วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559

บทที่ 191 - ไม่ต้องการอีกแล้ว

บทที่ 191 - ไม่ต้องการอีกแล้ว

" เมืองกลอรี่นี่เป็นสถานที่แบบใดกัน ? " เซี่ยวกวงแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม ถึงแม้จะกล่าวออกไปเช่นนั้น เขาก็ยังขบคิดภายในจิตใจของเขา ไม่แน่ว่าฝ่ายตรงข้ามอาจจะมีพื้นหลังที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งต้องเป็นเหตุที่เนี่ยหลี่อาจหาญถึงเพียงนี้

" เมืองกลอรี่เป็นเมืองที่พวกเรายืนหยัดต่อสู้ต่อการโจมตีของสัตว์อสูรและสร้างเมืองขึ้นในหุบเขาเซนต์บรรพบุรุษ ถึงแม้พวกเราจะประสบกับการโจมตีของกองทัพสัตว์อสูรทุกๆร้อยปี และมีหลายต่อหลายครั้งที่เมืองกลอรี่เกือบมลายสิ้น แต่เนื่องจากการเสียสละของผู้คนนับไม่ถ้วน จึงทำให้พวกเราสามารถรอดผ่านมาได้ " เนี้ยหลี่กล่าวอย่างภาคภูมิใจ ถ้าหากไม่ใช่กองทัพสัตว์อสูรระดับร้อยล้านตน เมืองกลอรี่ก็ยังตงอยู่ในชีวิตก่อนหน้าของเขา

เมื่อได้ฟังที่เนี้ยหลี่กล่าว ทั้งหยุนหลิงและเซี่ยวหยางต่างมีสีหน้าเต็มไปด้วยความหวัง เพียงแค่มันคือเมืองๆหนึ่ง ! พวกเขานั้นได้หลบซ่อนอยู่ในที่ราบสูง เป็นเหตุให้พวกเขารอดพ้นจากการถูกฆ่าโดยสัตว์อสูร แต่สำหรับเมืองกลอรี่นั้นกลับต่อสู้กับสัตว์อสูรโดยซึ่งหน้า !

" ประชากรในเมืองกลอรี่เป็นอย่างไร " เซี่ยวกวงถาม ขณะที่ใจของเขาสั่นเล็กน้อย พวกเขาสามารถทนต่อการโจมตีของสัตว์อสูรได้ ? เป็นเรื่องที่แม้แต่ที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ยังไม่กล้าจะทำเช่นนั้น หากเมืองกลอรี่มีกำลังที่ยิ่งใหญ่และอยู่ไม่ไกล ถ้าหากเขาทำให้เนี้ยหลี่ไม่พอใจ คงจะไม่หมายถึง. . . . .

" เมืองกลอรี่ของข้ามีประชากรนับล้าน หลายร้อยหลายพันคนมีการบ่มเพาะพลังขั้นต่ำสุดคือระดับบรอนซ์ ซิลเวอร์ โกลด์ และส่วนใหญ่นี้เป็นร่างทรงอสูร พวกเรายังมีหลายร้อยผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์ และสองผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน " เนี้ยหลี่กล่าวอย่างใจเย็น พลางจ้องมองเซี่ยวกวงและส่วนที่เหลือ

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเนี้ยหลี่ ก็เกิดความวุ่นวายขึ้นจากผู้คนด้านข้าง นับร้อยนับพันของผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์และสองผู้เชี่ยวฃาญระดับตำนาน หยุนหลิงและส่วนที่เหลือต่างตกใจ นี่มันเป็นไปไม่ได้

หลังจากได้ฟังการสนทนานั้น แม้แต่ผู้คนโดยรอบต่างใจสั่น ด้วยพลังที่น่ากลัวของกลุ่มบุคคลดังกล่าว ก็เพียงพอที่จะทำลายพวกเขาจนย่อยยับจากที่ราบสูงลิขิตสวรรค์

แม้แต่เซี่ยวกวงยังกลัวจนใบหน้าของเขาซีดเทา หลังจากเสียงเงียบลงเล็กน้อย เขาเงยหน้าของเขาและแสดงท่าทางไม่อยากเชื่อ '' นับร้อยนับพันผู้เชี่ยวชาญ แกต้องคุยโวโอ้อวดแน่ๆ "

" คุยโวโอ้อวด? " เนี้ยหลี่ชายตามองเซี่ยวกวงอย่างดูหมิ่น " เจ้าสามารถตามข้าเพื่อพิสูจน์ได้และดูว่าข้าคุยโวโอ้อวดหรือไม่ "

เนี้ยหลี่ยื่นมือขวาแล้วเกิดแสงสว่างด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณที่เห็นได้ชัด

" ร่างทรงอสูรระดับโกลด์? " เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของเซี่ยวกวงแทบถลนออกมานอกเบ้า จากวิธีการที่เนี้ยหลี่แสดงออกมา เขาก็แค่เด็กอายุเพียงสิบสี่สิบห้า และยังเป็นถึงร่างทรงอสูรระดับโกลด์ แล้วข้อมูลเกี่ยวกับเมืองกลอรี่ที่แข็งแกร่งย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

เซี่ยวกวงกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง แม้ว่าเขาสามารถทำสิ่งใดก็ได้ตามต้องการในที่ราบสูงลิขิตสวรรค์โดยไม่ต้องสนเหตุผลอันใด แต่อีกฝ่ายนั้นมาจากเมืองดังกล่างที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งอันน่ากลัวอยู่ด้านหลังเขา ถ้าหากเขาขัดใจเนี้ยหลี่ จักต้องชักนำนำภัยพิบัติแห่งการทำลายล้างมาเป็นแน่

สังหารเนี้ยหลี่ ? ไร้สาระ หากอีกฝ่ายมีการเตรียมการ และมีผู้เชี่ยวชาญจากเมืองกลอรี่ติดตามอยู่บริเวณนี้ ?

หลังจากครุ่นคิดมานาน เซี่ยวกวงก็เข้าใจว่าเป็นการดีที่สุดหากไม่กระทำการอันใดต่อหน้าเขา

เซี่ยวกวงถอดขาออกจากเก้าอี้ด้วยท่าทีเก้ๆกัง พลางเกาหัวและหัวเราะ

พวกที่เหลือยังคงตกใจ มันเป็นเมืองที่รุ่งเรืองในเทือกเขาเซนต์บรรพบุรุษที่มีหลายร้อยหลายพันของผู้เชี่ยวชาญ ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขานั้นยังมีสองผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน ทำให้หลายคนมีความคาดหวังที่สูงขึ้นในจิตใจ

เนื่องจากที่ราบสูงลิขิตสวรรค์มีอาหารไม่เพียงพอ บางคนมักตายด้วยความหิวโหย เมืองที่มีผู้เชี่ยวชาญนับไม่ถ้วนต้องมีความอุดมสมบูรณ์มากมาย มิฉะนั้นแล้วทำไมเนี่ยหลี่ใช้ข้าวและเนื้อสัตว์ในการแลกกับหินควันม่วงของพวกเขา?

" ฮ่าๆ มันต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ ข้าคิดว่ามีคนสร้างปัญหา ตอนนี้เรื่องกลายเป็นการเข้าใจผิดและคลี่คลายแล้ว เราก็ขอต้อนรับคุณชายในฐานะแขกของที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ เนื่องจากท่านได้แลกอาหารกับเราไปตั้งเท่าไหร่ ในที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ ถ้าท่านมีความต้องการสิ่งใด ข้า เซี่ยวกวง จะทำอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยคุณชาย " เป็นความน่าประหลาดใจอย่างมากที่ได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลและเลวทรามของเซี่ยวกวง

