บทที่ 212 - วู่หมาน
ตูม! ตูม! ตูม!
ขอบเขตจิตวิญญาณของเนี้ยหลี่เกิดการระเบิดขึ้น
เวลาผ่านไปขอบเขตจิตวิญญาณได้ขยายตัวมากไปอีก หลังจากที่มันขยายตัวหลายๆครั้ง
ในที่สุดมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เฉกเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงของเขาทุกครั้ง มันน่าตกใจจิงๆ
ตูม!
เกิดออร่าขึ้นรอบๆร่างกายเขา ในที่สุดเขาก็เลือนไปสู่ระดับแบล็กโกลขั้นที่ 1 จากระดับโกลขั้นที่ 5
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เขายังคงไม่หยุดกลืนกินจิตอสูรเพื่อที่จะก้าวไปสู่ระดับที่สูงกว่าเดิม แต่ทว่าอสูรแพนด้าเขี้ยวนั้นมีการเติบโตที่ดีกว่าเนี้ยหลี่เสียอีก มันเลื่อนเข้าสู่ระดับแบล็กโกลขั้นที่ 2 และยังคงเติบโตต่อไป จนมันไปถึงระดับแบล็กโกลขั้นที่ 3 โดยที่การเติบโตนี่ยังคงดำเนินต่อไป เขากังวลว่าหากอสูรแพนด้าเขี้ยวเติบโตเร็วเกินไป เกรงว่าเขาจะสูญเสียการควบคุมมัน
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เขายังคงไม่หยุดกลืนกินจิตอสูรเพื่อที่จะก้าวไปสู่ระดับที่สูงกว่าเดิม แต่ทว่าอสูรแพนด้าเขี้ยวนั้นมีการเติบโตที่ดีกว่าเนี้ยหลี่เสียอีก มันเลื่อนเข้าสู่ระดับแบล็กโกลขั้นที่ 2 และยังคงเติบโตต่อไป จนมันไปถึงระดับแบล็กโกลขั้นที่ 3 โดยที่การเติบโตนี่ยังคงดำเนินต่อไป เขากังวลว่าหากอสูรแพนด้าเขี้ยวเติบโตเร็วเกินไป เกรงว่าเขาจะสูญเสียการควบคุมมัน
อสูรแพนด้าเขี้ยวมีอัตราการเจริญเติบโตระดับพระเจ้าและมีความแข็งแกร่งมาก
นี่แค่กลืนกินจิตอสูรแค่ระดับทั่วๆไปเอง หากให้มันได้กินระดับแบล็กโกลละ คงยากที่ใครจะจินตนาการถึงความรวดเร็วของการเติบโตเป็นแน่
พวกคนที่เหลือเองที่เป็นเหมือนเนี้ยหลี่ พวกเขาดูดกลืนพลังวิญญาณและอานุภาพแห่งกฎ ผลกระทบนี้ทำให้เกิดการสะสมพลังวิญญาณและอานุภาพแห่งกฎรอบตัวมากกว่าปกติหลายร้อยเท่า มิหนำซ้ำพลังที่ออกมาจากร่างกายของเนี้ยหลี่มันถูกกั่นกรองจนทำให้พวกเขาดูดซึมง่ายเข้าไปอีก
พวกเขานั้นดูดพลังกันอย่างบ้าคลั่ง และทำให้เห็นได้ชัดเลยว่าการบ่มเพาะพลังนั้นดีขึ้น
วันแรกนั้นได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ระดับพลังของพวกเขานั้นเพิ่มขึ้นอย่างน้อยที่สุดก็ 1 ขั้น แต่ทว่าพวกเขานั้นก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดทำเลย
เอียมัวและเอียเซิ่งรับรู้ได้ถึงออร่าแปลกๆภายในคฤหาสน์เจ้าเมือง พวกเขาเหลือบมองไปยังลานฝึกของเอียจืออวิ้นเห็นอาณาเขตวิญญาณขนาดมหึมา จนทำให้รู้สึกตกใจ
"เด็กพวกนี้กำลังทำอะไรกัน" เอียมัวขมวดคิ้วพูดกับตัวเองเบาๆ มันช่างเป็นพลังงานขนาดมหึมาที่น่าเกรงขามยิ่งนัก
เอียเซิ่งจ้องมองไปที่เนี้ยหลี่และพวกที่เหลือ เขารู้สึกตกใจและกล่าวว่า"ไอ้เด็กเวรเนี้ยหลี่อาจจะมีอาณาเขตวิญญาณลึกลับที่ไหนสักแห่งเป็นแน่ ถึงได้มีการบ่มเพาะพลังได้แบบนี้"
รูปแบบจารึกนี้ลึกลับอย่างมาก แม้แต่เอียมัวเองก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ เอียมัวเองก็รู้สึกว่าเนี้ยหลี่นั้นเป็นบุคคลที่ลึกลับยากแก่การเข้าถึง อย่างไรก็ตามเอียเซิ่งก็เคยบอกกับเขาเช่นกันว่าเนี้ยหลี่นั้นมีอาจารย์ลึกลับคอยสอน เอียมัวจึงไม่ได้เป็นกังวลมากนักเกี่ยวกับพลังอันนี้ เขาไม่ทราบว่าอาจารย์เนี้ยหลี่นั้นอาศัยอยู่ที่ใดแต่ก็คงเป็นปรมาจารย์สูงสุดแน่ๆ
รูปแบบจารึกนี้ลึกลับอย่างมาก แม้แต่เอียมัวเองก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ เอียมัวเองก็รู้สึกว่าเนี้ยหลี่นั้นเป็นบุคคลที่ลึกลับยากแก่การเข้าถึง อย่างไรก็ตามเอียเซิ่งก็เคยบอกกับเขาเช่นกันว่าเนี้ยหลี่นั้นมีอาจารย์ลึกลับคอยสอน เอียมัวจึงไม่ได้เป็นกังวลมากนักเกี่ยวกับพลังอันนี้ เขาไม่ทราบว่าอาจารย์เนี้ยหลี่นั้นอาศัยอยู่ที่ใดแต่ก็คงเป็นปรมาจารย์สูงสุดแน่ๆ
1 วันผ่านไป 2 วันผ่านไป 3 วันผ่านไป
เนี้ยหลี่และพรรคพวกตั้งหน้าตั้งตาฝึกต่อไปโดยไม่มีท่าทีจะหยุดพัก จากการที่พวกเขานั้นดูดกลืนพลังวิญญาณและอานุภาพแห่งกฎนั้นทำให้พวกเขาไม่ได้รู้สึกหิวแต่ประการใดและมันส่งให้พวกเขาเข้าสู่การบ่มเพาะพลังรูปแบบ ไร้ตัวตน (อนัตตา)
ในวันที่ 5 เนี้ยหลี่เลื่อนไปสู่ระดับแบล็คโกลขั้นที่ 2 ส่วนอสูรแพนด้าเขี้ยวนั้นไปถึงระดับแบล็กโกลขั้นที่ 5 ใกล้จะถึงระดับตำนานแล้ว
แพนด้าเขี้ยวอสูร ณ จุดจุดนี้ ได้กลืนกินจิตอสูรระดับแบล็คโกลไปกลายร้อยดวงแล้ว
เนี้ยหลี่พบว่าอสูรแพนด้าเขี้ยวนั้นเริ่มต่อต้านและไม่ฟังคำสั่งเขาอีกต่อไป
หากจิตอสูรนั้นแกร่งกว่าร่างทรงอสูรมันจะส่งผลให้จิตอสูรตนนั้นสามารถแยกตัวออกไปจากร่างทรงอสูร
ถ้ายังคงให้มันกลืนกินต่อไปอาจจะแย่ก็ได้ อย่างไรก็ตามเขานั้นหาได้ต้องการที่จะหยุดไม่ เพราะว่าอสูรแพนด้าเขี้ยวนั้นยังคงแกร่งไม่พอกับอันตรายที่จะเกิดในเร็วๆนี้ เนี้ยหลี่ทำการเรียกเถาวัลย์จากส่วนลึกของขอบเขตจิตวิญญาณเขา
เถาวัลย์นั้นเชื่อมโยงกับอสูรแพนด้าเขี้ยวและอสูรเงาพราย เพื่อที่จะลดการต่อต้านของอสูรแพนด้าเขี้ยว
ต่อจากนั้นเขาจึงปล่อยให้อสูรแพนด้าเขี้ยวดูดกลืนต่อไปเพื่อมุ่งสู่ระดับตำนาน
หลังจากที่คิดเขาก็เริ่มทำ เขาปล่อยพลังวิญญาณและอานุภาพแห่งกฎให้เถาวัลย์ดูดกลืน จากนั้นมันก็ใหญ่ขึ้นๆ จนรัดเจ้าอสูรแพนด้าเขี้ยวอย่าแน่นหนา
เจ้าอสูรแพนด้าเขี้ยวพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากเถาวัลย์นั้นแข็งแรงเกินไป
เจ้าอสูรแพนด้าเขี้ยวหยุดดิ้นรนขัดขืน และมันยังคงดูดกลืนวิญญาณต่อไปเพื่อรอโอกาสนั้นการต่อต้านอีกครา
