วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2559

บทที่ 189 - ที่ราบสูงลิขิตสวรรค์


บทที่ 189 - ที่ราบสูงลิขิตสวรรค์

คฤหาสเจ้าเมือง

เอียเซิ่งได้รับจดหมายจากเนี้ยหลี่

“เนี้ยหลี่นี่เจ้า ออกไปฝึกจริงหรอ” เอียเซิ่งขมวดคิ้ว ทั้งๆที่ศึกใหญ่ในของเมืองแห่งนี้เพิ่งผ่านพ้นไปและ สมาคมทมิฬก็หนีไป เมืองแห่งนี้รู้สึกปลอดภัยมากเมื่อเนี้ยหลี่อยู่ เอียเซิ่งก็รู้สึกโล่งใจมากเวลาเนี้ยหลี่อยู่เพราะเขาได้ช่วยเมืองนี้ไว้มาก แต่นี่มันก็กระทันหันจริงๆที่เนี้ยหลี่ออกจากเมืองไป

“ก็นะ แม้ว่าจะไปฝึกที่ไกลๆ ก็ยังจะทิ้งสิ่งดีๆเหล่านี้ไว้ที่เมืองอีก”เอียเซิ่งยิ้ม พร้อมส่ายหัวไปด้วย สิ่งที่เนี้ยหลี่ทิ้งไว้ให้กับเมืองนี้ สำคัญจริงๆ สามารถใช้ป้องกันเมืองกลอรี่นี้ได้ และหนึ่งในนั้นมีเทคนิคการบ่มเพาะพลัง แถมยังสอนเทคนิคการบ่มเพาะที่เหมาะสมที่สุดกับวานรไร้หางวายุเหมันต์ให้กับข้าอีก “ขอบใจนะมากนะ ขอให้เดินทางปลอดภัย, เจ้าเด็กเลว”

ณ ตอนนี้ เอียเซิ่งไม่มีความรู้สึกอคติกับ เนี้ยหลี่อีกเลย ในใจของเขาตั้งใจจะให้ เนี้ยหลี่ แต่งงานกับ เอียจืออวิ้น แน่นอนหากถึงวันที่เนี่ยหลี่กลับมา

ที่ห่างไกลจากภูเขาแห่งบรรพบุรุษ ณ ป่าไร้ขอบเขต

เนี้ยหลี่ได้เดินทางอย่างรวดเร็วมากในป่าแห่งนี้ เหมือนเขาจะคุ้นเคยและชำนาญการในเส้นทางมาก ความรู้สึกของเนี้ยหลี่นั้นปลอยภัยมาก แม้จะมีสัตว์ใหญ่อันหน้ากลัวโผล่มาเป็นครั้งคราว

เมื่ออดีตเขาเคยหลบนี้มาเส้นทางนี้แล้วด้วยเทคนิคผสานจิตวิญญาณกับปีศาจเงาในการเคลื่อนไหวนั้น ทำให้เขารู้สึกกระแสพลังและจะเปลี่ยนเส้นทางทันที ก่อนที่สัตว์ร้ายใดๆในป่าแห่งนี้จะมาถึงตัวเขา

ในครั้งก่อนนู้น ชาวเมืองกลอรี่ ที่หนีตายจาก พวกสัตว์อสูรที่มาถล่มเมือง ก็หนีกันมาทางหนีแต่มีเพียงส่วนน้อยมากๆที่จะรอดออกไป บางคนใช้เทคนิคบางอย่างเพื่อหลบซ่อน บางคนหาที่ซ่อนตัวในป่า ทำให้เกิดไปชนเผ่าเล็กๆในป่าแห่งนี้แม้ว่าอันตรายจะมากโข แต่ก็สามารถหลบหนีกันมาได้

ความสามารถในการดำรงชีวิตของมนุษย์นั้นช่างแข็งแกร่งมาก

สถานที่เนี้ยหลี่กำลังมุ่งไปที่แรกนั้น มีมนุษย์อาศัยอยู่ และเขาได้ผ่านมาเมื่อครั้งชีวิตที่แล้ว นั้นคือ สถานที่ๆเรียกว่า ที่ราบสูงลิขิตสวรรค์

ที่ราบสูงลิขิตสวรรค์นั้นเป็นที่ประชุมสุดยอดผู้นำบนภูเขา, หากสังเกตุบริเวณเขาลูกนี้จะถูกแบ่งเป็นส่วนต่างๆและ มีหลายชนเผ่าที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ มีเพียงคนไม่เยอะที่ขึ้นไปถึงที่แห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหัวหน้าชนเผ่าและผู้นำต่างๆ

เนื่องจากที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ อยู่ในภูมิประเทศที่สูงมาก มีเพียงเส้นทางเดียวที่เท่านั้นที่ขึ้นไปได้ แม้แต่สัตว์อสูรยังถือว่ายากมากที่จะมุ่งขึ้นไป ดังนั้นที่นี่ จึงปลอดภัยมากๆ แต่มันหากหลักๆคือเพราะการขึ้นไปยากนั้นเองทำให้คนหลายๆพันคน อดยากขาดแคลน

ภายใต้ที่ราบสูงลิขิตสวรรค์นั้นมีสถานที่หลายๆแหง่ที่น่ากลัว และ ที่อันตรายที่สุดที่รู้จักกันคือที่ๆเรียกว่า ฤดูใบไม้ผลิทมิฬ

ไม่มีใครรู้เลยว่า สถานที่ที่เรียกว่า ฤดูใบไม้ผลิทมิฬนั้น มาจากอะไร เกิดมาได้ยังไง แต่จะรู้ว่ามันเป็นที่ที่มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษที่อยู่บริเวณเหวลึก ซึ่งสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นแข็งแกร่งมากเทียบเท่าหรือสูงกว่าระดับแบล็คโกลซะอีก มีเพียงตำนานเล่าว่า ยังมีสิ่งมีชีวิตหรือสัตว์อสูรระดับตำนานขึ้นไปกลุ่มจำนวนไม่เยอะอาศัยอยู่ในที่แห่งนั้น

ถ้าที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ไม่มีภูมิประเทศแบบนี้ จะไม่มีใครสามารถรอดจากสัตว์อสูรเหล่านั้นได้เลย

ในช่วงเช้า พระอาทิตย์ได้ส่องลงมาที่ที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ เนี้ยหลี่สวมชุดคลุมสั้นๆเดินอยู่บริเวณตลาด

ตลาดบนที่ราบสูงลิขิตสวรรค์คึกคักมาก คนที่นี้แต่งตัวกันเสื้อผ้าจะขาดรุ่งริ่ง ซึ่งแตกต่างจากเนี้ยหลี่เหลือเกินที่ดูสะอาดและเรียบร้อย

“เห้ยเขาคนนั้นเป็นใครนั้น แต่งตัวไม่เหมือนคนแถวนี้เลย ไม่เคยเห็นในที่ประชุมชนเผ่ามาก่อน”หลายคนในตลาดต่างมองเนี้ยหลี่เวลาเดินผ่าน

ในหลายๆร้อยปีที่ผ่านมาไม่เคยมีคนนอกมาที่แห่งนี้ แต่ถึงยังไง พวกในตลาดก็ไม่คิดอะไรมาก

เนี้ยหลีเดินมาได้ซักระยะและได้กลิ่นหอมๆ พร้อมยิ้มมุมมาก มันทำให้นึกถึงชีวิตก่อนที่เขามาที่แห่งนี้ เนี้ยหลี่รีบเดินไปหาทันที่ที่นั้นคือ ร้านโจ๊ก ประจำของเขานั้นเอง

ซึ่งภาพที่เห็น ในครัวกำลังยุ่งและสาวสวยๆกำลังต่อนรับและบริการลูกค้า

“ร้านของชายแก่ตระกูลหยุน อร๊อย อร่อยที่สุด” เนี่ยหลี่กล่าวพร้อมยิ้ม และตะโกนว่า”โจ๊กผงไม้ สองชาม”

หลังจากนั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งถือถาดไม้มาให้และวางโจ๊กร้อนๆทั้ง2 สองถ้วยให้ ผู้หญิงคนนี้อายุประมาณ 16-17 ใส่เสื้อผ้าสีฟ้า แม้เสื้อผ้าจะเก่ามีรอยเย็บมากมาย แต่มันก็ไม่ส่งผลอะไรต่อความงามของเธอ ด้วยคิ้วยาว หน้าเรียวๆ ดวงตาสีฟ้าๆ แก้มนันสีดอกกุหลาบเมื่อใดก็ตามที่เธอยิ้มก็จะมีลักยิ้มบางๆบนแก้มของเธอ มันทำให้รู้สึกสดชื่อ สดใส ,ผมของเธอนั้นยาวประมาณบ่าของเธอ

น้องสาวคนนี้ ชื่อ หยุนหลิง เนี้ยหลี่และน้องสาวคนนี้ได้เคยเจอกันมาก่อนเมื่อชีวิตก่อนหน้า

ในชีวิตก่อนหน้า เนี้ยหลี่มาถึงที่นี่นั้นได้มาพร้อมกับเอียจืออวิ้น ผู้อาวุโสหยุนและน้องสาวหยุนหลิงได้ต้อนรับและดูแลเขาอยู่เป็นเวลานาน และ เมื่อเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้นจำเป็นต้องเดินทางต่อ เนี้ยหลี่จำได้ว่า น้องสาวหยุนหลิงมีน้ำตาและอารมณ์เศร้าๆอยู่เหมือนกัน

หลังจากที่วางชามโจ๊กที่โต๊ะเนี้ยหลี่ เนี้ยหลี่ก็จองมองหน้านาง นางค่อยๆมองมาก็แปลกใจว่า ปกติจะเห็นคนในที่แห่งนี้มามากแต่ไม่เคยเห็นเนี้ยหลี่มาก่อน แต่มันเหมือนมีความรู้สึกดีๆอะไรบางอย่างลึกๆ

หยุนหลิง มือสั่นเล็กน้อยและถามขึ้นว่า “ท่าน ท่านมาจากไหน เราไม่เคยเห็นท่านมาก่อน ท่านไม่ใช่คนที่นี้ใช่ไหม”

“ใช่ๆ ข้ามาจากภายนอก บังเอิญผ่านมา” เนี้ยหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ได้ยินพูดของเนี้ยหลี่ หยุนหลิงตาโตขึ้นมาทันที เพราะหลายร้อยปีที่แห่งนี้ไม่เคยมีใครผ่านเข้ามาก่อน เธอแทบจะคิดว่า ไม่มีที่อื่นที่มีมนุษย์อยู่อีกแล้ว เธอถึงกับตะลึงกับแขกที่มาจากภายนอกทันที

หยุนหลิงนั่งลงที่โต๊ะเนี้ยหลีทันทีพร้อมถาม “ท่านมาจากไหนหรอ? แล้วมายังที่ราบลิขิตสวรรค์แห่งนี้ได้ไง”

“ข้าแค่ตั้งใจจะไปในแทบลึกของเทือกเขาบรรพบุรุษเพื่อฝึกวิชา แค่บังเอิญผ่านมาเท่านั้นเอง” เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมยิ้มเล็กน้อย หยุนหลิงกระพริบตาด้วยใบหน้าเหมือนเด็กกำลังอยากรู้อยากเห็น

“ข้าได้ยินว่าโลกภายนอกมีแต่สัตว์ประหลาที่น่ากลัว แม้อยู่ในเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับออบซิเดียนแบล็ค ก็ยังไม่สามารถเดินทางไปคนเดียวได้ ท่านอยู่ในระดับนั้นหรอ?”หยุนหลิงถาม แถมนึก โอ้วขนาดกล้าไปเทือกเขาแห่งบรรพบุรุษเพื่อฝึกวิชาอีก แสดงว่าเขาต้องแข็งแกร่งมากๆแน่ๆเลย

ผู้เชี่ยวชาญระดับออบซิเดียนแบล็คที่หยุนหลิงถามนั้นถ้าเทียบกับโลกภายนอก คือ ผู้เชี่ยวชาญระดับแบล็คโกล แต่ด้วยที่แห่งนี้ไม่มีเทคนิคการบ่มเพาะดีๆในการฝึกอะไรเลย ทำให้ส่วนใหญ่ผู้ฝึกจะอยู่ใน ระดับโกลขั้นที่1 แค่นั้นเอง

“ข้าไม่ได้เก่งกาจเพียงนั้น แต่ข้ามีวิธีบางอย่างที่สามารถใช้ในการเดินทางและป้องกันอันตรายได้ ทำให้ไม่มีสัตว์อสูรใดๆทำร้ายข้าได้” เนี้ยหลี่กล่าวพร้อมยิ้ม

ทันใดนั้นมีเสียงไม่พอใจดังขึ้นในร้าน

“เห้ยยยย โจ๊กของข้าได้หรือยังเนี้ย นานแล้วนะ”

“ได้แล้วๆ”หยุนหลิงรีบหันไปตอบ จากนั้นเธอก็ถามเนี้ยหลี่”แล้วท่านจะไปไหนต่อนี่หลังจากนี้”

เนี้ยหลี่คิดซักพักหนึ่งและรอบว่า“เด๋วคงไม่หาโรงแรมแถวๆเนี้ย แต่ข้าไม่มีเหรียญทองแดง(มันคือ เงิน)ของเมืองนี่เลยแหะ แล้วจะใช้อะไรจ่ายดีละ แต่ข้าสามารถใช้ของภายนอกแลกเปลี่ยนก่อนได้ไหมนะ?”

