วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

บทที่ 197 - สรีระเทพ

บทที่ 197 - สรีระเทพ

“เริ่มแรกข้าควรทำอะไรก่อน” เนี้ยหลี่ เอ่ยถาม

“ขั้นแรกเจ้าควรจะเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายก่อน แอ่งน้ำสีดำที่เจ้าเห็นนี้มีพลังส่วนหนึ่งจากจิตเทพของข้า ข้าจะเปิดบาเรียแล้วให้เจ้าไปแช่ในนั้น มันจะทำให้ร่างกายของเจ้าแข็งแกร่งขึ้น เพราะหากเจ้าสัมผัสถึงอานุภาพแห่งกฏได้ในขณะที่ร่างกายเจ้ายังแข็งแกร่งไม่พอ ตัวเจ้าจะรับพลังไม่ไหวและร่างกายจะถูกทำลาย” ยู่เหยียนกล่าวพร้อมทั้งอดไม่ได้ที่จะระบายยิ้มเจื่อนๆออกมา เนี้ยหลีจะอยู่ที่นี่ไม่นาน และหากเขาบังเอิญสัมผัสถึงอานุภาพแห่งกฏได้ล่ะก็ ร่างกายเขาก็คงยังแข็งแกร่งไม่พอเป็นแน่ แต่เมื่ออีกฝ่ายอยากลองดูเธอก็ไม่ห้ามอะไร “พลังในแอ่งน้ำนี้แข็งแกร่งมาก เมื่อเจ้าลงไปแช่ได้สักนาทีกว่า เจ้าจะรู้สึกเหมือนกับผิวหนังของเจ้ากำลังถูกแผดเผา หากถึงจุดที่เจ้าทนไม่ไหวก็ให้รีบออกมาล่ะ”

“ตกลง” เนี้ยหลีพยักหน้ารับ ก่อนจะเตรียมตัวโดดลงไปในแอ่งน้ำ

“ถอดชุดของเจ้าออก” ยู่เหยียนเอ่ยเสียงเรียบ

เนี้ยหลีรู้สึกลำบากใจขึ้นมาทันที เขาไม่เคยเปลื้องผ้าต่อหน้าผู้หญิงคนอื่นมาก่อนเลยนอกจากเอียจืออวิ้น เนี้ยหลี่เงยหน้ามองอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยว่า “พี่เทพธิดา ท่านคงไม่แอบดูข้าหรอก...ใช่มั้ย?”

ได้ยินที่เนี้ยหลีกล่าว ยู่เหยียนก็ขมวดคิ้วงุ่น หัวของเจ้าเด็กนี่มันกี่ขวบกัน? เธอคือเทพธิดาที่อยู่มาหลายหมื่นปีแล้ว ทำไมเธอจะมาต้องแอบมองเนี้ยหลีด้วย? สมมติต่อให้เธอเห็นไอ้นั่นก็เถอะ แล้วมันยังไงล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นมาก่อนหนิ แถมหากเธออยากดูไอ้นั่นจริงๆ ต่อให้เนี้ยหลีใส่เสื้อผ้าก็หยุดเธอไม่ได้หรอก

“ข้าไม่ดูหรอก!” ยู่เหยียนกล่าวเสียงแผ่ว เธอยังคงมีอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างหลงเหลือเหมือนดั่งตอนเธอเป็นมนุษย์อยู่ เพราะงั้นบางเหตุการณ์เธอก็ยังคงแสดงอารมณ์ออกมาได้ตามปกติ แต่ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ เธอจะไม่สามารถสนุก หัวเราะ หรือโกรธได้เลย

เนี้ยหลีเพิ่งนึกได้ว่าร่างกายของตนตอนนี้ยังเป็นเด็ก หลังจากคิดได้เช่นนี้ เขาก็รีบเปลื้องผ้าออกทันทีก่อนจะกระโดดลงไปในแอ่งน้ำ

รู้สึกมันจะมีพลังอะไรบางอย่างอยู่ในแอ่งน้ำสีดำนี่จริงๆ พลังนี้มันบริสุทธิ์กว่าพลังวิญญาณเสียอีก มันบริสุทธิ์เสียจนเนี้ยหลีรู้สึกว่าผิวตนเริ่มจะไหม้ เห็นแบบนี้เนี้ยหลีจึงเปิดขอบเขตวิญญาณของตนทันทีก่อนจะเริ่มดูดซับพลัง

บู้ม! บู้ม! บู้ม!