ณ ตอนนี้เนี้ยหลี่นั้นสามารถควบคุมเจ้าอสูรแพนด้าเขี้ยวได้แล้วแต่ทว่าเขายังคงต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะการต่อต้านของจิตรอสูรนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ
หลังจากที่กลืนกินจิตอสูรไปหลายหมื่นดวง เจ้าอสูรแพนด้าเขี้ยวก็ดูดซับพลังงานบางส่วน เพียงแค่นี้ก็สามารถข้ามไปสู่ขีดจำกัดระดับแบล็กโกลขั้นที่ 5 แล้ว แต่ทว่าการเลื่อนไปสู่ระดับตำนานก็ยังยากเย็นอยู่ดี
เนี้ยหลี่และพรรคพวกต่างบ่มเพาะพลังกัน ขอบเขตนี้ จะคงอยู่ได้เพียง 2 เดือน
ขณะที่เนี้ยหลี่และพรรคพวกนั้นกำลังมุ่งมั่นฝึกฝนอยู่นั้น เมฆดำก็ได้ปกคลุมเหนือเมืองกลอรี่
ความรู้สึกกดดันแผ่ขยายไปทั่วเมือง
ผู้เชี่ยวชาญหลายสิบคนเหาะอยู่บนท้องฟ้าพวกเขาไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป พวกมันมีปีกสีดำงอกอยู่บนหลัง และมีลักษณะที่น่าเกียจมากๆ หัวหน้าของมันเป็นระดับตำนาน
"นี่คือเมืองกลอรี่ที่เจ้าเอียฮั่นพูดถึง มันช่างรุ่งเรืองกว่าเมืองศิลาทมิฬของเราเป็นไหนๆ เป็นสถานที่ที่ดีจิงๆ แต่เสียดายพวกมันไม่ได้มีผู้เชี่ยวชาญมากมายนัก สวรรค์เข้าข้างข้าแล้ว ดูเหมือนมันจะเป็นของเราตระกูลวู่กุ๋ยแน่ๆ"วู่หมานผู้นำกลุ่มและคนอื่นๆหัวเราะ เสียงของพวกเขาดังไปทั่วท้องฟ้า
วู้วว วู้วว วู้วว
หลายสิบคนได้เริ่มบินมา, หัวหน้าของพวกมันคือเอียมัว เขานั้นมีพลังไม่ได้อ่อนกว่าผู้เชี่ยวชาญตระกูลวู่กุ๋ยเลยแถมเขายังเข้าถึงอานุภาพแห่งกฎได้แล้วด้วย
"ผู้มาเยือน จากตระกูลวู่กุ๋ย หากพวกท่านมาในฐานะแขก ข้านั้นพร้อมที่จะต้อนรับ แต่หากมาเพื่อสร้างปัญหาแล้วละก็ อย่าตำหนิข้าภายหลังก็แล้วกัน" เอียมัวประกาศ เสียงนั้นเป็นดังคลื่นกระจายทั่วท้องฟ้า
เอียมัวคิดว่าคนพวกนี้มาแค่สอดแนมเท่านั้น มีเพียง 1 คนเท่านั้นที่เป็นระดับตำนาน ส่วนกองทัพหลักของตระกูลวู่กุ๋ยคงจะยังอยู่อีกไกล
วู่หมานขมวดคิ้ว ตามที่เอียฮั่นบอกมีเพียงระดับตำนานเพียง 2 คนในเมือง 1 ใน 2นั้นเพิ่งจะเลื่อนเป็นไม่นานมานี้ ส่วนอีก 1 นั้นลึกลับมากและแทบจะไม่ปรากฎตัวออกมาเลย แม้แต่เอียฮั่นเองก็แทบจะไม่ได้เห็นเขาเลย ดังนั้นเขาคิดว่าคนที่ประกาศเป็นคนที่เพิ่งจะเลื่อนขั้นสู่ระดับตำนาน แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเข้าถึงอานุภาพแห่งกฎได้ด้วย
วู่หมานเขาเป็นถึงระดับตำนานขั้นสุดท้ายกำลังจะเข้าถึงระดับเซียน เป็นธรรมดาที่เขาไม่จำเป็นต้องกลัวใคร
"ถ้าท่านต้องการให้ข้ามาในฐานะแขกงั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของท่านแล้ว ข้าจะทดสอบด้วยการบ่มเพาะละกัน" วู่หมานตะโกนแล้วยกมือขึ้นรวบรวมรัศมีแห่งความมืดแล้วนำมันไปใส่ลงบนดาบแล้วฟันไปยังเอียมัว
เขารีบผสานจิตอสูรทันที กลายเป็น วิหคศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์
ปีกสีทองงอกออกมาจากหลังเอียมัว พุ่งเข้าหาวู่หมานทันที
ตูม! ตูม! ตูม!
ดาบสีดำระเบิดกระจายบนท้องฟ้า บนท้องฟ้านั้นปรากฎรูปของสีดำและสีทองต่อสู้กันอย่างดุเดือด มันเป็นฉากต่อสู้ที่ไวมากและไวมากขึ้นเรื่อยๆ
คลื่นพลังงานอันน่ากลัวได้เกิดขึ้นส่งผลให้ที่รอบๆนั้นเกิดการสั่นไหวภาพที่คนอื่นๆเห็นนั้นดูราวกับว่าพวกเขาพยายามฉีกท้องฟ้า
นี่สินะ การประลองระหว่างระดับตำนานสูงสุด 2 คน
ในระหว่างการประลองนั้นพวกเขาได้ทิ้งร่องรอยอานุภาพแห่งกฎของกันและกันแม้ว่าวู่หมานนั้นยังไม่สามารถเข้าถึงอานุภาพแห่งกฎได้แต่เขานั้นก็ได้เริ่มสัมผัส ขอบเขตของมันแล้ว แต่ทว่าสำหรับเอียมัวนั้นอีกเพียวแค่ก้าวเดียวก็ถึงระดับเซียนแล้ว
ตูม!
เกิดการระเบิดขึ้นมาส่งผลให้วู่หมานกระเด็นออกมาพร้อมกับเลือดที่มุมปาก เอียมัวนั้นจัดการเขาได้โดยไม่กี่กระบวนท่า
"ข้าไม่นึกเลยว่าท่านนั้นเก่งกว่าข้าทั้งๆที่เราทั้งคู่นั้นก็เป็นระดับตำนานสูงสุดแท้ๆ"วู่หมานพูด เขานั้นไม่ยอมแพ้ และส่งท่าทีเย็นชาใส่เอียมัว "ถึงแม้ที่นี่จะมี ระดับตำนาน 2 คน แต่มันไม่มีทางที่จะต่อต้านตระกูลของข้า ตระกูลข้ามีระดับเซียนถึง 3 คน และระดับตำนานอีก 10 คน เมื่อกองทัพข้ามาถึงทั้งเมืองจะพังพินาศ ข้าจะให้โอกาศเจ้า จงก้มหัวให้กับตระกูลข้าแล้วข้าจะละเว้นชีวิตทุกคน"
"ฮึ่ม! มันไม่ง่ายนักหรอกที่จะทำลายเมืองของข้า หากตระกูลเจ้าต้องการบุกตี ก็จงมา"เอียมัวกล่าวพร้อมท่าทีเย็นชา เขาปล่อยออร่าที่ดูแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีกหลังจากถูกข่มขู่
"ถ้าเป็นแบบนั้น อย่าหาว่าข้าหยาบคายก็แล้วกัน"เสียงแหลมๆออกมาจากปากวู่หมาน
"ถ้าเป็นแบบนั้น อย่าหาว่าข้าหยาบคายก็แล้วกัน"เสียงแหลมๆออกมาจากปากวู่หมาน
จากป่าภูเขาระยะไกล วูส วูส วูส เงาดำจำนวนนับไม่ถ้วนบินมาทางเมืองกลอรี่ เงาเหล่านี้ปกคลุมท้องฟ้าดังฝูงตั๊กแตน
หลังจากที่เห็นแบบนี้ เอียมัวนั้นก็ขมวดคิ้วและหัวไปสบตากับเอียเซิ่ง เอียเซิ่งพยักหน้าพร้อมกับพุ่งไปยังอาณาเขตหมื่นอสูร เพื่อทำให้มันพร้อมใช้งาน ส่วนเอียมัวเขาเตรียมจะเรียกใช้งานเทพสถิตแห่งวายุเหมันต์อยู่ตลอดเวลา
เอียมัวไม่ได้หยุดโจมตีพวกตระกูลวู่กุ๋ย พายุหิมะเริ่มปดคลุมท้องฟ้าจนทำให้มันเริ่มกลายเป็นสีเทา
"มีเพียงเจ้าผู้เดียวที่กล้าท้าทายกับตระกูลข้า ถึงเจ้าจะแข็งแกร่งแต่ก็ยังคงห่างไกลอยู่ดี" เขามองดูผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานที่กำลังบินมาทางเขา วู่หมานนั้นมีท่าทีดุร้ายขึ้น และมีพลังงานที่หน้ากลัวประทุขึ้นภายในร่างกายเขา เขาได้ปล่อยหมัดใส่เอียมัว
เอียมัวปล่อยแสงจากดวงตา เขาเร่งพลังเพิ่มกว่าเดิม ตอนที่เขาได้ต่อสู้ก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้ใช้พลังเต็มที่เลย เขาคิดว่าหากไม่รีบฆ่าวู่หมานตอนนี้คงจะไม่มีโอกาสในครั้งหน้า
เอียมัวสร้างน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนและยิงไปยังวู่หมาน
วู่หมานนั้นไม่ได้รู้สึกกลัวขึ้นมาเลย เขาเป็นคนจากตระกูลวู่กุ๋ย ดังนั้นเขาจึงมั่นใจในพลังด้านร่างกายของเขา ถึงมันเป็นการต่อสู้ที่ทรงอานุภาพ เขาควรที่จะกลัวเจ้ามนุษย์คนนี้ด้วยเหรอ?
ตูม! ตูม! ตูม!
เสาน้ำแข็งระดมยิงไปยังร่างกายของวู่หมานจนแทบระเบิดและกลายเป็นเกล็ดหิมะ
"เจ้าเฒ่า เจ้าจะสู้กับข้าด้วยการโจมตีเด็กๆ เช่นนี้หรือ ?"วู่หมานกำหมัดและพุ่งไปยังเอียมัว
จบตอน
แปลไทยโดย
คนแรก หลังจาก ที่ F5 เกือบพัง ฮ่าๆๆ ขอบคุณผู้แปล มากๆ ครับ
ตอบลบขอบคุณครับ แต่ค้าง T^T
ตอบลบขออีก
ตอบลบขออีก
ตอบลบขอบคุณครับ รอตอนต่อครับ
ตอบลบขอบคุณครับ รอตอนต่อครับ
ตอบลบขอบคุณครับ เอาอีกกกกกก กะ ลังมันเบย
ตอบลบขอบคุณครับ เอาอีกกกกกก กะ ลังมันเบย
ตอบลบสุดๆเลยค้าบบบบ
ตอบลบกดรีเฟรชรัวๆๆๆไไๆ
ตอบลบกดรีเฟรชรัวๆๆๆไไๆ
ตอบลบขอบคุณผู้แปลอย่างสูงครับ
ตอบลบรอตอนใหม่อย่างใจจดจ่อ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบขออีกตอนเถอะ
ตอบลบขออีกตอนเถอะ
ตอบลบplzzzzzzzzzzzzz
ตอบลบเฝ้ารอทุกวัน ขอบคุณครับ
ตอบลบตอนใหม่ยังไม่มาเหรอT T
ตอบลบตอนใหม่ยังไม่มาเหรอT T
ตอบลบมันสะใจ
ตอบลบแปลวันละตอนเหรอครับ T-T
ตอบลบแปลวันละตอนเหรอครับ T-T
ตอบลบขอบคุณค้าบ รอๆๆๆ สู้ๆ ^_^
ตอบลบขอบคุมากๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบคนแปล แปลตั้งนาน คนอ่านแมร่งไม่ถึง 5 นาที เข้าใจนะแอดว่าเหนื่อย สู้ ๆ นะครับ
ตอบลบเป็นกำลังเสริม เห้ย กำลังใจ เห้ย กำลังไป อันที่สองอะถูกแล้ว 555+
ใดเวลาต้อนไก่เข้าโรงเชือดแล้ว ^=^
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบ