วันพุธที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2559

บทที่ 190 - การแลกเปลี่ยน

บทที่ 190 - การแลกเปลี่ยน
https://www.facebook.com/groups/200491286989237/permalink/220916124946753/



เนี้ยหลึ่คิดแปปนึงแล้วกล่าวว่า “สนใจเสื้อผ้าพวกนี้หรือเปล่า” เขาได้นำชุดและเสื้อผ้าแปลกๆออกมาจากแหวน และ วางไว้บนโต๊ะ

หยุนหลิง ตาโตทันทีที่ เนี้ยหลี่หยิบเสื้อผ้าออกมาจากแหวน เพราะเธอรู้ว่าแหวนที่เก็บของได้หายากมากๆ มีเพียงหัวหน้าใหญ่ของที่ราบสูงลิขิตสวรรค์เท่านั้นที่มี สายตาเธอนั้นถูกใจจดใจจ่อกับผ้าที่อยู่บนโต๊ะทันที เธอตกใจมากเพราะผ้าที่เห็นนั้น นุ่มและลวดลายสวยงามสุดๆ

หลังจากเธอเห็นเสื้อผ้าดังกล่าว เธอไม่สามารถย้ายสายตาไปไหนได้เลย เพราะที่ราบสูงลิขิตสวรรค์นั้น มีเพียงแค่เสื้อผ้าขาดๆ เท่านั้น

“คุณจะขายเสื้อพวกนี้เท่าไรกัน” หยุนหลิงถามเนี้ยหลีด้วยใบหน้าเขินเล็กน้อย เสมือนเนี้ยหลี่สะกดเธอด้วยเสื้อผ้าพวกนี้เลยทีเดียว

“งั้นเอาแค่200เหรียญทองแดงพอ”เนี้ยหลี่ยิ้มกล่าวเบาๆ

“200เหรียญทองแดงเองหรอ??” หยุนหลิงประหลาดใจเพราะเสื้อผ้าที่เห็นตรงนี้ หากขายใน 5-6 พันเหรียญทองแดงก็ยังจะมีคนแย่งชิงเพื่อเอาให้ได้เลยนะ

เนี้ยหลี่ยิ้มนึกถึงอดีตว่าขายเท่าไรก็พอเพราะในชีวิตที่แล้ว หยุนหลิงดูแลเขาดีมากและกล่าวว่า “ถูกต้อง 200เหรียญทองแดงก็พอแล้ว สำหรับมันมันใช้กินได้หลายวันเลยนะ ยิ่งกว่านั้นอยากให้แม่นางหยุนหลิง ช่วยซื้อมันไปหน่อยนะ และหวังว่าแม่นางจะชอบมันมากๆ”

“หวังว่าข้าจะชอบมัน”หยุนหลิงย้อนถามกลับ เธองงเล็กน้อย”ท่านรู้ชื่อข้าได้ไง ข้าไม่เคยบอกท่าน”

“ได้ยินคนในตลาดเรียกไง”เนี้ยหลี่ตอบ กล่าวต่อว่า”ใครจะไม่รู้ว่าท่านชื่อ หยุนหลิง ก็บ้าแล้ว”

จริงๆแล้ว ในที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ นี่ทุกคนรู้จักแม่นางหยุนหลิงอยู่แล้วเพราะ เธองดงามมา และยังขยันทำมาหากิน ซึ่งมีคนมากมายต้องการแต่งงานกับเธอ แต่เธอไม่สนใจใครทั้งนั้น

“โอ้”หยุนหลิง พยักหน้า
“เออ หยุนหลิง รู้จักไอ้หินสีม่วงๆ ที่มันเป็นสีเหลี่ยมขนมเปียกปูนไหม?” เนี้ยหลียิ้มและถามต่อ”ที่มันยังปล่อยควันสีม่วงๆจ่างๆออกมาได้ หากมันโดนแดดมันจะร้อนมากๆ”

“อ้อไอ้ ศิลาหมอกม่วง อ่าหรอ ฉันเคยเห็นมันมีอยู่รอบๆที่นี้ตั้งเยอะนะ แต่เหมือนมันพิษติดมาด้วยนิดๆด้วยนิน่า “หยุนหลิงกล่าวต่อ “ทำให้พวกเราไม่ต้องการให้มันอยู่ในพื้นที่ของพวกเราเท่าไรนะ”

ศิลาหมอกม่วงที่หยุนหลิงพูดถึงนั้น ตามจริงแล้ว หากรู้วิธีการใช้มันจะทำให้เพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะได้รวดเร็วมาก มันอาจจะช่วยให้เนี้ยหลี่พุ่งไปถึงระดับโกลขั้นที่3 ได้เร็วสุดๆ

“ข้าต้องการศิลาหมอกม่วง มากที่สุดเท่าที่หาได้ โดย10 ศิลาหมอกม่วงแลกกับถุงอาหาร 1 ถุงได้ไหม” สำหรับการเดินทางครั้งนี้ เนี้ยหลี่ได้เตรียมการอย่างดี

ได้ยินเนี้ยหลี่พูด หยุนหลิงตกใจเลย 10 ศิลาหมอกม่วง กับถุงอาหาร 1 ถุงเนี่ยนะ?

“บ้าไปแล้ว”หยุนหลิงอุทานออกมา

“ข้าพูดจริงๆนะ” เนี้ยหลี่พยักหน้าและเป็นเหตุผลอันเดียวที่เขาใช้ข้าวแลกเปลี่ยน เพราะในดินแดนแห่งนี้ ขาดแคลนอาหารอยากหนัก ในชีวิตก่อนหน้านี้ ตอนเนี้ยหลี่มากับเอียจืออวิ้น ไม่ว่าเขาจะเดือนร้อนเพียงไหน เขาสามารถใช้ข้าวเป็นของแลกเปลี่ยนได้ตลอด

“โอเค เด๋วฉันจะไปเอาศิลาหมอกม่วงมาให้” หยุนหลิงรีบกล่าวและออกไปรวบรวมศิลาหมอกม่วงทันที เพราะเมื่อเทียบกับเสื้อผ้าสวยงามที่อยู่บนโต๊ะแล้ว ถุงอาหารมีค่ามากๆเพราะ ในเมืองแห่งนี้ ขาดแคลนอาหาร ทำให้อาหารนั้นมีค่ามากสุดๆ แปปเดียวเท่านั้น 20 ศิลาหมอกม่วงก็มากองต่อหน้าเนี้ยหลี่ และแลกเปลี่ยนกับถุงอาหารทันที

อะไรนะ ศิลาหมอกม่วงเอามาแลกอาหาร??

หลังจากหยุนหลิงหยิบถุงอาหาร 2 ถุงมาเธอรู้สึกเหมือนฝันไปเลย เพราะสิ่งที่เธอได้กินบ่อยๆจะเป็นเพียงผงไม้ จากพวกกากต้นไม้เท่านั้น การได้ถุงอาหารนั้นทำให้เธอปลื้มปิติมากๆ

จริงๆแล้ว แค่ถุงอาหารก็สามารถแลกเปลี่ยนกับผู้หญิงที่สวยงามในครอบครัวที่ยากจนได้แล้วนะ(ประมาณเอาข้าวแลกผู้หญิงได้ อิอิ)
และแถมการแลกเปลี่ยนนี้ คือเอา ศิลาหมอกม่วงเพียงนิดเดียวมาแลกอีก โอ้วมันช่างไม่อยากเชื่อ

“เนี้ยหลี่,แลกเปลี่ยนเรียบร้อย ใช่ไหม”หยุนหลิงถามในอาการตื่นเต้น

“ใช่แล้ว”เนี้ยหลี่พยักหน้า “ว่าแต่ข้าเองก็นำถุงอาหารมาไม่เยอะแหะ งั้นเอางี้ 10 ชิ้นของศิลาหมอกม่วงแลกถุงอาหาร1ถุง  และศิลาหมอกม่วง 5 ชิ้นแลกกับเนื้อแทนละกันถ้ามีอีก”เนี้ยหลี่ขยับแหวนและหยิบอาหารต่างๆออกมาจากแหวนเพียบเลย

“โอเค ฉันจะแจ้งให้ทุกคนทราบ” หยุนหลิงยิ้ม พร้อมลุกขึ้น ด้วยอาการตื่นเต้นมากๆว่า แค่ศิลาหมอกม่วง สามารถนำมาแลกอาหารและเนื้อได้

หากเรื่องนี้เป็นคนอื่นที่รู้คงไม่อยากใครต่อแน่ๆเพราะมันคงทำให้รวยหน้าดู แต่อย่างไรก็ตามหยุนหลิงไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้น แค่ต้องการให้ทุกคนดำเนินชีวิตอยู่กันอย่างมีความสุขก็พอ

หลังจากหยุนหลิงออกไปหาหิน ก็มีหนุ่มวัยรุ่นมานั่งที่โต๊ะเนี้ยหลี่

“ข้าชื่อเซี่ยวหยาง ข้าได้ยินว่าพี่ชายจะแลกถุงอาหารกับ 10 ศิลาหมอกม่วงใช่ไหม” เซี่ยวหยางกล่าวพร้อมมองหน้าเนี้ยหลี่

“ถูกต้อง”เนี้ยหลี่พยักหน้า

"มันเอาไปทำอะไรได้ไอ้ ศิลาหมอกม่วง เนี้ย” เซี่ยวหยางถามเนี้ยหลี่

ปกติคนที่นี่ไม่สนใจศิลาหมอกม่วงเท่าไร เพราะจะสนแค่แลกเปลี่ยนกับอาหารและเนื้อก็พอ แต่เซี่ยวหยางสังเกตุและอยากได้รู้อยากเห็นเพราะเนี้ยหลี่เป็นคนมาจากภายนอก เซี่ยวหยางเองตื่นเต้นเหมือนกันในขณะพูดกับเนี้ยหลี่

“ข้าบอกท่านไม่ได้หรอก”เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมสั่นศีรษะ

เซี่ยวหยางพยักหน้าและไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม เพราะจริงๆแค่เอาศิลาหมอกม่วง มาแลกอาหารกับเนื้อก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่วิเศษสุดๆแล้ว เนี้ยหลี่ไม่เต็มใจจะบอกก็ช่างมัน

เนี้ยหลี่ไม่อยากบอกเพราะไม่อยากเป็นเรื่องใหญ่ และก็หวังจะอยู่ในที่นี้ไม่นานก็จะจากไป ภายในไม่กี่วันนี้ ในที่แห่งนี้มีคนแข็งแกร่งที่สุดก็แค่ระดับแบล็คโกลขั้นที่1แค่นั้นเอง ซึ่งมันก็ไม่สนใจเรื่องนี้เท่าไร

แต่ถ้าร่างทรงอสูรระดับแบล็คโกลขั้นที่1 ก็น่ากลัวนิดๆ

แม้เนี้ยหลี่จะอยู่ระดับโกลขั้นที่2 ถ้าแค่ระดับแบล็คโกลขั้นที่1 เขาก็คิดว่า สามารถจัดการได้ไม่ยาก

หลังจากข่าวเรื่องการแลกเปลี่ยนนี้ ได้กระจายออกไป การแลกเปลี่ยนก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากๆ

ข่าวเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนศิลาหมอกม่วง กระจายไปทั่ว จากคำพูดของแม่นางหยุงหลิง ทุกคนรีบออกตะเวรหากัน ศิลาหมอกม่วงมากมายมาหาเนี้ยหลี่ เสมือนผึ้งแตกรังเลยทีเดียว

ศิลาหมอกม่วงเอาไปแลกเนื้อกับอาหารได้หรอ ?”

.”เห้ยจริงดิๆ”

ข่าวการแลกเปลี่ยนเหมือนเพิ่มความเร็วไปมากกว่าเดิมกระจายไปทั่ว

คงทั่วไปหารอบๆเมือง บางคนเข้าไปในป่าหาศิลาหมอกม่วงเพื่อมาแลกเปลี่ยนกับเนี้ยหลี่

หน้าร้านโจ๊กเปลี่ยนเสมือนที่ชุมนุมไปทันที มีศิลาหมอกม่วงหลายพันก่อนมาหาเนี้ยหลี เนี้ยหลี่เองก็มีของสำหรับแลกเปลี่ยนอยู่มากมาย สบายๆเลยทีเดียว

เซี่ยวยาง งง ว่าเนี้ยหลี่ทำไมมีอาหารและเนื้อมากมายเพียงนี้ ขนาดคนมาแลกเปลี่ยนตั้งเยอะ แต่ก็เหมือนไม่มีความทุกร้อนอะไร

ทันใดนั้นมีเสียงจากด้านนอกร้าน

“อย่ามาขว้างทางข้า หลบไปๆ หลบไปให้หมด”ฝูงชนเริ่มแหวกทางออกให้ ชายคนนั้นเดินเข้ามา ใบหน้าของชายคนนั้น เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่หน้ากลัว

“นั้นเขานี่น่า เนี้ยหลีนายต้องระวังไอ้นี่หน่อยนะ มันเป็นลูกชายของหัวหน้าใหญ่” หยุนหลิงบอกและเตือนเนี้ยหลี่

เซี่ยวหยางคิ้วกระตุกเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดว่าเซี่ยวกวง บุตรชายคนที่สองของหัวหน้าใหญ่ ที่อยู่ระดับออบซิเดียนเหลืองขั้นที่3 (ยศของที่นี่)นิสัยหยิ่ง เผด็จการและชอบแกล้งคนเพื่อความสนุนสนาน

เซี่ยวหยางมองที่เนี้ยหลี่ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร หากเนี้ยหลี่ไม่สามารถจัดการเซี่ยวหยางได้อาจโดนกลั้นแกล้ง หรือหาเรื่องก็เป็นไปได้

“โอ้ว คนนอกนิน่า” เซี่ยวกวง ก้าวขาบนเก้าอีกข้างหนึ่ง แล้วพูดแบบก่างๆ”เห้ยรู้ไหมเอ็งกำลังทำอะไร ทำธุรกิจที่นี่ต้องจ่ายภาษี นะเห้ย!!”

“ภาษีอะไร ทำไมข้าต้องจ่าย” เนี้ยหลี่มองเซี่ยวกวงแล้วถามเบาๆ

“ภาษีก็ไอ้ที่เอ็งแลกศิลานี่ไง เอามาก่อน500 ถุงอาหาร ไม่งั้นแกเจอดีแน่” เซี่ยวกวงมองด้วยสีหน้าเย็นชา เปล่งเจตนาฆ่าฟันไปที่เนี้ยหลี ด้วยสภาพร่างกายที่ล่าสัตว์ปีศาจมาจำนวนมาก ทำให้ลักษณะเหมือนกระหายเลือด

“เซี่ยวกวงท่านทำเกินไปไหม” หยุนหลิงก้าวไปข้างหน้าและจองหน้าเซี่ยวกวง

“หยุนหลิง ข้าจะไว้หน้าของพ่อท่านซักครั้ง ข้าจะไม่เอาเรื่องท่าน”เซี่ยวกวงพูดออกมาเบาๆ

เนี้ยหลี่ก้าวไปยืนยิ้มข้างๆหยุนหลิงและกล่าวว่า “โอ้วท่านเซี่ยวกวง แน่นอนแค่500 ถุงอาหารเอง สบายๆ ถ้าต้องการก็เอาไปได้นะ แต่ท่านจะมีความสามารถในการเอาไปหรือเปล่าแค่นั้นเอง”

“โอ้วไอ้คนนอก แกกล้าพูกแบบนี้กับข้า รู้ไหมที่นี่คือที่ไหน ไอ้คนนอก”เซี่ยวกวงโมโหพูดกับเนี้ยหลี่

“ทำไมจะไม่รู้ที่นี่ที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ ผู้นำที่แข็งแกร่งที่นี้ดูเหมือนจะระดับแบล็คโกลขั้นที่1 ช่ายป่ะ ”เนี้ยหลี่ยิ้มเบาๆ

หลังจากที่เซี่ยวกวงพูดข่ม ดูแล้วเนี้ยหลี่ไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนไม่กลัวสิ่งใด เซี่ยวกวงก็แลดูไม่ใช่คนไม่มีสมองดูเนี้ยหลี่ซักพัก ก็ถามว่า”นายมาจากที่ไหน”

“เมืองกลอรี่” เนี้ยหลี่กล่าวแบบลักษณะเหมือนการพูดคุยปกติ

“เมืองกลอรี่ มันอยู่ที่ไหนวะ พวกเอ็งรู้เกี่ยวกับเมืองนั้นไหม” เซี่ยวกวงหันไปถามลูกน้องรอบๆ

“ไม่เคยได้ยินมาก่อน” ลูกน้องของเขาส่ายหัว เพราะจริงๆแล้วไม่เคยมีใครได้ก้าวออกจากที่ราบสูงลิขิตสวรรค์มาก่อนเลย

แปลไทยโดย 
Art Aulakiria

6 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากครับ
    เข้าใจนะครับ คงเจอปัญหามาเยอะ มีวิธีคัดคนไหม ผมอยากสมัครเข้านิกายTDG ครับ

    ตอบลบ
  2. อยากอ่านตอนแรกเรยครับ เอามาลงใหม่อีกได้มั๊ยครับ ขอบคุนคับ

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณครับรับเข้ากลุ้มหน่อยครับ FB.Nonthavat Kruemas

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณทุกๆท่านกับทุกๆตอนที่แปล

    ตอบลบ