วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2559

บทที่ 188 - การเดินทาง


บทที่ 188 - การเดินทาง

บริเวณใกล้ๆจวนของ แม่นางเอียจืออวิ้น เนี้ยหลี่กำลังนั่งฝึกฝนอย่างเงียบๆ

ฉากเหตุการณ์ทั้งหมดของ เอียจืออวิ้นและ เซี่ยวหนิงเอ๋อ ก็ผลุดมาเต็มไปหมด รวมถึงฉากที่เนี่ยหลี่ประสบความสำเร็จในการกำจัดตระกูลศักดิ์สิทธิ์ที่ทรยศเมืองออกไปได้ อย่างน้อยอนาคตก็เปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว

เหลือเพียงสมาคมทมิฬ และจอมมาร เพียงเท่านั้น ซึ่งเนี้ยหลี่เองก็ยังไม่สบายใจ หากสมาคมทมิฬและจอมมาร  ยังไม่ถูกกำจัดก็ยังหายใจไม่ทั่วท้อง

ด้วยความต้องการก้าวไปสู่อันดับตำนานด้วยเวลาอันนั้นสั้นนั้น ความเร็วในการบ่มเพาะตอนนี้มันไม่เพียงพอ เขาถึงต้องหาวิธีอื่นๆเพิ่มความเร็วอีก

เนี้ยหลี่มีหลายๆไอเดียเลยปิ้งขึ้นมาในใจ,ด้วยเหตุนั้นเองเนี้ยหลี่จึงจำเป้นต้องออกไปนอกเมือง เพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึก แถมยังต้องไปค้นหาแหล่งกบดานของสมาคมทมิฬอีก

เนี้ยหลี่มองไปบนท้องฟ้าเห็น หุ่นเชิดวิญญาณของเขากำลังบินลงมาเกาะที่ไหล่ของเขา

หลังจากเนี้ยหลี่คิดไว้หลายอย่าง กล่าวให้หุ่นเชิดวิญญาณว่า “ท่านบรรพบุรุษ ข้าจำเป็นต้องออกจากเมืองไปฝึกให้เก่งขึ้น ฝากท่านส่งจดหมายให้ครอบครัวและเพื่อนๆของข้าหน่อยได้ไหม”

“เห้ย,จะไปไหนว่ะ” บรรพบุรุษที่สิงในหุ่นเชิดถาม “ให้ข้าไปด้วยไหมละ”

“ไม่ต้อง” เนี้ยหลี่สายหัว และกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วงข้าไปไม่ไกลหรอก ลักษณะที่ข้าจะไปคล้ายๆเป็นโลกใต้ดิน และหาที่ตั้งของสมาคมทมิฬอีก ” ไม่งั้นเราจะเสียเปรียบเพราะ เหมือน เราอยู่ในที่ๆมีแสงสว่างแต่สมาคมทมิฬอยู่ในที่มืดไม่สามารถรับรู้อะไรได้

บรรพบุรุษได้ยินดังนั้น รีบกล่าวตอบทันที “เห้ย จะไปหาสมาคมทมิฬคนเดียวหรอ มันอันตรายเกินไปนะเห้ย”

“ไม่ต้องห่วงข้ามีวิธีป้องกันตัวเอง”เนี้ยหลี่กล่าว ตราบใดที่ไม่เจอเจ้าปีศาจ ไม่มีต้องกลัวอะไรหรอก

เนี้ยหลี่คิดแปปนึง แล้วนึกถึงตำราจิตปีศาจชั่วขณะยังอยู่ที่พระราชวังทะเลทรายนี่น่า?? จริงๆเนี้ยหลี่อยากไปเอาแต่ มันคงกลับมาไม่ทันภายใน 3 เดือนแน่นอน แต่ช่างมันนอกเหนือยจากพระราชวังทะเลทรายยังมีอีกหลายๆที่ ที่เนี้ยหลี่ยังนึกถึงอีก