ขอบเขตวิญญาณของเนี้ยหลีเริ่มซึมซับเอาพลังบริสุทธิ์นี้เข้าไปเรื่อยๆ ซึ่งทันทีที่เนี้ยหลีเปิดขอบเขตวิญญาณ ความรู้สึกแสบร้อนก็ค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ พลังงานส่วนหนึ่งไหลลงไปในก้นบึ้งของขอบเขตวิญญาณเนี้ยหลี่เรื่อยๆก่อนจะหายไป ขอบเขตวิญญาณของเนี้ยหลีนั้นเปรียบเสมือนกับหลุมดำเล็กๆ ที่ถึงแม้จะซึมซับพลังงานไปมากขนาดไหนก็ไม่รู้สึกลำบากอะไรเลย ส่วนพลังงานอีกส่วนก็หลอมเข้ากับร่างกายของเนี้ยหลีและค่อยๆทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้น

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับที่เนี้ยหลีได้เข้าสู่จิตสมาธิ แอ่งน้ำสีดำนี้เปรียบเสมือนกับบ่อเงินบ่อทองของผู้ฝึกตนชัดๆ เขารู้สึกได้เลยว่าร่างกายของตนนั้นค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

ยู่เหยียนทอดสายตามองไปยังเนี้ยหลี ถึงแม้เธอจะเป็นเทพสถิตที่อยู่มาหลายหมื่นปีและจิตเทพก็แตกสลายไปแล้วและอยู่ในระหว่างการรวมตัวใหม่ แต่เธอก็ยังมีตาที่พิเศษ หากเธอทอดสายตามองคนปกติคนไหน เธอจะสามารถรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไงหรือแม้แต่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ถึงกระนั้น เธอกลับมองเนี้ยหลีไม่ออกและไม่รู้อะไรเพิ่มเลย

ในตอนแรกที่เธอพบกับเนี้ยหลี ยู่เหยียนมั่นใจเลยว่าจะต้องเป็นเพราะห้วงมิติเวลาที่บิดเบี้ยวแน่ๆที่พาเขามายังที่แห่งนี้ เธอเหลือบไปมองซากกระดูกทางข้างๆแอ่งน้ำสีดำก่อนจะลอบถอนหายใจ พวกเขาพยายามพาจิตเทพที่เหลืออยู่ของเธอมาไว้ที่นี่ และเวลาก็ได้ผ่านไปนานแสนนานโดยไม่มีใครมาถึงที่นี่ได้ จนกระทั่งมีคนแรกที่เข้ามาได้ซึ่งนั่นก็คือ...เนี้ยหลี

ห้านาทีผ่านไป...สิบนาทีผ่านไป...

ยู่เหยียนพบว่าเนี้ยหลียังไม่ขึ้นจากแอ่งน้ำเลยหลังจากลงไปเป็นเวลานาน ตามปกติแล้วนั้น หากเป็นคนธรรมดาคงทนอยู่ในนั้นได้ไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ อานุภาพแห่งกฏในแอ่งน้ำสีดำนั้นมีพลังที่กล้าแข็งมาก มันไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะทนรับได้เลย เธอมองไปยังเนี้ยหลีและพบว่าอีกฝ่ายยังคงแช่อยู่ในแอ่งน้ำนั่นอยู่เหมือนเดิม ทั้งยังดูเหมือนว่าเขาจะกำลังสนุกอยู่ด้วย

ทำไมเด็กน้อยนั่นดูไม่เจ็บปวดอะไรเลยล่ะ?

“ดูเหมือนเจ้าเด็กนี่จะไม่ใช่เด็กธรรมดาๆสินะ” ยู่เหยียนคิดในใจ เนี้ยหลีได้โชว์ศักยภาพที่เหนือล้ำของตนออกมาให้เธอได้เห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอควรจะคาดหวังกับอีกฝ่ายดีไหม? หากเด็กนี่คือคนที่ใช่ล่ะก็ การกระทำของเทพสถิตแห่งห้วงมิติเวลาก็ไม่สูญเปล่าสินะ?

เนี้ยหลีรู้สึกว่าพลังของตนค่อยๆเพิ่มมากขึ้นหลังจากได้รับการบ่มเพาะพลังจากอานุภาพแห่งกฎในแอ่งน้ำนี้ ดาวดวงที่สองโผล่มา...จากนั้นก็ดวงที่สาม...ก่อนจะหยุดที่ดวงที่ห้า เนี้ยหลีรู้สึกว่าพลังของตนได้เพิ่มขึ้นมามาก ขอบเขตวิญญาณของเขานี่มันช่างน่าเหลือเชื่อเสียจริงๆ!(แอบแถ)

ลักษณะจริงๆของอานุภาพแห่งกฏคือพลังวิญญาณจริงๆด้วย ต่างกันเพียงแค่ว่ามันบริสุทธิ์กว่าพลังวิญญาณปกติมาก

ภายใต้อานุภาพแห่งกฎ พลังวิญญาณในขอบเขตวิญญาณของเนี้ยหลีก็ค่อยๆเปลี่ยนไป การฝึกตนแบบนี้เร็วกว่าการใช้ศิลาหมอกม่วงมาก และเพราะเหตุนี้พลังในตัวเนี้ยหลีก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตามปกตินั้น หากเนี้ยหลี่ที่ปัจจุบันอยู่ระดับโกลขั้นที่3ต้นๆ อยากจะเลื่อนเป็นขั้นที่4 จะต้องใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนกว่า แต่หลังจากดูดซับเอาอานุภาพแห่งกฏเข้าไป พลังของเขาตอนนี้ก็มาถึงระดับโกลขั้นที่3สุดท้ายแล้ว

ขอบเขตวิญญาณของเนี้ยหลี่ยังคงขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงขอบเขตที่มันจะรับได้ เวลายังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งมีเสียง ‘บู้ม’ เกิดขึ้น เสียงมันดูราวกับม้าคลั่งที่หลุดจากบังเหียนก็มิปาน พลังวิญญาณไหลไปทั่วตัวเนี้ยหลี่อย่างรวดเร็ว

เนี้ยหลี่ไม่คิดเลยว่าตนจะเลื่อนขั้นมาถึงระดับโกลขั้นที่4ได้เร็วขนาดนี้ อานุภาพแห่งกฏช่างอัศจรรย์เสียจริงๆ

หลังจากเลื่อนขั้นเป็นระดับโกลขั้นที่4 ขอบเขตวิญญาณของเนี้ยเหลียก็ขยายใหญ่กว่าเดิมไปอีกหลายเท่า อานุภาพแห่งกฏก็ไหลเข้าไปเติมเต็มทันที

ขอบเขตวิญญาณของเนี้ยหลีได้ดูดซับอนุภาพแห่งกฎอย่างบ้าคลั่งพร้อมๆกับที่มันค่อยๆขยายขึ้น
ในตอนแรกที่เนี้ยหลี่ได้ลงไปในแอ่งน้ำสีดำนี้ อานุภาพแห่งกฎที่อยู่เหนือผิวน้ำดูเหมือนจะมีมากพอให้เนี้ยหลี่ดูดซับ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ อานุภาพแห่งกฎบนผิวน้ำกลับเริ่มไม่พอสำหรับเนี้ยหลี่แล้ว 
พอเห็นเนี้ยหลี่เป็นแบบนี้ ยู่เหยียนก็อดที่จะตกใจไม่ได้ อานุภาพแห่งกฎภายในแอ่งน้ำสีดำนี้มีจำนวนมหาศาลมาก ซึ่งพลังที่เนี้ยหลี่ได้ดูดซับเข้าไปนั้นมันมากพอที่จะทำให้นักสู้ระดับแบล็คโกลด์หรือระดับตำนานตัวระเบิดได้เลย ทั้งๆที่เขายังอยู่เพียงแค่ระดับโกลเท่านั้น!

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ยู่เหยียนรู้สึกสงสัยในตัวอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก นักสู้ระดับโกลสามารถดูดซับเอาพลังที่มากขนาดนี้โดยไม่เป็นอะไรได้อย่างไร? พลังที่เนี้ยหลี่ดูดซับเข้าไปมันไปโผล่ที่ไหนกัน? ขอบเขตวิญญาณของระดับโกลมันควรจะมีขีดจำกัดสิ!

ในขณะที่ยู่เหยียนกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นนั้น เนี้ยหลี่ก็รู้สึกว่าอานุภาพแห่งกฎที่อยู่บนผิวน้ำเริ่มจางลงจนไม่พอให้เขาดูดซับแล้ว เนี้ยหลี่จึงค่อยๆปล่อยตัวให้จมลงจนเขารู้สึกได้ว่าอานุภาพแห่งกฎเริ่มจะหนาขึ้นเรื่อยๆ

ตอนนี้เนี้ยหลี่ดูราวกับเรือที่กำลังจม เขาปล่อยตัวให้จมลงไปเรื่อยๆเพื่อที่จะดูดซับอานุภาพแห่งกฎให้มากขึ้น และยิ่งเข้าทิ้งตัวลงไปลึกเท่าไหร่ พลังที่มีให้ดูดซับก็มากขึ้นเท่านั้น

เห็นการกระทำของเนี้ยหลี่ ยู่เหยียนที่กำลังลอยอยู่เหนือแอ่งน้ำสีดำก็หน้าเปลี่ยนสี

“ออกมา ออกมาเดี๋ยวนี้!” ยู่เหยียนเพรียกร้องเหนือแอ่งน้ำ ถึงแม้วิญญาณของเธอจะรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ดั่งใจนึก

ซึ่งเนี้ยหลี่ในตอนนี้จิตใจกำลังอยู่ในสมาธิ ทำให้เขาไม่ได้ยินเสียงยู่เหยียนเลย

ถึงแม้ว่าเนี้ยหลี่จะอยู่ใต้ผิวน้ำลึก แต่เขาก็จะไม่จมน้ำตายต่อให้อยู่ในนั้นครึ่งค่อนวันก็เถอะ นี่เป็นเพราะเขาได้ปิดผนึกสัมผัสทั้งหกไปเรียบร้อยแล้ว เหลือไว้เพียงแต่แสงน้อยๆพอให้ตัวเองมองเห็นได้นิดหน่อยเท่านั้น

อานุภาพแห่งกฎในแอ่งน้ำสีดำนั้นค่อยๆมากขึ้นๆ และดูเหมือนว่ามันกำลังพยายามอัดพลังเข้าใส่ตัวเนี้ยหลี่เรื่อยๆราวกับว่ามันอยากให้ตัวเนี้ยหลี่ระเบิดอย่างไรก็ไม่รู้

เนี้ยหลี่ยังคงเปิดขอบเขตวิญญาณเพื่อรับเอาพลังอยู่เรื่อยๆ พลังของเขาค่อยๆเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆจนยู่เหยียนถึงกับต้องตกใจอีกครั้ง เนี้ยหลี่ดูดซับพลังเข้าไปมากขนาดนั้นโดยตัวไม่ระเบิดได้อย่างไร? ซึ่งเธอไม่รู้หรอกว่าเหตุผลที่แท้จริงนั้นเป็นเพราะขอบเขตวิญญาณพิเศษของเนี้ยหลี่นั่นเอง

ไม่ว่าพลังของอานุภาพแห่งกฎจะมากขนาดไหน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทำให้เนี้ยหลี่พอใจได้เลย
ซึ่งในขอบเขตลมปราณ ทั้งจิตอสูรแพนด้าเขี้ยวและจิตอสูรปีศาจเงาที่ได้รับพลังเข้ามามากมายก็ได้รับผลกระทับนี้ด้วย และตอนนี้เขามาถึงซึ่งระดับโกลขั้นที่5 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เนี้ยหลี่รับรู้ระดับใหม่ของตนอย่างเงียบๆ พลังที่เพิ่มขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดนี้ทำให้เนี้ยหลีอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้

จู่ๆ แสงแพรวพราวของอะไรบางอย่างก็เรียกความสนใจของเนี้ยหลี่

‘อะไรน่ะ?’ เนี้ยหลี่คิด ในใจเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ‘คงไม่ใช่ว่ามีสิ่งล้ำค่าอะไรข้างใต้แอ่งน้ำนี่หรอกนะ?’

หลังจากหยุดคิดชั่วครู่ เนี้ยหลี่ก็ว่ายไปหาแสงนั่น

และเมื่อเนี้ยหลี่เริ่มเข้าไปใกล้แสงนั่น เนี้ยหลี่ก็รู้สึกเหมือนมีคลื่นความร้อนบางอย่างพัดมาทางตน มันเป็น...อานุภาพแห่งไฟที่ทรงพลังมาก!

ลูกแสงไฟสีแดงขนาดพอๆกับก้อนหินขนาดกลางลอยอยู่ตรงหน้าเขาและกำลังเปล่งแสงเจิดจ้า
‘ดูเหมือนจะมีอะไรอยู่ข้างในนะ’ เนี้ยหลี่คิดก่อนจะพยายามเปิดเปลือกตาขึ้น เขาใช้พลังปกป้องดวงตาตัวเองเอาไว้ก่อนจะมองว่ามีอะไรอยู่ข้างในดวงไฟ

และเนี้ยหลี่ก็ตัวแข็งค้างทันทีเมื่อเห็นว่าอะไรอยู่ข้างใน

ข้างในลูกแสงสีแดงมีหญิงสาวผิวซีดคนหนึ่งที่ขนาดพอๆกับเด็กแรกเกิดนอนหดตัวอยู่ในลูกแสงนั่น ร่างของเธอดูสวยราวกับภาพนิมิตที่สามารถทำให้ชายหนุ่มทั้งหลายลุ่มหลงได้แม้เพียงแรกเห็น

แต่ถึงอย่างนั้น อรชรนางนี้กลับมีขนาดพอๆกับเด็กแรกเกิด ถ้าหากไม่ใช่เพราะร่างของเธอหดเล็กแบบนี้ คงจะมีคนหลงเธอเยอะมากเป็นแน่ ถึงแม้ตัวเธอจะเล็ก แต่มันก็ห้ามไม่ให้ผู้ที่ได้มองต้องลุ่มหลงในความงามมิได้

หากเป็นชายปกติมาเจออะไรแบบนี้ พวกเขาคงควบคุมตัวเองไม่ได้เป็นแน่ ยังดีที่คนที่อยู่ตรงหน้าร่างบางนี้คือเนี้ยหลี่

หลังจากได้เห็นทุกอย่างตรงหน้า เนี้ยหลี่ก็เริ่มเข้าใจ ลูกแสงสีแดงนี้ได้รวบรวมจิตเทพของยู่เหยียนไว้ และหญิงสาวที่อยู่ข้างในก็น่าจะเป็นยู่เหยียนที่กำลังสร้างร่างใหม่

ในอดีตชาติ เนี้ยหลี่ไม่ได้ฝึกฝนอานุภาพแห่งกฎ แต่เป็นพลังแห่งสวรรค์ที่สามารถฝ่าขึ้นไปบรรลุเป็นขั้นลิขิตสวรรค์ได้เหมือนกัน ความลึกลับของอานุภาพแห่งกฎทำให้เนี้ยหลี่รู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก พลังแห่งสวรรค์สามารถสร้างร่างใหม่ได้หากตาย แต่จิตเทพสามารถสร้างและฟื้นฟูร่างเนื้อใหม่ได้โดยใช้อานุภาพแห่งกฎ!

โลกใบนี้มันช่างกว้างใหญ่นัก มีเรื่องปริศนามากมายเต็มไปหมด

ถึงแม้สรีระเทพของยู่เหยียนจะเล็กมาก แต่ก็น่าสนใจมากเช่นกัน เนี้ยหลี่รู้สึกได้ถึงพลังที่ปล่อยออกมาจากบอลแสงนั่นได้เลย ทั้งยังเริ่มรู้สึกเหมือนตัวตัวเองกำลังร้อนขึ้นอีกด้วย

ร้อน!

เนี้ยหลี่รีบเปิดขอบเขตวิญญาณของตนทันที ภายใต้คลื่นความร้อนนี้ ขอบเขตวิญญาณของเนี้ยหลี่ก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านไปสักพัก ความรู้สึกเย็นสดชื่นก็เริ่มเข้ามาแทนที่ความร้อนเมื่อครู่ก่อนที่ผลกระทบจากคลื่นพลังจะไม่มีผลอะไรกับเขาเลย

ยังดีนะที่ขอบเขตวิญญาณของเนี้ยหลี่สามารถดูดซับเอาอานุภาพแห่งกฎไว้ได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ร่างกายเขาคงจะระเบิดออกเป็นแน่ ซึ่งต่อให้เป็นนักสู้ระดับตำนานก็คงไม่มีทางรับพลังที่ทั้งบ้าคลั่งและทรงพลังของอานุภาพแห่งกฎได้แบบเขาหรอก

แปลไทยโดย 

Ganauou H Shitai
https://www.facebook.com/groups/200491286989237/permalink/220811471623885/

6 ความคิดเห็น: