บทที่ 224 - ผลจิตต้นกำเนิด
ร่างสูงสะบัดมือสร้างตราประทับปริศนาขึ้นมาภายในพริบตา นัยน์ตาของมันเปล่งประกายเรืองแสงขึ้น
“ เจ้าคงคิดที่จะไปให้จ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพคุ้มครองพวกเจ้าสินะ? เหอะ ถึงข้าจะยอมรับว่าข้าสู้มันไม่ได้ แต่เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าจะปลอดภัยเพียงแค่ได้รับการปกป้องจากมัน! ”
แสงแปลกๆค่อยๆประสานรวมกันเข้าไปในตราอสูรของมัน แสงพวกนั้นเริ่มหมุนเวียนไปมาตามกระแสของพลัง ในตอนแรกพลังที่ถูกปล่อยอออกมานั้นมันเริ่มจากเส้นแสงธรรมดา จากนั้นก็ค่อยๆผลิบานแตกออกเป็นดอกไม้ปริศนาอยู่ข้างๆตัวของเขา จากดอกแรกผลิเป็นดอกที่สอง ดอกที่สาม...และดอกที่หก ทว่ายังเหลือเพียงดอกเดียวที่ยังไม่ผลิบาน แต่มันกลับอูมจนพร้อมที่จะบานออกมาได้ทุกเมื่อ
“ พันปีที่ผ่านมานี้ ข้าได้รอเวลาที่บัวดอกที่เจ็ดจะเบ่งบานมานานแล้ว และอีกไม่นานหรอก...ยู่เหยียน ต่อให้เจ้าฟื้นคืนพลังได้ เจ้าก็ไม่ใช่คู่มือข้า! ” รอยยิ้มของมันชี้ชัดขึ้นอย่างชั่วร้ายพลางมองดูไปยังทิศทางที่ยู่หยางจากไป
ณ ดินแดนใต้พิภพ ปากทางเข้าสู่หอคอยมรณะ ในที่รกร้างว่างเปล่าที่ทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา ตอนนี้ก็ได้มีที่พักชั่วคราวถูกติดตั้งจำนวนมาก เหล่านักสู้จากสิบห้าเมืองในดินแดนใต้พิภพต่างมาปักหลักกันอยู่ที่นี่มากมายหลายร้อยตระกูล ธงของแต่ละตระกูลปลิวไสวเด่นหรา อวดบารมีกัน แม้นว่าตระกูลผนึกหยกจะเป็นหนึ่งในสามมหาอำนาจในเมืองศิลาทมิฬ แต่เมื่อเทียบกับตระกูลจากเมืองอื่นๆทั้งสิบห้าเมืองแล้วนั้น พวกเขาก็ยังคงไม่ได้ดีเด่อะไรมากมาย โดยเหล่าตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดจะอาศัยอยู่ในใจกลางดินแดนใต้พิภพแห่งนี้ ซึ่งถ้าหากลองสุ่มคนจากตระกูลพวกนั้นล่ะก็ มั่นใจได้เลยว่าอย่างน้อยๆพวกเขาก็สามารถฆ่าล้างตระกูลเล็กๆในเมืองอื่นๆได้อย่างแน่นอน
การจะได้เป็นศิษย์ของจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพนั้นก็หมายความว่า พวกเขาจะกระเถิบเข้าไปใกล้นักสู้ระดับเทพสถิตเพิ่มมากขึ้น(Spiritual God) และต่อจากนั้นพวกเขาจะมีทั้งอำนาจ เงินตรา และได้รับความเกรงใจจากตระกูลอื่นๆ ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าหอคอยมรณะนั้นเต็มไปด้วยภัยอันตราย แต่พวกเขาก็กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความกลัว ในตอนนี้ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินทางมาถึงที่พักชั่วคราวของตระกูลผนึกหยกแล้ว ซึ่งก็คือเนี้ยหลี่และพรรคพวกนั่นเอง ตามตัวแต่ละคนต่างเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นผงจากการเดินทางไกล เป็นเพราะในตอนแรกพวกเขาได้เดินทางไปยังบ้านใหญ่ของตระกูลผนึกหยกในเมืองศิลาทมิฬก่อน แต่เพิ่งจะรู้ทีหลังว่าพวกหลอเซี่ยวกับคนอื่นๆ ได้เดินทางไปยังหอคอยมรณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงต้องดั้นด้นเดินทางกันต่อจนมาถึงที่นี่
“ ท่านลุงหลอ พบกันอีกแล้วนะ ” เนี้ยหลี่ยิ้มพร้อมๆกับทักทายอีกฝ่าย
“โอ้ หลานเนี้ยหลี่ เจ้าก็มารึ ” หลอเซี่ยวยิ้มกลับ ก่อนจะทอดสายตามองสมาชิกคนอื่นที่มากับเนี้ยหลี่ด้วยสายตาสงสัย “ เด็กหนุ่มสาวพวกนี้คือ? ” เพียงแค่มอง หลอเซี่ยวก็รับรู้ได้ถึงออร่าอันแข็งแกร่งที่เล็ดลอดออกมาจากเด็กหนุ่มสาวตรงหน้า เป็นไปได้สูงว่าเด็กพวกนี้อาจจะอยู่ระดับแบล็คโกลกันแล้วหรือแม้แต่ระดับตำนานก็ยังเป็นไปได้อยู่ โดยเฉพาะเด็กหนุ่มหุ่นดีที่มีปีกสีดำคู่หนึ่งติดอยู่กลางหลัง พอมองแล้วเขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กพวกนี้จะฝึกฝนจนมาถึงขั้นนี้ได้ด้วยอายุเพียงเท่านี้ ถ้าเวลาผ่านไปนานกว่านี้อีกสักหน่อย ไม่อยากจะคิดเลยว่าพวกเขาจะน่ากลัวขนาดไหน!
เนี่ยหลี่มองมาที่หลอเซี่ยวก่อนจะเริ่มแนะนำ เอียเจืออวิ้น เซี่ยวหนิงเอ๋อ และคนอื่นๆ ให้หลอเซี่ยวรู้จักตามลำดับ ส่วนทางด้านยู่เหยียนนั้นเธอเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในเสื้อเนี้ยหลี่ ไม่ได้ออกมาเผยตัวตนแต่อย่างใด พอได้ยินว่าเอียเจืออวิ้นเป็นคู่หมั้นเนี้ยหลี่ หลอเซี่ยวก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองอีกฝ่ายก่อนจะพยักหน้าคล้ายกับว่าเห็นดีเห็นงามด้วย ทำเอาเอียเจืออวิ้นที่ยืนอยู่พลันหน้าแดงขึ้นมาทันทีพลางคิดว่าตนควรจะแสดงกิริยาอะไรออกไปดี แต่สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้และมองไปยังเนี้ยหลี่อย่างคาดโทษ เนี้ยหลี่หัวเราะยิ้มๆพลางเกาศีรษะแก้เก้อ
ทางฝั่ง ตู่ซือ หลู่เปียว และคนอื่นๆ ต่างก็มองซ้ายมองขวาอย่างใคร่รู้ สิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต ทำให้พวกเขาอยากรู้อยากเห็นไปเสียหมด แต่เพราะที่นี่มีกลิ่นเหม็นของซัลเฟอร์ตลบอบอวลไปทั่ว ทำให้พวกเขาต่างรู้สึกว่าหากเทียบที่นี่กับเมืองกลอรี่แล้ว เมืองกลอรี่นี่มันก็สวรรค์ดีๆนี่เอง!
หลอเซี่ยวใช้โทนเสียงที่ต่ำแอบพูดกับเนี้ยหลี่กันคนอื่นได้ยินว่า “ ด้วยความสำคัญของหลาน ลุงว่าเจ้าอย่าเอาชีวิตมาเสี่ยงในหอคอยมรณะนี่เลยนะ! ” ในตอนนี้เนี้ยหลี่นั้นมีความสำคัญเป็นถึงนักจารึกอักขระขั้นอาวุโส หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเนี้ยหลี่ล่ะก็ หลอเซี่ยวคงจะร้องไห้จนตาแฉะเป็นแน่ หากเมื่อเข้าไปในหอคอยมรณะแล้ว นักสู้จากแต่ละตระกูลจะมีการแก่งแย่งชิงดีกับนักสู้จากตระกูลอื่นๆ เพราะอย่างนั้นความขัดแย้งระหว่างตระกูลจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งยังมีนักสู้ระดับเซียนจากหลากหลายตระกูลเข้าร่วมการคัดเลือกในครั้งนี้ด้วย ต่อให้เป็นเนี้ยหลี่ก็ไม่น่าจะรับมือไหวและอาจถูกลูกหลงอีกด้วย
ซึ่งในจุดนี้เนี้ยหลี่ก็เข้าใจดีว่าทำไมหลอเซี่ยวถึงเป็นห่วงตน เขายิ้มและเอ่ยว่า “ ท่านลุงหลอวางใจได้ ข้าเพียงแค่จะเข้าไปดูข้างในนั้นนิดหน่อย ไม่คิดที่จะไปเสี่ยงชีวิตหรอก ”
ไม่มีทางซะหรอกที่เนี้ยหลี่จะมาไกลขนาดนี้แล้วจะทำเพียงแค่แวะเข้าไปดู แต่เพื่อความสบายใจของหลอเซี่ยวเขาจึงพูดออกไปแบบนั้น พอได้ยินเช่นนั้นหลอเซี่ยวก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
“ แล้วทำไมพวกท่านถึงไม่เข้าไปในหอคอยมรณะล่ะ? ” เนี้ยหลี่ถามต่อ
“ โดยปกติการจะผ่านเข้าไปแต่ละชั้นของหอคอยมรณะนั้นจะต้องผ่านชั้นแรกเสียก่อน แล้วค่อยๆมุ่งไปชั้นถัดไปเรื่อยๆ ทว่าในแต่ละชั้นก็จะต้องเจอกับความท้าทายต่างๆ มากมาย กว่าจะถึงชั้นที่หกคงจะใช้เวลาหลายเดือน แต่เมื่อไม่นานมานี้เราได้ข่าวมาว่า ภายในสามวันนี้ เมื่อนาฬิกาตีเลขสิบสอง ชั้นที่เจ็ดของหอคอยมรณะจะเปิดออก และเราสามารถผ่านเข้าไปสู่ชั้นเจ็ดได้เลย ” หลอเซี่ยวกล่าว
เอียจืออวิ้น เซี่ยวหนิงเอ๋อ และคนอื่นๆ ต่างตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ หอคอยมรณะนี้มันช่างลึกลับเสียงจริงๆ
“ งี้นี่เอง! ” เนี้ยหลี่พยักหน้าเข้าใจแล้วถามต่อ “ แล้วท่านรู้ไหมว่าชั้นเจ็ดของหอคอยมรณะมันเป็นยังไง ”
“ หอคอยมรณะนั้น แรกเริ่มเดิมทีคือสนามรบที่มีเหล่านักรบมากมายได้ตายตกทิ้งไว้แต่ซากแอ่งร้างนับหมื่นปีที่อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งความตาย ซึ่งชั้นที่เจ็ดขึ้นไปนั้นถือเป็นสถานที่ส่วนตัวของท่านจ้าวดินแดนใต้พิภพ ที่นั่นตัวเขาคือกฎและทุกครั้งที่เขาเปิดรับศิษย์ จะไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะเลือกเอาใครตอนไหน แต่อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เราเข้าสู่ชั้นใหม่ ข้ารับใช้ของท่านจะบอกกฎให้ทราบเอง ” หลอเซี่ยวกล่าว
“ ทุกครั้งที่จ้าวดินแดนใต้พิภพเปิดรับศิษย์ จะไม่มีใครรู้เลยว่าในรอบรับครั้งนั้นจะเป็นแบบไหนต้องผ่านอะไรบ้าง แต่เมื่อเข้าสู่ชั้นที่รับบททดสอบแล้วนั้น ข้ารับใช้ของท่านจ้าวดินแดนใต้พิภพจะปรากฏและบอกให้ทุกคนทราบถึงกฎและบททดสอบ ” หลอเซี่ยวอธิบายเพิ่ม
ในรอบเปิดรับศิษย์ครั้งก่อนนั้นก็ผ่านมานับสิบๆปีแล้ว
“ จะว่ากันตามจริงแล้วคนที่ท่านเจ้าดินแดนรับเป็นศิษย์นั้นมีมากมายนัก อาจจะเป็นหมื่นเป็นแสนเลยก็ได้ ทว่าคนที่ได้รับการยอมรับจากเขานั้นมีเพียงผู้เดียวเท่านั้น ” (ว่าที่นางเอกไง55)
เนี้ยหลี่พยักหน้า ในใจของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของท่านจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพนี้ ทั้งเรื่องที่ว่าตามจริงแล้วนั้นเขาเป็นใคร
“ นี่คือเหรียญลูกค้าพิเศษจากโรงประมูลตราศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่หลานมีมัน คนทั่วๆไปจะไม่กล้าทำอะไรเจ้า หากเจ้ามีปัญหาใดๆกับใคร ขอเพียงแสดงเหรียญนี่พวกนั้นก็จะไม่กล้ามารุ่มร่ามกับเจ้า ” หลอเซี่ยวกล่าวพร้อมทั้งยื่นเหรียญสีทองให้กับเนี้ยหลี่
เนี้ยหลี่รับเหรียญนั้นมาแล้วเริ่มตรวจดูว่ามันคืออะไร ทว่าพอดูแล้วกลับพบกว่ามันเป็นเพียงเหรียญธรรมดาๆ เท่านั้น ถึงจะมีจารึกถูกสลักไว้บนหน้าเหรียญก็เถอะ แต่ดูท่าจะเอาไว้ตกแต่งเสียมากกว่า
“โรงประมูลตราศักดิ์สิทธิ์นั้นแข็งแกร่งเป็นอันดับสามในดินแดนใต้พิภพนี้ พวกเขามีอำนาจมากในระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นตระกูลธรรมดาๆ จึงไม่กล้าเข้าไปรุ่มร่ามด้วย ” หลอเซี่ยวกล่าว
เพราะก่อนหน้านี้หลอเซียวได้ไปขายอาวุธที่ถูกสลักจารึกอักขระโดยเนี้ยหลี่ผู้มีทักษะเทียบเท่านักจารึกอักขระขั้นอาวุโส ทำให้เขาขายอาวุธได้กำไรมหาศาลทั้งยังได้รับการหนุนหลังจากโรงประมูลตราศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย
“ อย่างนี้นี่เอง ” เนี้ยหลี่พยักหน้าเข้าใจก่อนจะเก็บเหรียญทองไว้กับตัว ยิ่งมีคนหนุนหลังแบบนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีมากเท่านั้นล่ะนะ
“ อีกไม่กี่วันต่อจากนี้ หลานควรจะรีบกลับมารอเวลาที่ทางเข้าสู่ชั้นที่เจ็ดจะเปิด เพราะไม่แน่ว่าระหว่างทาง หากหลานกลับมาช้าอาจถูกพวกตระกูลอื่นขัดขวางเอาได้ ” หลอเซี่ยวกล่าวเตือน
“ ขอบคุณสำหรับคำเตือนนะท่านลุงหลอข้าจะจำเอาไว้ให้ดี ” เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมพยักหน้ารับคำอีกฝ่าย
หลังคุยกันจบ หลอเซี่ยวก็ได้ไปจัดเตรียมที่พักให้เนี้ยหลี่และพรรคพวก แถวนี้เนี้ยหลี่รู้สึกได้เลยว่ามีออร่าทรงพลังแผ่ออกมาจากทั่วทุกที่ ด้วยเหล่านักสู้ระดับเซียนจำนวนมากแบบนี้นั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่าพวกตนจะพอมีโอกาสได้เป็นลูกศิษย์ของจ้าวแห่งดินแดนใต้พิภพนี้บ้างไหม ทุกคนแยกย้ายกันไปจัดเตรียมที่พักชั่วคราวของตน ทว่าเนี้ยหลี่กับเลือกที่จะอยู่ฝึกต่อมากกว่า
เนี้ยหลี่หยิบเอาไข่ปริศนาออกมาแล้วค่อยๆปล่อยพลังป้อนให้มัน ตั้งแต่เริ่มการเดินทางครั้งนี้เนี้ยหลี่ก็ป้อนพลังให้เจ้าไข่มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว รอยร้าวเก่าบนผิวไข่ยังไม่มีทีท่าว่าจะปริแตกเพิ่มแต่อย่างใด ทว่าเจ้าไข่มันกลับดูดเอาพลังเข้าไปเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าว่าจะพอ ดูจากภายนอกเจ้าไข่ยังดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เนี้ยหลี่รู้สึกได้ว่าเสียงหัวใจเต้นที่ดังออกมาจากไข่นั้นมันค่อยๆเต้นแรงขึ้นอย่างช้าๆ ทั้งสายสัมพันธ์วิญญาณที่เนี้ยหลี่มีกับเจ้าไข่นี่ก็เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ตอนนี้เนี้ยหลี่ยังคงป้อนพลังให้เจ้าไข่อยู่เรื่อยๆ ดูท่าว่ากว่ามันจะฟักคงใช้เวลานานพอดู หลังจากป้อนพลังให้เจ้าไข่จอมละโมภไปจำนวนมาก เนี้ยหลี่ก็เริ่มฝึกตนต่อ
ในขณะที่เนี้ยหลี่กำลังฝึกตนอยู่นั้น ตำราจิตอสูรชั่วขณะทั้งสองหน้าที่ซ่อนอยู่ในซอกเสื้อหน้าอกก็ค่อยๆเรืองแสงจางๆออกมาและคลุมร่างเนี้ยหลี่เอาไว้ เวลาผ่านไปไม่นาน พลังวิญญาณของเนี้ยหลี่ก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นจนในที่สุดก็บรรลุถึงระดับแบล็คโกลขั้นที่ 3 ด้วยขอบเขตวิญญาณที่มีกับเพื่อนๆ เนี่ยหลี่รู้สึกได้เลยว่าการที่แต่ละคนฝึกได้รวดเร็วนั้นเป็นผลมาจากต้วนเจี้ยนที่บรรลุถึงระดับตำนานแล้ว ซึ่งตอนนี้นั้นในกลุ่มของเนี้ยหลี่นั้นส่วนใหญ่ก็ได้บรรลุถึงระดับแบล็คโกลด์ขั้นที่ 4 กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การฝึกตนของพวกนั้นรวดเร็วกว่าเนี่ยหลี่มาก อาจเป็นเพราะการฝึกตนด้วยเทคนิคเทพวิถีฟ้า[Heavenly God]นั้น หากเทียบกับคนอื่นแล้วถือว่ามีอัตราการเติบโตช้าที่สุด แต่หากเทียบทางด้านความแข็งแกร่งแล้ว ทักษะนี้ก็แข็งแกร่งมากที่สุดเช่นกัน ผ่านไปสักพัก หลู่เปียวก็มาหาที่พักชั่วคราวของเนี้ยหลี่และร้องโหวกเหวกว่า
“ เนี้ยหลี่! ข้าได้ยินข่าวจากพวกตระกูลผนึกหยกว่า พวกคนหนุ่มสาวจากนานาตระกูลได้ไปไล่ล่าอะไรบางอย่างที่เรียกว่า ‘ผลจิตต้นกำเนิด’ บนชั้นหนึ่งของหอคอยมรณะ เห็นเขาเล่ามาว่าเจ้าผลไม้นี่สามารถเพิ่มพลังให้คนใช้ได้มากโขเลยนะ! ”
“ ผลจิตต้นกำเนิด? ” พอได้ยินหลู่เปียวว่า ยู่เหยียนก็พุ่งขึ้นมานั่งบนไหล่ของเนี่ยหลีแล้วพูดว่า “ ผลจิตต้นกำเนิดนั้นหายากมาก มีข่าวลือว่ามันจะเกิดแถวๆที่มีซากศพนักรบตายกองๆกัน และผลไม้นี่ยังมีพลังที่บริสุทธิ์มาก หากเจ้าพบมัน มันจะมีประโยชน์กับการฝึกตนของเจ้ามาก บางทีอาจจะทำให้เจ้าบรรลุถึงระดับตำนานในครั้งเดียวเลยก็ได้ ”
ได้ยินแบบนี้เนี้ยหลี่ก็หยุดคิดชั่วครู่ มันคงจะดีไม่น้อยหากพวกเขาได้เจ้าผลไม้นี่มาไว้ในครอบครองก่อนที่หอคอยมรณะชั้นที่เจ็ดจะเปิด “ ไปบอกคนอื่นว่าเราจะมุ่งหน้าไปยังชั้นแรกของหอคอยกัน ไปดูซิว่าในหอคอยมรณะมันจะเป็นยังไง! ” พอตัดสินใจได้เนี้ยหลี่ก็รีบกล่าวออกมาทันที
“ ได้เลย เดี๋ยวข้าจะไปบอกคนอื่นให้ ” ได้ยินเนี้ยหลี่พูดเช่นนี้ หลู่เปียวก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาซะอย่างนั้น
จบตอน
แปลไทยโดย
ขอบคุณมากครับสนกมากดูทุกครึ่งชั่วโมงเลยครับ
ตอบลบบอบคุมากครับ
ตอบลบขอบคุณค้าบ ^_^ ตั้งตารอ ตอนต่อไป อึบๆ สู้ๆ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุนคับ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณมากครับ ชักสนุกขึ้น ทุกตอนๆ แล้วสิ
ตอบลบขอบคุณมากครับ ชักสนุกขึ้น ทุกตอนๆ แล้วสิ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบพระคุณมากครับ
ตอบลบขอบคุณคร้าฟ
ตอบลบ555 สนุกคับคอบคุณ
ตอบลบผมอยากเข้ากลุ่มทางเฟชต้องทำไงหรอครับ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบขอบพระคุณขอรับ
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบเห้ออออ....ขอบคุณมากคร้าบ
ตอบลบ.....จากผู้เสพติดการอ่าน
ขอบคุนคับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