มันเป็นสิ่งที่ยากลำบากมากๆในการไปสถานที่ต่างๆเพื่อเพิ่มความเร็วในการฝึก ในเมืองแห่งนี้ ช่วงเวลานี้ก็ยังไม่มีใครที่มีความสามารถถึงจุดนั้น เนี้ยหลี่จึงคิดว่าเขาต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อนอีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่เขาคิดคือ จะต้องออกไปในสถานที่เหล่านั้นเพื่อฝึกฝนด้วยตัวเองคนเดียว เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการพัฒนาตัวเอง

เนี้ยหลี่จึงเขียนจดหมายหลายๆฉบับ และส่งให้หุ่นเชิดวิญญาณ
“ระวังด้วยหละ” หุ่นเชิดวิญญาณเตือนเนี้ยหลี่ จากนั้นก็คาบจดหมายบินออกไป

หลังจากนั้นเนี้ยหลี่ก็มอง หุ่นเชิดวิญญาณบินจนหายจากสายตาและ หัดมองไปที่พักของเอียจืออวิ้น

ตัดฉากมาที่เอียจืออวิ้น

เอียจืออวิ้นที่อยู่ในห้องตนเอง รู้สึกโกรธมาก เพราะเธอเองพยายามก้าวมาอยู่ในระดับทองด้วยความยากลำบากมากๆ เธอคิดว่ามันน่าจะช่วยพ่อของเธอและเนี้ยหลี่แบ่งเบาภาระหน้าที่ลงได้บ้าง แต่เมื่อถึงเวลาต่อสู้ เนี้ยหลี่และพ่อของเธอดันขังเธอในห้องไม่ให้ออกไปไหน(กลัวลูกเจ็บอิอิ)

เอียจืออวิ้น ถึงจะรู้ว่า เนี้ยหลี่และพ่อของเธอเป็นห่วง แต่มันก็ขัดใจมากในหัวใจของเธอ ช่างมันอย่างน้อยวันนี้เธอก็ยังไม่ต้องเห็นเนี้ยหลี่

“เนี้ยหลี่คนตอแหล?? ทำไมเขาต้องทำแบบนี้” เอียจืออวิ้นคิดด้วยอารมณ์ไม่พอใจ (ประมาณถูกเนี้ยหลี่กับพ่อ หลอกมาขังแน่ๆ)

เธอทำการฝึกเพิ่มพลังจิตวิญญาณของเธอ ด้านหลังที่เห็นนั้นเป็น ภาพเงาราชินีน้ำแข็ง และน้ำแข็งรอบๆได้ปกคลุมร่างกายเธอ ด้วยแสงจันทร์ที่ส่องแสงมานั้นทำให้ เอียจืออวิ้น ดูเสมือนนางฟ้าเลยทีเดียว

เนี้ยหลี่จ้องมองในคืนที่เงียบสงัด เห็นถึงพลังที่ออกมาจากห้องของแม่นางเอียจืออวิ้น เขารู้ดีว่าเอียจืออวิ้นกำลังพยายามฝึกให้เก่งให้ได้ เนี้ยหลี่เองก็เขาใจความรู้สึกของเอียจืออวิ้นว่าต้องแข็งแกร่งเพื่อจะปกป้องเมืองกลอรี่ที่พ่อเขาเป็นเจ้าเมืองอยู่

ก่อนหน้านี้ เนี้ยหลี่หลอกเอียจืออวิ้น และขังไว้ในห้องเพราะไม่อยากให้ใครมาทำร้ายเธอ เพราะหลังจากเนี้ยหลี่กลับมาจากอนาคตก็ไม่อยากให้ต้องสูญเสียเธอไปอีกดั่งเช่นอนาคตที่พบเจอ

หากเนี้ยหลี่ไปลา เอียจืออวิ้น เซี่ยวหนิงเอ๋อ และตู่ซือ พวาเขาต้องตามไปฝึกด้วยแน่ๆ ซึ่งหากไปกันเยอะมันจะอันตรายมากๆแน่ๆ เนี้ยหลี่จึงต้องการออกไปอย่างเงียบๆโดยไม่ลาใคร แต่ก็นั้น

หัวใจของเนี้ยหลี่ลังเลอยู่ดีเพราะพวกนั้นเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา

เนี้ยหลี่เดินไปที่ประตูห้องของแม่นางเอียจืออวิ้น และยืนอยู่หน้าห้อง เขาต้องการจะเคาะประตูหลายครั้ง และมันก็ยังลังเล เคาะหรือไม่เคาะดี