การเปลี่ยนทัศนคติของเซี่ยวกวงนั้นรวดเร็วเกินไป ทำให้เซี่ยวหยาง หยุนหลิงและคนอื่นๆต่างมองเขาด้วยความรังเกียจ ที่เขาทั้งหลายล้วนได้เผชิญอย่างขลาดเขลา และหลังจากที่เขาได้รู้พื้นหลังของอีกฝ่าย เซี่ยงกวงได้เพียงแต่สั่น คุกเข่าลงต่อฝ่ายตรงข้ามอย่างง่ายดาย

เซี่ยวกวงไม่ได้สนใจเรื่องอื่น เขาคิดเพียงแต่เรื่องของเขาในการช่วยคุณชาย หากอีกฝ่ายไม่พอใจและตัดสินใจทำลายที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ แล้วเขาจะเหลืออะไรที่จะสามารถชดใช้ได้

เซี่ยวหยางเปิดปากถามว่า " ข้าสงสัยว่าเมืองกลอรี่ไกลจากที่นี่เท่าใด "

เขาสัมผัสได้ว่าเนี้ยหลี่ไม่ใช่คนที่จะมาต่อปากต่อคำด้วย เหตุผลที่เขาบอกก่อนหน้านี้เพื่อแสดงให้เซี่ยวกวงเห็นถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริง

หลังจากได้ยินคำถามของเซี่ยวหยาง คนรอบข้างต่างเงียบลงและฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ

" มาจากเมืองกลอรี่อย่างเร่งรีบใช้เวลาประมาณสิบวัน ถ้าหากพวกท่านอยากจะเดินไปในเส้นทางที่ปลอดภัยจะต้องใช้เวลาร่วมสองเดือน " เนี้ยหลี่กล่าว

หลังจากคิดอย่างฉับพลัน เขากล่าวว่า " ข้าสามารถวาดแผนที่ให้ท่าน หากมีโอกาส ท่านสามารถไปดูได้เพื่อพิสูจน์ว่าข้าโกหก? หลังจากที่ท่านไปถึง ท่านสามารถประกาศชื่อของข้าและบอกว่า เป็นข้าเองที่บอกท่านให้ไปที่นั่น ทหารรักษาการของคฤหาสเจ้าเมืองจะจัดการสิ่งที่เหมาะสมสำหรับท่าน "

แม้ว่าจำนวนผู้เชี่ยวชาญในที่ราบสูงลิขิตสวรรค์มีไม่มากนัก โดยมีผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลด์ ระดับโกลด์ และระดับซิลเวอร์ ถ้าพวกเขาย้ายเข้าเมืองกลอรี่พวกเขาสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งเล็กๆน้อยๆให้แก่เมืองกลอรี่ได้ นอกจากนี้เหตุผลเดียวในที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ขาดผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก มีหลายคนมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะพลัง แต่พวกเขาต้องฝึกฝนเทคนิคตั้งแต่เริ่มต้น ในบางทีความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ที่ราบสูงลิตสวรรค์เล็กๆ ไม่อาจคุกคามอันใดต่อเมืองกลอรี่ได้เลย

เมืองกลอรี่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่จริง และพวกเขาต้องประกาศชื่อเนี้ยหลี่ เพื่อเข้าคฤหาสถ์เจ้าเมือง อาจเป็นไปได้ว่า เนี้ยหลี่นั้นมาจากคฤหาสถ์เจ้าเมือง ? ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วเขาก็ไม่ควรถูกดูหมิ่นอันใด

เซี่ยวกวงมองลึกไปยังตัวตนของเนี้ยหลี่ โชคยังดีที่ไม่ไปขัดใจเขา โดยคิดใฝ่หาเรื่องใดๆต่อ
หลังจากเนี้ยหลี่พูดจบ ผู้คนในที่ราบสูงลิขิตสวรรค์นั้นต่างรู้สึกมีความสุข ถ้ามันเป็นเช่นนั้น มันก็วิเศษจริงๆ

เนี้ยหลี่ดึงแผนที่ออกมาและกล่าวว่า " นี่เป็นแผนที่ของสภพแวดล้อมเมืองกลอรี่ ข้าจะวาดเส้นทางสำหรับท่านเพื่อให้ท่านสามารถเข้าถึงเมืองกลอรี่ได้ "

แผนที่ของเมืองกลอรี่? ทุกคนไม่สามารถควบคุมตนเองขณะมองที่โต้ะ เมืองที่มีอาณาเขตหลายพันไมล์นี้คือเมืองกลอรี่ เมื่อเทียบกับที่ราบสูงลิขิตสวรรค์แล้วเทียบไม่ได้แม้แต่1ใน10 ของเมืองกลอรี่ ! นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ทำให้พวกเขารู้สึกอิจฉาเมื่อเห็นมัน

" มีอาหารเพียงพอต่อคนมากมายในเมืองกลอรี่ ? " มีบางคนชักถามขึ้น

เนี้ยหลี่ยิ้มเบาๆขณะส่ายหัวแล้วพูดว่า " มากพอสำหรับคนหลายล้านคน ส่วนใหญ่ของพื้นที่นั้นใช้ปลูกสมุนไพรในเทือกเขาของเมือง มีผลไม้นับไม่ถ้วนที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกๆปี ผู้เชี่ยวชาญของเมืองกลอรี่จะฆ่าสัตว์อสูรหลายสิบล้านตัวเพื่อนำมาเป็นอาหาร เนื้อส่วนเกินที่หลงเหลือก็มีแต่ทิ้งให้เน่าเสีย "

ในตอนนี้ แม้แต่เซี่ยวกวงผู้เป็นบุตรชายของหัวหน้าหมู่บ้าน ไม่ช่วยเพิ่มความคาดหวังในจิตใจของเขาต่อเมืองกลอรี่ ที่อุดมสมบูรณ์ตามที่เนี้ยหลี่กล่าว ?

แม้ว่าเขาจะเป็นบุตรชายของหัวหน้าหมู่บ้าน เขาก็ต้องล่าอาหารของเขาเอง ซึ่งรอยแผลบนร่างกายของเขาล้วนได้มาจากการล่าทั้งสิ้นในที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ และมีหลายคนมักจะตายด้วยความหิวโหย

เนี้ยหลี่ร่างแผนที่ ส่งมอบให้เซี่ยวหยาง และกล่าวว่า " ข้าจะอยู่ที่นี่เป็นเวลาสองถึงสามวัน และข้ายังต้องเดินทางลึกเข้าไปในเทือกเขาเซนต์บรรพบุรุษเพื่อนฝึกฝน "

เซี่ยวหยางถือเป็นที่อย่างระมัดระวัง และเซี่ยวกวงถูมือของเขาด้วยความตื่นเต้น

เยาวชนเหล่านี้รอคอยที่จะมีชีวิตที่ดี มันเป็นไปได้สูงสำหรับบางส่วนของคนเหล่านี้ต้องการมุ่งไปยังเมืองกลอรี่ อย่างไรก็ตามบางส่วนของผู้อาวุโสอาจจะไม่เห็นด้วย หลังจากที่ ชายชราผู้เคยอาศัยอยู่ในที่ราบสูงลิขิตสวรรค์มายาวเกินไป

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เนี้ยหลี่สามารถควบคุมได้ เขาได้ให้แผนที่ไปแล้ว การจะไปหรือไม่ย่อมขึ้นอยู่กับตัวพวกเขาเอง

เนี้ยหลี่ยังคงแลกเปลี่ยนศิลาหมอกม่วงกับอาหาร

ความวุ่นวายเริ่มเกิดขึ้น มีเสียงซุบซิบอย่างแผ่วเบาในหมู่คน

ศิลาหมอกม่วงมีค่าอย่างมากในเมืองกลอรี่ แต่เขาให้เพียงถุงเนื้อในการแลกเปลี่ยน แต่เราต้องการให้เขาแลกโดยใช้ข้าวกับเนื้อ "

" ใช่ๆ ต้องแลกมากกว่านี้ "

คนเหล่านี้ถูกกีดกันโดยคนอื่นๆจากการแลกเปลี่ยนกับเนี้ยหลี่

" เรากำลังจะตายด้วยความหิว ท่านยังทำให้เรามีชีวิตอยู่ " บางคนก็ยังมุ่งมั่นจะแลกเปลี่ยนกับเนี้ยหลี่เช่นเดิม

ความสับสนวุ่นวายในกลุ่มคนที่ชุบชิบพูดคุยกัน เนี้ยหลี่ได้แต่ถอนหายใจเบาๆ มันเป็นความจริงที่ศิลาหมอกม่วงคือสิ่งล้ำค่า แต่มีเพียงคนจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่รู้จักวิธีใช้มัน ส่วนเนี้ยหลี่จะใช้ศิลาหมอกม่วงในการเพิ่มระดับขณะที่การบ่มเพาะของเขาอยู่ในระดับโกลด์ หลังจากที่เขาเข้าสู่อันดับที่สูงกว่า ศิลาหมอกม่วงนั้นก็จะไร้ประโยชน์ เพราะเขารู้วิธีใช้ศิลาหมอกม่วงโดยคนอื่นไม่รู้วิธีใช้มัน สารพิษในศิลาหมอกม่วงต้องจัดการด้วยวิธีพิเศษเพื่อให้สามารถใช้ได้ อย่างปลอดภัย

แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งล้ำค่า แต่หากไม่รู้ซึ่งวิธีใช้ มันก็ไม่ต่างอะไรจากขยะ

เหตุผลที่เนี้ยหลี่ใช้อาหารแลกเปลี่ยนกับศิลาหมอกม่วง เพราะหลายคนในที่แห่งนี้ได้ให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากเมืองกลอรี่เมื่อพวกเขาหลบหนีในชีวิตก่อนหน้าของเขา อย่างไรก็ตามก็ยังมีหลายคนที่อยากไล่พวกเขาออกไป ในที่สุดพวกเขาก็โดนไล่ออกจากที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ เป็นเหตุให้เนี้ยหลี่และพวกที่เหลือไม่มีทางเลือก และเดินทางไปยังที่ที่พวกเขาไม่รู้จัก

เนี้ยหลี่รู้สึกว่า เขาได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว เนื่องจากคนเหล่านี้มีความโลภ และไม่เคยพอใจกับสิ่งที่ตนได้ มีอะไรอีกมากที่ยังต้องทำ หลังจากนั้นเมื่อไม่มีใครแลกศิลาหมอกม่วงอีกต่อไป เขาออกไปเผชิญหน้ากับฝูงชนพลางยิ้มเบาๆ ข้าขอหยุดแลกเปลี่ยนศิลาหมอกม่วงกับอาหาร เนื่องจากข้าได้ตามที่ต้องการแล้ว ดังนั้นทุกคนสามารถกลับไปได้ จะไม่มีการแลกเปลี่ยนใดๆอีกในภายหน้า !

เมื่อได้ยินคำพูดของเนี้ยหลี่ ฝูงชนก็เอะอะเสียงดังในทันที

" นายน้อย ข้ายังมีศิลาหมอกม่วงมาแลกกับท่าน "

" นายน้อย ข้าก็ด้วย "

เนี้ยหลี่ชายตามองผู้คนที่เรียกร้องออกมา คนเหล่าเป็นคนโลภในหมู่คนทั้งหมด เขาส่ายหัวและกล่าวว่า " ข้าไม่ต้องการมันอีกแล้ว ! "

แปลไทยโดย 
Aek Sathaporn AR

9 ความคิดเห็น: