บทที่ 186 - เทคนิคจิตวิญญาณดารากร

บทที่ 186 - เทคนิคจิตวิญญาณดารากร

https://www.facebook.com/groups/200491286989237/permalink/216397842065248/

บูม! บูม! บูม!

ภาพที่ทุกคนเห็นต่างตะลึง เงาภูเขากระหน่ำใส่กุ๋ยซา การโจมตีแต่ละครั้งภาพที่เห็นเหมือนครั้งเดียวแต่จริงๆเหมือน สหบาทากร่ะหนำเข้าที่หน้า จนกุ๋ยซา หล่นลงไปที่พื้น

ความรุนแรงนี้ร่างกายของเขาจะทนรับไม่ไหว

ถึงแม้เขาจะเปลี่ยนเป็นร่างของปีศาจแต่มันก็ค่อยๆถึงขีดจำกัด กล้ามเนื้อของเขาคล้ายค่อยฉีดขาดออก

ด้วยอำนาจพลังของอาณาเขตหมื่นอสูรเปรียบยังกับสัตว์เดรัจฉาน!!

อาณาเขตหมื่นอสูรมีประสิทธิภาพสุดยอด เพราะเก็บพลังปีศาจระดับแบล็คโกลเป็นหมื่นๆตัว

เนี้ยหลี่แค่ใช้พลังเพียง 1 ใน 10 ของอาณาเขตหมื่นอสูรนี้ มันก็ฆ่ากุ๋ยซาได้สบายๆแล้ว

เสิ่นฮอง เห็นฉากนี้ ก็เปลี่ยนใจจากวิ่งไปหากุ๋ยซา ก็เปลี่ยนทางเพื่อหลบหนีเอง ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรในเมืองนี้อีกแล้ว ขอแค่หลบหนีได้ก่อน

เอียเซิ่งมองผ่านมาที่เสิ่นฮอง เห็นเสิ่นฮอง วิ่งแบบหนีเป็นหนีตาย เขาคิดในใจไม่เคยคิดว่าจากอดีตที่ผ่านมาจะลงเอยเช่นนี้ ทันใดนั้นดาบของเอียเซิ่งกลายเป็นลำแสง(สัดสตาร์วอ) และยิงไปหาเสิ่นฮอง

“ตั้งแต่ที่เจ้าคิดที่จะทรยศพวกเรา , พวกเราก็ไม่ต้องการเจ้าอีกต่อไป ”

เอียเซิ่งซึ่งเป็นตำนานและทนในสิ่งเสิ่นฮองเป็นกระทำต่อเมืองไม่ได้

วืด!!!!

ดาบทะลุหน้าอกของเสิ่นฮอง

เสิ่นฮองช๊อก เมื่อดาบทะลุผ่านหน้าอกเขา เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะพบจุดจบเช่นนี้ ความฝันที่อยากทำมีมากมายก็หมดสิ้น ดังควันบุหรี่ ตระกูลศักดิ์สิทธิ์ของเขาก่อตั้งมาหลายศตวรรษ แต่ล่มสลายในน้ำมือของเขาเอง

เสิ่นฮองถอนหายใจอย่างช้าๆ ตาของเขาค่อยๆปิดลง เขาเริ่มคิดว่าที่เขาทำไมทั้งหมดเป็นการกระทำที่ผิดหรือเปล่า และนี้คือจุดจบของเขา พลังงานของเขาค่อยๆออกมาจากร่างและสลายขึ้นไปบนฟ้า

หัวหน้าตระกูลอื่นๆร่วมเป็นสักขีพยานในการตายของเสิ่นฮอง

กุ๋ยซาพยายามทนการเจ็บปวดจาการโจมตีของเขา และพยายามรวบรวมพลังเพื่อโต้กลับโจมตีไปที่เงาภูเขาขนาดมหึมาคืน แต่ มันแทบไม่มีผลอะไรเลย

เหลือเพียงแค่การฆ่ากุ๋ยซา,เมืองกลอรี่ ก็จะปลอดภัย

เนี้ยหลียังเพิ่มพลังไปที่อาณาเขตหมื่นอสูรอีก

เมื่อปล่อยพลังอีกครั้งเดียวกุ๋ยซา จะต้องตายอย่างแน่นอน

ทันใดนั้น มีเสียงบูมมมมมมมมมม เงาภูเขาที่โจมตีกุ๋ยซาแตกเป็นเสี่ยงๆ และมีเงาบินอย่างรวดเร็วไปคว้าตัวกุ๋ยซาไว้และบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

เยสเข้ อาณาเขตหมื่นอสูรแตกได้ไง? ผู้ชายคนนี้ มีพลังต้นๆของระดับตำนานแน่ๆ

เนี้ยหลี่มองไปหาคนที่มาคว้าตัวกุ๋ยซาไว้ และเห็นชายคนหนึ่งสวมชุดสีขาว แถมยังเป็นวัยรุ่นและหล่อมาก ซึ่งภายในสมาคมมืดนั้นมีเพียง 2 คนที่เก่งกว่ากุ๋ยซา

เขาไม่คาดคิดว่า 1 ใน 2 คนนั้นจะปรากฏตัว

ในขณะนั้น ระหว่างกุ๋ยซาถูกคว้าตัวไว้ เอียเซิ่งได้กล่าวว่า“จะหลบหนีหรอ??,มันไม่ง่ายอย่างนั้น” เขาได้รวมพลังวานรไร้หางวายุหิมะกับพายุหิมาลัย อัดเขาไปที่ คนที่มาช่วยกุ๋ยซา แถมพลังของหิมะวายุจิตวิญญาณระดับพระเจ้า ด้วยโหมดคึกคำรามไปอย่างรวดเร็ว

กุ๋ยซาลืมตาขึ้นเล็กน้อยเห็นชายหนุ่มสวมผ้าขาวและหายใจออกอย่างโล่งออก กล่าวว่า”หลงซา ทำไมนายถึงอยู่ที่นี้ ….”

ชายหนุ่มสวมผ้าขาวไม่ได้ตอบ แต่จ้องมองไปที่อาณาเขตหมื่นอสูรของเนี้ยหลี และยิ้มมุมปาก “นอกจากเอียมัวแล้วนั้น ข้าเชื่อว่าจอมมารน่าจะสนใจเจ้าเด็กคนนี้”

เมื่อเอียเซิ่งอัดพลังหิมะวายุลมจิตวิญญาณระดับพระเจ้าจนจะถึงตัวแล้วนั้น หลงซาได้นำก้อนหินลึกลับออกมาจากแขนเสื้อทั้งสองข้าง ก้อนหินลึกลับทั้งสองก้อนได้แปลเปลี่ยนรูปร่างและกระจายคลื่น Shockwave กระทบกับร่างกายของเอียเซิ่งกระเด็นกลับออกมา เอียเซิ่งพยายามทำให้ร่างกายหมุนอยู่บนอากาศ เอียเซิ่งพยายามทำให้หยุดนิ่งได้แต่มันก็ทำให้เขากระอักเลือดมา

ไม่มีใครรู้ว่าหินทั้งสองคืออะไร แต่มันมีพลังงานสูงมาก

หลงซา สวมเสื้อสีขาวทำท่านิ่งสงบในขณะที่เขามองไปที่เนี้ยหลีและถามว่า “ข้าสงสัยว่าท่านชื่ออะไร ? ท่านได้ใช้งานเทคนิคจิตวิญญาณดารากร มาแล้วกี่ครั้ง? จากประสบการณ์ของข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องยึดมั่นในการต่อสู้ครั้งนี้มากก็ได้นะ หากท่านสนใจเดินทางไปสมาคมทมิฬกับข้า ข้าจะแจ้งต่อท่านจอมมาร และพวกเราสามารถก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันได้นะ”

ขณะเนี้ยหลี่ยืนอยู่ตรงกลางอาณาเขตหมื่นอสูรและได้ยินคำว่า “จิตวิญญาณดารากร” แต่มันเป็นเทคนิคที่น่ากลัวมา มันเปรียบเสมือนนำเด็ก มาเป็นเครื่องมือในการบูชายันต์โดยปลูกจิตสำนึกของวิญญาณของคนตายไปแล้วไปในร่างกายของเด็กคนนั้น ตราบใตที่จิตวิญญาณไม่ได้รับการทำลายก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้หลายช่วงอายุ แต่มันก็ยังมีผลข้างเคียงมากมายสำหรับวิธีนี้ เพราะต้องทนต่อการทุกข์ทรมาณ เหมือนถูกไฟแผดเผา เลยทีเดียว

มันเป็นไปไม่ได้ ว่าเด็กอย่างเนี้ยหลี่จะสามารถสร้างอาณาเขตหมื่นอสูรมาได้ มันต้องเป็นคนที่มีความรู้มากมายจริงๆจึงจะสร้างได้ ในความคิดของหลงซานั้น เนี้ยหลี่ต้องเป็นผู้ใช้ เทคนิคจิตวิญญาณดารากรแน่นอน แต่สิ่งที่หลงซาไม่ทราบว่าจริงๆแล้วเนี้ยหลี่ไม่ได้ใช้เทคนิคนั้น แต่เนี้ยหลี่ กลับชาติมาเพราะ จาก ตำราจิตปีศาจชั่วขณะ ต่างหาก

เทคนิคจิตวิญญาณดารากร มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่ามันมีเทคนิคนี้

กล่าวคือ โดยปกติมนุษย์นั้นกว่าจะก้าวถึงระดับตำนานต้องใช้เวลานาน และร่างกายก็จะเสื่อมลงตามอายุขัย หลายต่อหลายคนเมื่อไปถึงก็ไม่มีเวลาได้ใช่พลังมากนั้นเพราะต้องแก่ตาย แต่ด้วย เทคนิคจิตวิญญาณดารากร มันเป็นการย้ายจิตวิญญาณและไปครอบครองร่างใหม่ หลังจากนั้นร่างใหม่ก็จะเริ่มฝึกใหม่(ไม่เหมือนมีประสบการณ์)

ผู้ใช้ เทคนิคจิตวิญญาณดารากรนั้น เสมือนได้กลับมาฝึกใหม่ทุกๆครั้งแต่พลังนั้นจะเพิ่มมากขึ้นทวีคูณ

ซึ่งผู้นำของตระกูลทมิฬ ได้ประกาศตัวเองเป็นจอมมาร และมันอาจเป็นไปได้ว่าเขานั้นได้ใช้ เทคนิคจิตวิญญาณดารากร?

หลงซาเป็นเพียงหนุ่ม แต่เป็นถึงหมายเลข 2 ของสมาคมทมิฬ

เนี้ยหลี่ ไม่มีทางปล่อยให้ หลงซาหนีไปมิฉะนั้น มันจะมีปัญหาไม่สิ้นสุด แต่เนี่ยหลี่สังเกตุ ความเทพของคนนี้แล้ว อยู่ในระดับตำนานเป็นอย่างน้อย

เนี้ยหลี่กล่าว“ท่านต้องการสนทนากับข้าหรือ?? แน่นอนท่านต้องหยุดมันให้ได้ก่อน ถือเป็นการทดสอบ ” และเปิดการใช้งานพลังอาณาเขตหมื่นอสูรอีกครั้งและเพิ่มพลังขึ้นไปอีก

อาณาเขตหมื่นอสูรเปิดการใช้งานอย่างรวดเร็ว ปีศาจขนาดยักษ์โผล่บนท้องฟ้ามากมาย และพลังงานทั้งหมดได้หมุนรวมตัวกันที่จุดเดียว

“ฮา แน่นอน” หลงซาพูด และยิ้มมองไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ ว่าเขาแข็งแกร่งและพัฒนาการถึงจะสุดยอดในระดับสูงแล้ว ทำไมต้องกลัวอาณาเขตแบบนี้

ลักษณะของหลงซานั้น ยืนอยู่บนพื้น เสื้อผ้าของเขากระพือลมด้วยใบหน้าจมูกโดง ปากบาง รูปร่างสง่างาม โหดสัดประมาณนั้น

ถ้าใครไม่รู้ตัวตนของเขานั้น เพียงดูจากรูปลักษณ์ภายนอก สาวนับไม่ถ้วนแทบจะพลีกายให้ได้เลย

เนี้ยหลี่จ้องมองไปที่เขา ถ้าเขาเจอคนนี้เดินในเมืองกลอรี่ คงไม่มีใครรู้จักข้า แต่เมื่อได้ยินเพียงชื่อเขา ก็ทำให้ทุกคนนิ่งเลยทีเดียว

ในความคิดของหลงซาและความมั่นใจของเขานั้น แม้เนี้ยหลี่จะใช้พลังงานทั้งหมดของอาณาเขตหมื่นอสูรก็คิดว่าไม่มีประสิทธิภาพ มากพอที่จะทำอะไรเขาได้

สัตว์อสูรระดับแบล็คโกลนับหมื่นตัวในอาณาเขตหมื่นอสูรนั้นได้หมุนรวมร่างกลายเป็นพลังงานเหมือนเข็มยักสีทองแดง และพุ่งไปยัง หลงซา

“หลงซาระวังงงงงงงงงงง อย่าประมาทอาณาเขตหมื่นอสูร”กุ๋ยซารีบพูดอย่างรวดเร็วเพราะเค้าโดนมาแล้ว

หลงซากล่าวด้วยความเยือกเย็นว่า “ไม่เชื่อหรอกว่า อาณาเขตกากๆเพียงนี้จะทำอะไรข้าได้”เร็วๆนี้ข้าได้ข้ามสู้ระดับสุดยอดของตำนานแล้ว ร่างกายข้าเป็นดังผิวหนังมังกรบริสุทธิ์และเป็นโล่ป้องกันการโจมตีได้ทุกชนิด ทำไมข้าต้องกลัวอาณาเขตกากๆเพียงนี้ ข้าแค่ต้องการทดสอบพลังของอาณาเขตหมื่นอสูรเท่านั้น

ทุกคนที่ก้าวสู่ระดับตำนานนั้น ข้ารู้สึกเชิดชูตัวเองมาก ว่าอยู่จุดสูงสุดของโลกในนี้แล้ว ในมุมของเขาเทียบได้ระดับเดียวกับพระเจ้าเลย

เนี้ยหลี่เข้าใจผู้เชี่ยวชาญระดับตำนาน ว่าแข็งแรงเพียงใด และพวกเขาเพียงต้องการที่จะลองและรับการโจมตีเพื่อทดสอบความแข็งแรงเท่านั้น

เห็นความมั่นใจและความเชื่อมันของหลงซาแล้ว เนี้ยหลี่ก็ยิ้มมุมปาก เพราะหลงซาเป็นเหมือนเนี้ยหลี่ในครั้งอดีต ที่มั่นใจในตัวเอง ดูถูกทุกอย่าง ว่าตัวเองเหนือชั้นในทุกๆอย่าง แต่เพราะนั้นทำให้เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะถูกสัตว์ปีศาจไล่ล่าจนหนีทุกมุมโลก ก็เพราะตำราจิตปีศาจชั่วขณะ เนี้ยหลี่ถึงเข้าใจว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า

“อยากลองนักใช่ไหม,ได้เลยยยยย”เนี้ยหลี่ระเบิดพลังออกมาและกำหนดฝ่ามืดของเขาพุ่งไปเพื่อควบคุมและเสริมพลังงานให้อาณาเขต?เพิ่มขึ้นอีก

พลังงานคล้ายเข็มยักษ์ที่ปีศาจหมื่นอสูรรวมตัวกัน เคลื่อนตัวในลักษณ์ปะหนึ่งท้องฟ้าจะมืดมิดครอบคลุมดวงจันทร์ดวงอาทิตย์แรงกดดันมหาศาลพุ่งไปหา หลงซา (นึกภาพโงกุนปล่อยบอลเก็งกินะ)

การตรวจสอบพลังงานของหลงซา คิ้วกระตุก และรู้สึกว่า เพิ่งเคยเห็นพลังงานขนาดนี้ครั้งแรกตั้งแต่มาถึงระดับตำนาน

“เจ๋งโครตตตต”หลงซาไม่ได้หวาดกลัวใดๆ และรวบรวมพลังงานทั้งหมด ร่างกายของเขาใหญ่โตขึ้น หางงอกออกมา ปีกทั้ง 2 ข้างงอกออกจากข้างหลัก และใช้พลังทั้งหมดพุ่งไปหาเข็มยักษ์ที่เนี้ยหลี่ปล่อยออกมา ในฐานนะผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานนั้นจะใช้พลังงานทั้งหมดเพื่อการต่อสู้อันที่สุด

จิตวิญญาณของหลงซานั้น ได้รวมกลายร่าง ปีศาจมังกรสีทองมีปีกซึ่งเป็นสายเลือดมังกรและแข็งแกร่งมากกว่ามังกรพสุธาเกล็ดทมิฬของเอียเซิ่ง

หลงซา กล่าว“มาดูกันว่า พลังของอาณาเขตหมื่นอสูรจะแข็งแกร่งอย่างที่พูดกันจริงๆ” ร่างกายเขานั้นในตามธรรมชาติที่แข็งแกร่งโครตๆ และไม่มีทางคิดว่าอาณาเขตหมื่นอสูจจะสามารถทำอันตรายเขาได้

จบตอน

แปลโดย 

Art Aulakiria