วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559

บทที่ 185 - กุ๋ยซา


บทที่ 185 – กุ๋ยซา

บูม! บูม! บูม!

กระแสของพลังจิตวิญญาณที่รุนแรงมากๆ บังเกิดขึ้นในใต้เท้าของเอียเซิ่งลักษณะเหมือนมีพลังพายุหิมะรุนแรงเกิดขึ้น

เอียเซิ่งลอยตัวอยู่บนอากาศ และค่อยๆเดินไปหา กุ๋ยซา

การสร้างพลังพายุหิมะแบบนี้เป็นเทคนิคของตระกูลวายุเหมันต์ของพวกผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน เจ้าเอียเซิ่งไปถึงระดับตำนานแล้วงั้นหรอ??

กุ๋ยซาเหมือนตัวเล็กลงทันทีขณะที่เอียเซิ่งค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ ทั้งๆที่รู้ว่า กุ๋ยซาเทพสัดๆ แถมเป็นถึงระดับตำนาน เอียเซิ่งเดินเข้ายิ่งใกล้พลังรอบๆยิ่งเพิ่มทวีคูณปะหนึ่งไม่กลัวอะไรเลยจากภายในและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

เอียเซิ่งเองก็แอบคิดเล็กน้อยว่า ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะก้าวมาถึงระดับตำนานได้เช่นกัน เพราะในขณะที่เค้าเดินเสียงเหมือนสั่นสะเทือนทั้ง ชั้นฟ้าและพื้นดินเลยทีเดียว

ตระกูลอื่นๆในเมืองตะลึง โอ้วไม่คิดว่าเอียเซิ่งจะเทพขนาดนี้ หลังจากเห็นภาพ ก็ตะโกนเชียร์กันดังลั่น ส่วนกุ๋ยซาทำหน้าเหมือนตกใจพอควร เพราะลักษณะเอียเซิ่งตอนนี้นั้นเสมอพระเจ้าแห่งสงคราม ในขณะที่ค่อยๆก้าวมาหาเขา

ขณะนี้เอียเซิ่งเปรียบเสมือนผู้ถือชะตากรรมของเมืองทั้งหมด

“สิ่งเดียวที่สามารถทำลายความรุ่งโรจน์ของเมืองนี้,คือตัวข้าได้ตายไปแล้ว”(ประมาณว่าข้ามศพข้าไปก่อนเหอะ)

ในส่วนของเนี้ยหลี่ ก็ตะลึงเหมือนกัน ที่เอียเซิ่งก้าวไประดับตำนานในเวลาอันสั้น และมั่นใจว่าเอียเซิ่งคือคนที่จะปกป้องเมืองนี้จริงๆ แม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน

เอียเซิ่งรวบรวมความตั้งใจ และชี้ดาบไปหากุ๋ยซา ซึ่งบังเกิดพลังเหมือนท้องฟ้าจะฉีกขาดไปเสี่ยงๆ

กุ๋ยซาเห็นเอียเซิ่งชี้ดาบมาที่ตนเอง ก็คิดในใจว่า”โอ้วมาถึงระดับตำนานหรอเนี้ย น่ากลั้ว น่ากลัว แต่ก็ยังกระจ๊อก จอก ไม่คะนามือกูหรอก”(แอบใส่อารมณ์)

ทันใดนั้นบังเกิดพลังกลมๆสีดำรอบๆตัวกุยชา หลายๆลูก แล้วก็ยิงใส่เอียเซิ่ง เอียเซิ่งเห็นพลังที่กุ๋ยซายิงใส่เข้ามา กำดาบตัวเองเตรียมเฉือนลูกพลังสีดำนั้น “พลังดาบน้ำแข็งความเร็วแสง”(ชื่อสกิล ของเอียเซิ่ง Frost Flash Sword Aura )

ด้วยสกิลนั้นเอง ได้เฉือนพลังสีดำของกุ๋ยซาผ่าครึ่งทั้งหมด

ตูม!! ตูม!! ตูม!!

ถึงแม้จะผ่าครึ่งพลังสีดำของกุ๋ยซาได้ แต่ก็ระเบิดรุนแรง

เอียเซิ่งแต่เดิมคิดว่าเค้ายังไม่สามารถสู้กับกุ๋ยซาได้ แต่หลังจากเค้าได้ตัดก้อนพลังสีดำนั้นขาดได้ รู้สึกว่าระดับพลังของฝ่ายตรงข้ามนั้นยังไม่น่าถึงพลังผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน

กุ๋ยซาทำหน้ากวนตีน คล้ายๆเย็นชา และเริ่มมีเปลวไฟออกจากฝ่ามือเขาทั้งสองข้าง

เอียเซิ่ง เริ่มเห็นแสงจากมือกุ๋ยซา ซึ่งสิ่งนี้คล้ายๆ เปลวไฟมังกร เอียเซิ่งคิดว่าไม่น่ามีปัญหาหากยิงมาเขาสามารถใช้พลังของเทพเจ้าจิตวิญญาณวาตุหิมะปราบมันลงได้ ไม่น่ามีปัญหาอะไรเพราะเป็นไปตามหลักธรรมชาติไฟย่อมแพ้น้ำ

“มันเริ่มจะไม่สนุกแล้วซิ ฉันไปดีก่า”กุ๋ยซา เหมือนจะรู้สึกว่าพลังแพ้ทางกันชัดๆ ไปดีก่า

กุ๋ยซาพยายามวาปหนี แต่ไปไม่กี่ร้อยเมตร ก็ได้ใช้มือทั้งสองข้างผนึกพลังเกิดขึ้นคล้ายๆกระแสน้ำวนสีดำๆ ไปปรากฏใกล้ๆผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลของตระกูลศักดิ์สิทธิ์

“หยุดพวกมัน”เมื่อเอียซิ่วเห็นผู้เชี่ยวระดับแบล็คโกลรีบเดินไปทางกระแสน้ำวนสีดำที่กุ๋ยซาสร้างขึ้น

วืป! วืป! วืป! (นึกเสียงอโควาป Ragnarok เอานะ)

เมื่อผู้เชี่ยวชาญของตระกูลศักดิ์สิทธิ์ก้าวไปในกระแสน้ำวน ก็ได้หายไป(คล้ายๆพยายามวาปหนี)

ระหว่างนั้น มี ผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกลไม่สามารถหนีทันโดนฆ่าตายไปสองคน
“สัดเอ้ย หนีไปไหน มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก” เอียเซิ่งตระโกน และโบกดาบ บินไปหากุ๋ยซา

“555 กากมาก นี่มันเมืองกลอรี่ ข้าจะทำอะไรในเมืองนี้ก็ได้ เจ้าหยุดข้าไม่ได้หรอก” กุ๋ยซา หัวเราะลั่น และก็ทำมือเหมือนเปิดประตูความมืดเตรียมจะหนีต่อ เสิ่นฮองเห็นกุ๋ยซาจะไปแล้ว เขาคิดว่าถ้ากุ๋ยซาไปเขาต้องไม่รอดแน่ๆ เขารวบรวมพลังและอัดใส่ต้วนเจี้ยนด้วยฝ่ามือของเขา และ รีบวิ่งไปหากุ๋ยซาเพื่อพยายามเข้าประตูวาป

“รอด้วยเว้ยยย” เสิ่นฮองรีบวิ่งไปขณะคิดว่า ถ้าเขาข้ามไม่ทันต้องตายแน่ๆ

“ไม่ดีและช้าเกินไป” ใบหน้าของเอียเซิ่งเปลี่ยน เพราะ หากกุ๋ยซาหนีไปได้ ก็เหมือนแหกหน้าเขา เพราะเขาดูแลเมืองนี้ ไม่ปล่อยใครมาทำอะไรแล้วหนีไปแบบนี้ง่ายๆแน่แท้ แล้วจะพบหน้าคนอื่นๆได้ไง แต่ว่า!!!

ตรูม ตรูม ตรูม

พลังสีดำก้อนกลมๆสีดำมาขว้างเอียเซิ่ง แม้จะทำอะไรเอียเซิ่งไม่ได้เพราะด้วยพลังหิมะวายุระดับพระเจ้า แต่ก็มันเหมือนจะสายเกินไปไม่มีสามารถหยุดกุ๋ยซาได้

เนี้ยหลี่ ยืนดูอยู่ตรงใจกลางของ อาณาเขตหมื่นอสูร ด้วยท่าทีใจเย็น “พยายามจะหนี?? ถามข้าหรือยัง หึหึ ”

เมื่อกุ๋ยซาเปิดประตูความมืดใกล้จะไปแล้ว แต่เหมือนมีบางอย่างเกิดขึ้น มีผี 3 ตัวเกิดขึ้นข้างๆประตูนั้น

กุ๋ยซาเห็นผีทั้ง 3 ตัวหน้าเปลี่ยนสีทันที่ ไม่คิดว่า จะมีใครสามารถเรียก ภูตผีแบบนี้มาได้ เพราะปกติภูติผีชนิดนี้จะไม่มีมีความสามารถสามารถต่อสู้ได้เพราะ เพียงระดับแบล็คโกลขั้นที่1 เท่านั้น แต่ดันมีความสามารถพิเศษในการล๊อกศัตรูในพื้นที่ได้

ทันใดนั้น ประตูความมืดของกุ๋ยซากลายเป็นน้ำแข็งทันที

“ไอ้บ้า” กุ๋ยซาตะโกน และมองกลับไปที่เสารอบๆจวนเจ้าเมือง เริ่มมีแสงออร่าเกิดขึ้น ถึงแม้เขาเองจะเคยได้ยินว่ามันสามารถปราบศัตรูมาหลายต่อหลายรอบแต่เขาก็ไม่เคยเจอแบบนี้ก่อน

เนี้ยหลี่ลอยตัวอยู่ตรงกลาง อาณาเขตหมื่นอสูร ลักษณะเหมือน เทพเจ้าของปีศาจก็ไม่ปราณ

งานเข้าเมื่อประตูความมืดของกุ๋ยซาใช้งานไม่ได้มันก็เริ่มยากที่จะหลบหนี เพราะถูกตามติดด้วยคนในเมืองและเอียเซิ่งผู้มีพลังหิมะวายุระดับพระเจ้ามองมาที่เขา

เสิ่นฮองตะลึงทำท่าที่เหมือนเต่าหดหัวขึ้นมาทันใดเพราะประตูแห่ง่ความมืดเพื่อหลบหนีของกุ๋ยซาใช่งานไม่ได้

โอเค เมื่อประตูแห่งความมืดใช้งานไม่ได้ แต่พวกท่านก็ทำอะไรข้าไม่ได้อยู่ดี เด๋วได้รู้เลยว่าพลังปีศาจที่แท้จริงเป็นอย่างไร”กุ๋ยซากล่าวและหัวเราะลั่น ทันใดนั้น ร่างกายของกุ๋ยซาเปลี่ยนลักษณะเหมือนปีศาจ และดูน่ากลัวมายิ่งขึ้น กลิ่นอายความมืดระเบิดออกอย่างรุ่นแรง “เอียเซิ่ง ,แกต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด และบีบบังคับให้ข้าต้องเอาจริง”

“แค่ระดับตำนานหรอ? ให้ข้าสามารถฆ่าได้หมดแม้จะเป็นระดับแบล็คโกล ข้ายังสามารถฆ่าได้เป็นโหลๆ” กุ๋ยซา หัวเราะลั่น “ในวันนี้พวกเจ้าบีบบังคับข้า และก็ควรเตรียมดูผลที่ตามมาด้วยละกัน!!”

ผู้เชี่ยวชาญตระกูลอื่นๆเริ่มลังเลและ เพราะกุ๋ยซาเปลี่ยนร่างเป็นปีศาจกระหายเลือดยากมากที่สู้ได้ ถ้ากุ๋ยซาตั้งใจจะสังหารหมู่ ผู้เชี่ยวชาญของตระกูลอื่นๆก็ยากที่จะหยุดเขาได้

“ผลที่ตามมาหรอ!! ข้าจะดูว่าผลที่ตามมาที่เจ้ากล่าวคืออะไร” เสียงเนี้ยหลี่กล่าวดังลั่น ในขณะนั้น เนี้ยหลี่ได้เพิ่มพลังของอาณาเขตหมื่นอสูรเข้าไปอีก กุ๋ยซา มองด้วยสายตาคาดแค้นไปที่เอียเซิ่ง “ข้าขอพูดกับเจ้า ว่าเจ้าจะไม่เหลืออะไรเลย”

“ท่านไม่รู้จักข้า แต่หลังจากวันนี้ท่านจะจำข้าไปจนวันตาย”เนี้ยหลีกล่าว พร้อมด้วยการเปิดอาณาเขตหมื่นอสูร ทันที ท้องฟ้องในเมืองเปลี่ยนกลายเป็นสีดำแบบไม่มีที่สิ้นสุด

โดยมีรัศมี กว้างอย่างไร้ขอบเขต และปีศาจระดับแบล็คโกล ปรากฏขึ้นมาในอาณาเขตหมื่นอสูร

จริงๆเพียงหนึ่งในสิบของความแข็งแรงของปีศาจนั้นก็เพียงพอจะฆ่ากุ๋ยซาได้แล้ว

เสียงเริ่มดังมากขึ้น บูม บูม บูม ถี่ขึ้นๆ

ลักษณะเหมือน เงาขนาดมหึมา มากมายพุ่งเข้าไปหากุ๋ยซา

เมื่อกุ๋ยซาเห็นก็ ก็รู้สึกต้องหนีอีกรอบแต่ด้วยการปิดกันทำให้เขาต้องสู้ กุ๋ยซาใช้พลังหมัดทั้งสองเพื่อทำลายเงาลึกลับขนาดมหึมา

ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงง

พลังงานของกุ๋ยซาระเบิดออกไปหาเงาลึกลับ แต่ เหมือนมันไม่ได้ผลอะไรเลย และเมื่อเงาลึกลับถึงตัวกุ๋ยซา

ตูมมมมมมมมมมมมมมม

กุ๋ยซา หน้าซี๊ด (จุ๊ก55) เริ่มมีเลือดออกจากปากกุ๋ยซา เขาไม่เคยขาดคาดว่าพวกปีศาจเงาจะมีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ (คิดภาพบัวขาวเตะต้นกล้วย อิอิ)

พลังรุนแรงเหลือเกิน แม้กุ๋ยซาแปลงกายเป็นปีศาจแล้วก็ตามยังสู้ไม่ได้ กุ๋ยซาโชคดีมากที่ไม่ตายเพราะรวมร่างกลายเป็นปีศาจร่างกายแข็งแกร่งประดุจมาร หากเป็นคนธรรมดาทั่วๆไป ตายไปแล้ว

กุ๋ยซาเองรู้สึกกลัวเป็นครั้งแรกของชีวิตเขาและรู้สึกว่ามันเป้นภัยคุกคามถึงชีวิต

แต่เดิมด้วยจิตวิญญาณปีศาจกระหายเลือดนั้น แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเดียวกับเขา ในร่างปีศาจก็ไม่คนามือของเขา แต่ในขณะนี้เขารู้สึกกลัวสุดๆแม้เพิ่งจะโดนการโจมตีเพียงครั้งเดียว

ไม่เพียงกุ๋ยซาที่ตะลึง แม้กระทั้งเอียเซิ่งเองก็เพิ่งเคยเห็นการโจมตีแบบรุนแรงแบบนี้เป็นครั้งแรก ฤทธิ์มันสุดยอดสุดๆ เหนือจินตนาการที่เอียเซิ่งจะคิดได้ว่า อาณาเขตหมื่นอสูรจะมีประสิทธิภาพเพียงนี้ เพียงแค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวกับทำให้ กุ๋ยซาบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถหนีไปไหนได้

เสิ่นฮอง รู้สึกตกใจอย่างมาก เมื่อเห็นฉากนี้ ฉากที่กุ๋ยซาโดนสกิลเดียวแล้วบาดเจ็บสาหัส เดิมที่เสิ่นฮองยกย่องกุ๋ยซามากสุดและเป็นจุดสุดยอดในตำนานที่เขารู้จัก แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเหมือนกับเขาถูกโกง

การเดิมพันครั้งนี้ของตระกูลศักดิ์สิทธิ์แทบจะสิ้นสุดลงหลังเสิ่นฮองเห็น เลือดที่กระเด็นออกจากปากกุ๋ยซา

สิ่งที่เขาไม่คาดคิดขึ้นว่ามันจะสามารถเกิดขึ้นได้ ในเมืองกลอรี่และตระกูลศักดิ์สิทธิ์มาถึงจุดนี้นั้นเพราะ ไอ้เนี้ยหลี คนเดียวทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้

จบตอน

แปลโดย 

Art Aulakiria

3 ความคิดเห็น:

  1. เสพมากไป จนสงสัยว่ากูเป็นอะไรวะเนี่ย

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณครับรับเข้ากลุ้มหน่อยครับ FB.Nonthavat Kruemas

    ตอบลบ