เอียจืออวิ้นรู้สึกมีคนมาอยู่หน้าห้อง เธอจึงเปิดตาออก ด้วยกลิ่นอายและพลังงานทำให้เธอรู้ว่านั้นคือ เนี้ยหลี่

“ฉันไม่เปิดประตูให้หรอก เพราะเจ้าขังข้าไว้ในห้องนี้”เอียจืออวิ้นคิดในใจตนเอง ยังนึกต่อว่า หากเปิดประตูเนี้ยหลี่คงเข้ามาทำอย่างอื่นในห้องเธอแน่ๆ เอียจืออวิ้นรู้สึกสั่นเล็กน้อย ใบหน้าเธอยังเปลี่ยนเป็นสีแดง 18+ ใครจะรู้ละว่าเนี้ยหลี่จะทำอะไร ดังนั้นเธอจึงไม่เปิดประตูให้เขาเข้ามา แถมล่าสุดเธอยังเพิ่งไปหลับในห้องของเนี้ยหลี่มาเอง เธอต้องไม่ทำแบบนั้นอีก

หลังจากที่เนี้ยหลี่ยืนอยู่หน้าห้องของเอียจืออวิ้น อยู่นาน เนี้ยหลี่คบคิดหลายครั้งในที่สุดก็ไม่ได้เคาะประตู มันคงเป็นเรื่องดี หากออกไปโดยไม่พูดอะไรกับใคร ไม่งั้น เขาคงไม่ปล่อยให้ออกไปคนเดียวง่ายๆ

เพื่อให้ได้ความแข็งแกร่งในการต่อสู่กับเจ้าปีศาจ และสมาคมทมิฬ เนี้ยหลี่เองจำเป็นต้องใช้วิธีเร็วที่สุดในการยกระดับการบ่มเพาะของตัวเอง ซึ่งแค่การเพราะปลูกปัจจุบันด้วยที่เงียบสงัดนั้นไม่เพียงพอ มันต้องมีตัวช่วย(ตัวเร่ง) ในเร่งระดับการบ่มเพาะของตัวเอง

หลังจาก เห็นเนี้ยหลี่ยืนอยู่หน้าห้องนาน แม่นางเอียจืออวิ้น ก็ลังเลว่าควรไปเปิดประตูให้ไหม?

“หลังจากนายมาขังฉันในห้อง ตอนนายและพ่อกำลังต่อสู้กับภัยอันตราย มันคงไม่ง่ายอย่างงั้นที่ฉันจะให้อภัยง่ายๆ”เอียจืออวิ้น คิดในใจและ หงุดหงิด เนี้ยหลี่มาก มันรู้ว่าผิดหวังที่ถูกขังในขณะคนอื่นสู้กับอันตราย ในความรู้สึกของเธอตอนนี้ เธอยังไม่ต้องการพูดคุยกับเนี้ยหลี่ด้วยความหงุดหงิดจริงๆ

มีหลายครั้งเหมือนกันที่เอียจืออวิ้น ต้องการจะเปิดประตูให้เนี้ยหลี่ แต่เธอก็พยายามหยุดตัวเอง

“ฉันไม่ไปเปิดประตูในนาย จะมาระรานฉันอีกแน่ๆ” เอียจืออวิ้น คิดสั่นๆ

ภายในใต้แสงจันทร์ที่ส่องผ่านประตูมา ที่เธอ เธอช่างดูแม่เสน่ห์มากจริงๆ

เนี้ยหลี่เองก็ลังเลอยู่นาน และวางจดหมายไว้หน้าประตู จากนั้นก็หันหลังและเดินหายไปในความมืด

เมื่อเนี้ยหลี่ หายวับไป แม่นางเอียจืออวิ้นก็รู้สึกใจหาย และกระทืบเท้า”คนโง่ทำไมไม่เคาะประตูอีก?”

เธอรีบเดินไปเปิดประตูและมองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นเนี้ยหลี่แล้ว เหลือเพียงจดหมายที่วางอยู่บนพื้น ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเธอรีบหยิบจดหมายมาอ่านทันที

หลังจากอ่านไม่นาน น้ำตาของแม่นางเอียจืออวิ้น หล่นลงมาจากใบหน้า กลับกลายเป็นว่า เนี้ยหลี่มาที่นี่เพื่ออำลาเธอ

เมื่อออกจากเมื่องไปที่ห่างไกลเพื่อพัฒนาตนเอง คิดถึงอันตรายบ้างไหมนะ?

เธออยากบอกเนี้ยหลี่ เธอไม่ต้องการให้เขาไป เมื่อเธอมองรอบๆไม่เห็นเนี้ยหลี่แล้วแสดงว่าเขาได้ออกไปเพื่อฝึกฝนแล้ว เพื่อที่เขาจะสามารถกลับมาป้องกันเมืองนี้ได้ เขาคิดว่าทุกอย่างในเมืองเป็นความรับผิดชอบของเขา ถึงอย่างไรจริงๆแล้วมันควรเป็นของความรับผิดชอบของ ปู่ของเธอและพ่อของเธอไม่ใช่หรอ?

อย่างไรก็ตาม เนี้ยหลี่ได้ออกไปฝึกแล้ว

เอียจืออวิ้นกำจดหมายแน่นด้วยความเจ็บปวดใจ ถ้าเธอรู้ว่าเนี้ยหลี่จะมาอำลาเธอ เธอจะรีบมาเปิดประตู
และไม่ให้เนี้ยหลี่ไปไหน? กลัวว่าเขาจะไปพบกับอันตราย?

ตระกูลปีกมังกร

เมื่อ เซี่ยวหนิงเอ๋อ ได้รับจดหมาย เนี้ยหลี่ออกไป เธอถือจดหมายและคิดว่าจริงๆแล้วมีอะไรตั้งมากมายที่อยากจะบอกเนี้ยหลี่ อยากจะพูดกับเขา แต่มันก็ไม่ทันแล้ว เนี้ยหลี่ได้ออกเดินทางไปแล้ว

“ตกลง ข้าจะรอเจ้ากลับมา” เซี่ยวหนิงเอ๋อ มองไปข้างหน้า และคิด “เมืองกลอรี่แห่งนี้ ไม่ได้มีเพียงเจ้าคนเดียวที่จะปกป้องนะ ข้าก็สามารถทำได้เช่นกัน”

ผมของเธอลอยขึ้นด้วยแรงลม และด้วยแสดงใบหน้าจริงจังและด้วยทีท่าที่ต้องใจเต็มที่

สถาบันกล้วยไม้ศักดิ์สิทธิ์

“เนี้ยหลี่จะมากเกินไปแล้ว ไปโดยไม่บอกเราซักคำ” หลู่เปียวโกรธมากและกำหมัดของเขา หากเจ้าอยู่ตรงนี้ เจ้าโดนข้าอัดแน่ “แน่นอนหากเจ้ากลับมา ข้าจะอัดเจ้า บักเนี้ยหลี่”(ประมาณไปโดยไม่บอก)

“เราจะเป็นภาระของเขาก็ได้นะ” ตู่ซือกล่าว พร้อมส่ายหัว เขาเข้าใจว่าทำไมเนี้ยหลี่ทำอย่างนั้น

“อย่างน้อยการบ่มเพาะเราก็อยู่ในระดับเดียวกันนะ” หลู่เปียวกล่าวด้วยความไม่พอใจ

“จริงๆแล้วเราอยู่ระดับเดียวกับเขาหรอ? ข้าว่ามันไม่น่าใช่”ตู่ซือ พูดด้วยลักษณะข่มยิ้ม กล่าวต่อว่า”ถึงแม้เหมือนพวกเราจะระดับเดียวกับเขา แต่ไม่มีทางชนะเนี้ยหลี่ได้แน่ๆ แถมเขายังมีจิตวิญญาณเงาปีศาจ ที่หากเจออะไรอันตรายๆเขาสามารถใช้มันและหลบมันได้ทันที หากเราไปกับเนี้ยหลี่คงเป็นภาระจริงๆแหละ”

“แล้ว ตอนนี้เราเอาไงกันดี เราควรทำอะไรต่อ ” หลู่เปียวกล่าวพร้อมทำหน้าผิดหวังมาก

“เราต้องฝึกให้หนักมากขึ้น” ตู่ซือกล่าว “ตอนเนี้ยหลี่กลับมาอย่างน้อยก็ต้องให้เขาเห็นถึงการพยายามบ่มเพาะพลังไปให้ทันหรือใกล้เคียงกับเขา เราเองมีตัวอย่างแล้วว่าหากเนี้ยหลี่ต้องการพัฒนาการบ่มเพาะพลังนั้นเนี่ยหลี่จะฝึกให้มากขึ้น เราเองก็ควรพยายามให้มากขึ้นเป็น 10 เท่าของตัวเอง เราต้องรักษาความเร็วในการเพาะปลูกไปให้ตลอด ก้าวไปข้างหน้าให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ เราก็ไม่ควรพบหน้าเขาเช่นเดียวกัน สู้ตายไปซะดีกว่า”

หลู่เปียว มองไปที่ต้วนเจี้ยน ถามว่า “แล้วเจ้าละต้วนเจี้ยน? เนี้ยหลี่ได้ให้จดหมายกับเจ้าหรือเปล่า”

ต้วนเจี้ยนเป็นคนที่มีความสามารถ เป็นถึงระดับแบล็คโกลและยังมีร่างกายที่แข็งแกร่งเทียบเท่าระดับตำนาน ทำไมเนี้ยหลี่ถึงไม่เอานายไปด้วย?
“เนี้ยหลี่บอกว่า สถานที่ที่เขาจะไปมันอันตรายสำหรับข้า เนี้ยหลี่เลยบอกให้ข้าฝึกอยู่ที่เมืองกลอรี่แห่งนี้”ต้วนเจี้ยนกล่าวและมองไปข้างหน้า เขาเชื่อใจเนี้ยหลี่ แต่เชื่อมั่นว่าเนี้ยหลี่ต้องกลับมาอย่างแน่นอน

หลังจากได้ยินต้วนเจี้ยนพูดแล้ว ทุกคนถึงกับหน้าเปลี่ยนสีทันที เพราะ ต้วนเจี้ยนเป็นคนที่ระดับยศเทียบเท่ากับระดับตำนานแล้ว แถมโดยปกติก็แทบจะไม่มีใครทำอะไรต้วนเจี้ยนได้อยู่แล้ว แต่นี่ที่ๆจะไปแม้กระทั้งต้วนเจี้ยนหากไปอาจจะตายได้ ? โอ้ยมันคือที่ไหนเนี้ย ทุกคนก็อดไม่ได้ ที่จะกังวลใจในสิ่งสถานที่ๆเนี้ยหลี่กำลังจะไปได้

แต่พวกเขาก็คิดวนไปวนมาหลายรอบแต่ก็เชื่อมั่นในตัวเนี้ยหลี่ เพราะไม่มีสิ่งใดที่เนี้ยหลี่เลือกที่จะทำแล้วไม่สำเร็จ พวกเขาจึงเชื่อมันในตัวเนี้ยหลี่มากๆ

ก่อนที่เนี้ยหลี่จะออกไปยังสอนเทคนิคพิเศษในการบ่มเพาะพลังให้ต้วนเจี้ยนอีก ในระหว่างที่เนี้ยหลี่ไม่อยู่นั้นต้วนเจี้ยนเองก็การต้องพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นและเป็นมือขวาของเนี้ยหลี่ให้จงได้

แปลไทยโดย 
Art Aulakiria

5 ความคิดเห็น:

  1. บอกได้คำเดียว ขอบคุณมากครับ
    ถ้าจะได้ดี อยากไปกดให้กำลังในกลุ่มจัง หึหึ !

    ตอบลบ
  2. วนกลับมาอ่อนรอบที่สามแล้ว ต้องยอมรับว่าแปลใด้ดีจริงๆไม่ค่อยมีซัพนรก
    ขอบคุณครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

    ตอบลบ
  3. วนกลับมาอ่อนรอบที่สามแล้ว ต้องยอมรับว่าแปลใด้ดีจริงๆไม่ค่อยมีซัพนรก
    ขอบคุณครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณครับรับเข้ากลุ้มหน่อยครับ FB.Nonthavat Kruemas

    ตอบลบ