาญระดับตำนาน หากจอมมาร กลับจากสันโดษ ตระกูลวายุเหมันต์คงถูกทำลายสิ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตระกูลศักดิ์สิทธิ์จึงเข้าร่วมสมาคมทมิฬ

หลายปีที่ผ่านมา สมาคมทมิฬไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งให้ประจักษ์ต่อเมืองกลอรี่

สมาคมทมิฬกลัวว่าเอียมัวยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตามเขาก็เริ่มแก่แล้ว มันถูกกำหนดไว้แล้ว ว่าเมืองกลอรี่ต้องตกอยู่ในมือของสมาคมทมิฬ

เห็นอย่างนี้ เนี้ยหลี่หัวเราะออกมา "เขาอยู่แค่ระดับแบล็คโกลขั้นสุดท้าย เทียบเท่ากับเอียเซิ่งนั่นแหละ เขาอ้างว่าถึงแล้วซึ่งระดับตำนานขั้นสุดท้าย แม้สมบัติเหล่านั้นจะเป็นของค่อนข้างดี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า ก็แค่เด็กอ่อนหัด"

เนี้ยหลี่สามารถมองออก

ไม่ว่าจอมมารจะมีความแข็งแกร่งระดับตำนาน หรือแม้จะอยู่ในขอบเขตของระดับตำนาน เนี้ยหลี่ก็ยังไม่แน่ใจ แต่สำหรับกุ๋ยซาที่อยู่ด้านหน้าเขาไม่ใช่บุคคลที่มาถึงแล้วซึ่งขั้นสุดท้ายของระดับตำนานแน่!

ด้วยสมบัติเหล่านั้น เขาสามารถเคลื่อนที่หรือล่าถอยได้ อย่างน้อยถ้าข้าเปิดอาณาเขตได้หละก็!" เนี้ยหลี่มองไปที่อาณาเขตหมื่นอสูร เพียงอาณาเขตหมื่นอสูรเท่านั้นที่จะต้านกุ๋ยซาได้ ได้ยินกุ๋ยซาบอกว่าเขาเป็นลำดับ3 ของสมาคมทมิฬ คุ้มมากสำหรับเนี้ยหลี่ที่จะใช้อาณาเขตหมื่นอสูร

อาณาเขตหมื่นอสูรเป็นไพ่ตายของตระกูลวายุเหมันต์ ในมุมของเอียซิ่วและคนอื่นๆ หากหลีกเลี่ยงการใช้อาณาเขตจะดีที่สุด แต่เนี้ยหลี่ไม่ได้คิดแบบนั้น หากไพ่ตายถูกเปิดใช้งาน เขาก็ต้องเตรียมความพร้อมมากขึ้นไปอีก

เนี้ยหลี่ไปยังอาณาเขตหมื่นอสูรอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเริ่มรูปแบบตราประทับ

กุ๋ยซาปราบเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์ และมองไปที่ผู้เชียวชาญของเมืองกลอรี่จากด้านบน ทำให้ผู้เชียวชาญรู้สึกแย่ หากไร้ซึ่งท่านเอียมัว ใครจะสามารถต่อกรกับกุ๋ยซาในเมืองกลอรี่นี้

ทันใดนั้น ก็มีเสียงเกิดขึ้น

"นั่น!!! ตรงนั้น!"

"เป็นท่านเจ้าเมือง ท่านเจ้าเมืองกลับมาแล้ว"

หลังจากเอียเซิ่งทำลายสาขาของสมาคมทมิฬและเปิดโปงตระกูลศักดิ์สิทธิ์ เขารีบกลับมาโดยไม่หยุดพัก แต่ตอนที่เขากลับมา เห็นฉากที่กุ๋ยซาปราบเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์พอดี

ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมทมิฬลงมือทำ? เขาไม่คาดคิดว่าผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมทมิฬจะมาอวดดีที่เมืองกลอรี่.

แม้เทพสถิตแห่งวายุเหมันต์จะถูกปราบลง ความแข็งแกร่งของกุ๋ยซาไปถึงยังดินแดนที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเขา สำหรับสมาคมทมิฬส่งผู้เชียวชาญมา พวกเขาคิดจะทำลายเมืองกลอรี่?

ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเอียเซิ่ง แม้เขาเทียบกับกุ๋ยซาไม่ได้ ถ้าเขาขึ้นไป ก็เหมือนกับไปรนหาที่ตาย

แต่ตอนนี้เขาถอยไม่ได้ เขาเป็นดั่งเทพเจ้าสงครามของเมืองกลอรี่ เป็นเสาหลักของเมือง ถ้าเขาถอย ทุกคนต้องตกเป็นทาสของสมาคมทมิฬ? ฉากในอดีตผ่านเข้ามาในสมองของเอียเซิ่ง เอียจืออวิ้น เนี้ยหลี เอียซิ่วและคนอื่นๆอีกมากมาย ดวงตาของเขากลับมาหนักแน่น

เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเมืองกลอรี่ แม้ต้องตาย ข้า เอียเซิ่ง ก็จะไม่เสียใจ

ช่วงเวลาที่เอียเซิ่งเผชิญหน้ากับฝ่ายศัตรู มีหลายครั้งที่แข็งแกร่งกว่าตนเอง ดวงตาของเขาหนักแน่น เขาก้าวขึ้นไปยังอากาศเบื้องหน้าของเขา *ตู้ม!* เกลียวพลังวิญญาณขยายขึ้นใต้เท้าของเขา



จบบทที่ 184 แม้ต้องตาย ข้าก็จะไม่เสียใจ

แปลโดย MaCrossX

3 ความคิดเห็น:

  1. ขอแสดงขอบคุณ สำหรับผู้แปลทุกท่านครับ เสพจนติดแล้วครับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับรับเข้ากลุ้มหน่อยครับ FB.Nonthavat Kruemas

    ตอบลบ