ได้ยินเนี้ยหลี่พูด หยุนหลิงนั้นตาโตมาอีกรอบ เพราะเนี้ยหลี่มาจากโลกภายนอก คงมีบางอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ น่าจะใช้แลกเปลี่ยนกับเขาได้

"โอเค ท่านรอข้าซักครู่ เด๋วขอไปเสิร์ฟโจ๊กก่อน เด๋วข้ากลับมา”หยุนหลิงอมยิ้มเล็กน้อย

“โอเค”เนี้ยหลี่พยักหน้า

ระหว่างรอหยุนหลิงไปต้อนรับลูกค้า เนี้ยหลี่ก็กินโจ๊กไปเรื่อยๆพร้อมดูรอบๆ ในบริเวณร้านนี้ยังมีคนมามากมาย และ ร้านขายอุปกรณ์ ต่างๆ มีผู้คนถืออุปกรณ์ อาวุธอันแข็งแกร่งผ่านไปผ่านมารอบๆร้าน

เนื่องจาก ที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ ขาดแคลนอาหาร คนที่นี่ก็ไม่มีทางเลือกที่ต้องล่าสัตว์ปีศาจ หรือ สัตว์อสูร เอามากิน ถึงแม้การล่านั้นจะอันตรายมากๆ แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องทำ ดังนั้นคนที่แข็งแกร่งหลายๆคนก็จะกลายเป็นนักล่าไปด้วยปริยาย

นอกเหนือจากการล่าสัตว์อสูรแล้ว คนแข็งแกร่งเหล่านี้ก็ยังจะรับหน้าที่โหดๆอย่างอื่นด้วย เช่นการเป็นทหารรับจ้าง

จริงๆแล้วในร้านโจ๊กนี้ ก็มีนักล่าหกคนอยู่ในร้าน พวกเขานั้นดูเป็นวัยรุ่น แข็งแกร่ง ตัวใหญ่ และสวมผ้าคลุมอยู่

“น้องสาวหยุนหลิงข้าขอโทษแทนลูกน้องของข้าด้วย มันใจร้อนเกินไป(เรื่องตะโกนว่าโจ๊กเมื่อไหร่จะได้)” นักล่าคนนี้ขอโทษหยุนหลิง พร้อมสงสัยตาหวานๆให้กับนาง

“ไม่เป็นไร ข้าก็ขอโทษด้วยเช่นกันที่ให้ท่านรอนาน” หยุนหลิงกล่าวพร้อมวางโจ๊กลงบนโต๊ะ โจ๊กที่มีเนื้อเป็นชิ้นๆสับมา ก็ถูกส่งให้พวกเขา

ราคาของเนื้อที่สับมาเป็นชิ้นๆในโจ๊กนั้น สำหรับผู้ที่มีเงินเท่านั้นที่จะได้กิน มีเพียงนักล่าไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้ลิ้มรอง หากนักล่าคนอื่นๆเห็นแทบจะอิจฉาเลยทีเดียว

“เอาละ แดกกันนนน”ชายหนุ่มยิ้ม พร้อมแดกโจ๊กทันที

ในที่ราบสูงลิขิตสวรรค์ นอกจากหัวหน้าใหญ่ของสมาคมที่ดูแลทุกอย่างแล้ว ยังมีเสมือนผู้สูงอายุที่อยู่ในตำแหน่ง ผู้คุมกฏทั้ง 5 อยู่อีกซึ่งทั้งหมดจะมีอำนาจในการดูเช่นเดียวกัน

เนี้ยหลี่จำได้ว่า ชายคนที่เป็นหัวหน้านักล่ากลุ่มนี้เป็นลูกชายของผู้คุมกฏคนใดคนหนึ่ง แต่เนี้ยหลี่จำชื่อไม่ได้

หลังจากหยุนหลิงบริการลูกค้าในร้านเสร็จก็รีบมานั่งที่โต๊ะเนี้ยหลี่ทันที่ พร้อมด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มเติม

“ท่านชื่ออารัย ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลย” หยุนหลิงถามพร้อมยิ้มมุมปาก ด้วยลักยิ้มอันน่ารัก

“ข้าชื่อเนี้ยหลี่” เนี่ยหลี่ตอบพร้อมพยักหน้า และในใจลึกๆขอบคุณในชีวิตก่อนหน้าที่หยุนหลิงเธอให้ความช่วยเหลือและตอนรับเอาไว้

“ยินดีที่รู้จักจ้า เนี้ยหลี่ ข้าขอดูสิ่งที่ท่านอยากแลกเปลี่ยนได้ไหม” หยุนหลิงถามพร้อมอยากเห็นสิ่งที่มาจากโลกภายนอก

จบตอน

แปลไทยโดย 
Art Aulakiria

8 ความคิดเห็น: