บทที่ 226 - ศัตรูที่คาดไม่ถึง
มังกรซอมบี้เจ่าหลงแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมทุกคนต่างตกใจกับการปรากฏตัวของมัน ทั้งที่เจ้ามังกรซอมบี้เจ่าหลง ตัวตรงหน้านี้นั้น แทบจะไม่แตกต่างจากตัวอื่นๆ แต่บนหัวของมันกลับมีมุกประหลาดสีชาดที่ล่อทุกสายตาให้จับจ้องอย่างช่วยไม่ได้
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ร่างทั้งหกร่างทะยานขึ้นมาเหนือผิวน้ำ แล้วเข้าโรมรันกับมังกรซอมบี้เจ่าหลง
ยิ่งอายุของมันมากเท่าไหร่ เจ้ามังกรซอมบี้เจ่าหลงก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น ขนาดเนี้ยหลี่เองยังไม่สามารถบอกได้เลยว่า เจ้ามังกรตัวนี้อยู่มาเท่าไหร่แล้ว แต่เมื่อวิเคราะห์ดูจากพลังของมันแล้ว มันน่าจะยังไม่แข็งแกร่งถึงระดับเซียน ไม่งั้นพวกคนทั้งหกคน นั้นได้ตายไปแล้วแน่ๆ
บุคคลทั้งหกที่กำลังสู้กับมังกรซอมบี้เจ่าหลงตอนนี้นั้น ต่างก็เป็นคนรุ่นใหม่ มากพรสวรรค์จากตระกูลใหญ่ๆทั้งนั้น พวกเขาต่างก้อมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง และไม่เกรงกลัวเจ้ามังกรซอมบี้เจ่าหลงเลยแม้แต่น้อย
บู้ม! บู้ม! บู้ม!
ทั้งหกคนต่างพัวพันกับเจ้ามังกรซอมบี้ไม่ยอมปล่อยให้มันไปไหน แถมแต่ละคนยังรอจังหวะฉวยเอาเม็ดมุกบนหน้าผากเจ้ามังกรอยู่ตลอดเวลา เนี้ยหลี่ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายเจ้ามุกสีชาด ถึงแม้ว่าตัวเนี้ยหลี่เอง จะไม่แน่ใจว่ามันจะใช่มุกที่เกิดจากธรรมชาติหรือไม่ แต่เมื่อดูจากพลังอันบริสุทธิ์ที่มันปล่อยออกมา เนี้ยหลี่ก็มันใจได้เลยว่ามันจะต้องเป็นสิ่งล้ำค่ามากแน่ๆ
ทันใดนั้น เจ้ามังกรซอมบี้เจ่าหลงก็ได้แผดเสียงคำรามขึ้นฟ้า พร้อมๆกับที่มีลูกพลังน้ำพุ่งออกจากปากมัน ลูกพลังก้อนนี้พุ่งใส่พื้นที่ๆหนึ่งก่อนจะระเบิดอย่างรุนแรง สะเก็ดน้ำขนาดใหญ่สาดกระเซ็นไปทั่ว ซึ่งหากสะเก็ดน้ำไปสัมผัสถูกผิวใครเข้า ผิวคนนั้นก็จะเปื่อยยุ่ยทันทีพร้อมกับมีควันเหม็นโชยออกมา
“อ๊ากกกกกกกก!” คนที่ถูกสะเก็ดน้ำนี้ต่างกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
และเมื่อสะเก็ดน้ำนี้กระเซ็นมาหาเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้น “ระวัง!” เนี้ยหลี่อุทานเตือนพร้อมกับผลัก เอียจืออวิ้นให้พ้นทาง ส่วนมือซ้ายเขาก็หยิบศิลาบาเรียศักดิ์สิทธิ์มาเรียกใช้งาน
บู้มมม! ลูกสะเก็ดน้ำกรดระเบิดใส่ทั้งเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้น พื้นดินบริเวณที่ทั้งสองเคยอยู่ถูกละลายกลายเป็นหลุมด้วยพิษของสะเก็ดน้ำ แต่เป็นเพราะเนี้ยหลี่ใช้ศิลาบาเรียศักดิ์สิทธิ์และหลบออกมาได้ทันทำให้เขาไม่เป็นอะไร ทว่าหากใช้บาเรียจากศิลาบาเรียศักดิ์สิทธิ์มารับตรงๆละก็ คาดว่าบาเรียคงจะต้านเอาไว้ไม่ได้ เนี้ยหลี่กับเอียจืออวิ้นร่วงลงมาในหลุมใกล้ๆ
กลิ่นสาบสาวส่งกลิ่นหอมลอยออกมาให้เนี้ยหลี่ดอมดมอย่างไม่ตั้งใจ มือของเนี้ยหลี่ตะปบเข้ากับอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่มชวนสัมผัสจนแม้แต่จิตใต้สำนึกของเนี้ยหลี่ยังสั่งออกมาว่า ‘บีบซะ’
และผลที่ตอบรับกลับมาก็คือความรู้สึกที่นุ่มนิ่มและรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ทั้งกลิ่นผมของเอียจืออวิ้นก็ทำให้เนี้ยหลี่รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก และก่อนที่เอียจืออวิ้นจะได้ทันตกใจที่พวกตนตกลงมาในหลุม
เธอก็ตกใจเข้ากับการที่มีเนี้ยหลี่ทับอยู่บนร่างกายเสียก่อน น้ำหนักของอีกฝ่ายทำให้เธอหายใจไม่ค่อยออก และพอเธอรู้สึกถึงสัมผัสแปลกๆบนหน้าอก หน้าเนียนขาวของเธอก็แดงขึ้นมาทันที
“เจ้า...ลุกเลย!” ก่อนหน้านี้ ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่าสิ่งเดียวที่จะตอบแทนเนี้ยหลี่จากการช่วยพ่อของเธอได้ก็คือร่างกายของเธอเอง แต่พอมาตอนนี้เธอจึงรู้แล้วว่า พอมันจะเกิดขึ้นจริงๆเธอกลับยังไม่พร้อมและยังรู้สึกแปลกๆอยู่ (ผิดกับหนิงเอ๋อ เนี้ยหลี่ชวนเข้าห้องนี่จะเขินนิดหน่อยแล้วเดินตามต้อยๆ55)
พอเห็นปฏิกิริยาของเอียจืออวิ้น เนี้ยหลี่ก็รีบลุกขึ้นทันทีก่อนจะปีนกลับขึ้นไปพลางแก้ตัวว่า “อุบัติเหตุ มันเป็นอุบัติเหตุ...”
เอียจืออวิ้นลุกขึ้นทั้งๆที่ยังหน้าแดงก่อนจะพูดเสียงค่อยว่า “อะ..อือ!” (คิดว่า อะ ... อ๊างงง ซะอีก)
พอเห็นท่าทางขวยเขินของเอียจืออวิ้น ในใจของเนี้ยหลี่ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ
เขายื่นมือออกไปช่วยรับเอียจืออวิ้นขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “สะเก็ดน้ำจากมังกรซอมบี้เจ่าหลงนั้นมีฤทธิ์เป็น
กรด เจ้าต้องระวังตัวให้มากๆนะ”
เอียจืออวิ้นทอดสายตามองไปรอบๆ รอบข้างของเธอตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยบ่อหลุมที่เกิดจากลูกสะเก็ดน้ำนั่น พอเห็นแบบนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ
เนี้ยหลี่เดินนำเอียจืออวิ้นกลับไปดูสถานการณ์ ตอนนี้การต่อสู้ของชางหมิง มู่เอีย และอีกสี่คนกับเจ้ามังกรซอมบี้เจ่าหลงนั้นยิ่งดุเดือดมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
บู้ม!
ชางหมิงชกหมัดรัวใส่เจ้ามังกรด้วยหมัดเปล่าๆที่เปลื้อนเลือดเต็มไปหมด ทำให้เจ้ามังกรร้องด้วยความเจ็บปวด เจ้ามังกรสะบัดหางไปมาจนปะทะเข้ากับชายหนุ่มคนหนึ่งเข้า ร่างของชายหนุ่มถูกผลักกระเด็นไปไกลพร้อมกับกระอักเลือดออกมาคำโต
ชางหมิงเพียงแค่เหลือบมองเจ้าหนุ่มนั้นแวบนึง ถึงแม้พวกเขาจะร่วมมือกันจนถึงเมื่อครู่นี้ แต่ตามจริงพวกเขาก็ยังเป็นศัตรูกันอยู่ ซึ่งต่อให้เจ้าพวกนั้นตายชางหมิงก็ไม่ได้สนใจอะไรมันอยู่แล้ว
พอได้ยินเสียงร้องของมังกรซอมบี้เจ่าหลง เนี้ยหลี่ก็คิดในใจว่า ‘ดูท่าว่าเจ้ามังกรซอมบี้เจ่าหลงจะทนได้อีกไม่นานสินะ ถึงเจ้ามังกรตัวนี้จะแข็งแกร่งมากแต่ก็คงยังไม่ใช่คู่มือของนักสู้ระดับตำนานที่ร่วมมือกันสู้’
“ก๊าซซซซ ซซซ ซ!”
จู่ๆมุกสีชาดบนหน้าผากของเจ้ามังกรก็เรืองแสงออกมาอาบทั่วร่างเจ้ามังกรไว้ก่อนจะเผยให้เห็นร่างใหม่ของมัน หนวดคู่หนึ่งงอกยาวออกมาจากมุมปากของมัน เกล็ดเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงชาด
ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!
หางของมันสะบัดฟาดใส่นักสู้อีกสองคน ส่งให้พวกนั้นกระเด็นหลุดออกมาจากวงต่อสู้ เจอแบบนี้ทั้งชางหมิงและมู่เอียก็ถอยออกมาตั้งหลักก่อน
“ใครจะไปรู้วะว่าเจ้ามุกสีแดงนั่นจะทำให้มังกรบ้านั่นเลื่อนระดับขึ้นได้แบบนี้ ต่อจากนี้คงจะสู้ยากขึ้นล่ะนะ!” เนี้ยหลี่นั้นทำเพียงแต่ยืนดูอยู่ห่างๆ ถึงแม้ว่ามุกสีชาดนั้นน่าจะมีมูลค่ามหาศาลก็เถอะ แต่หากเขาพลาดเขาต้องตกตายอย่างแน่นอน เพราะงั้นถ้าไม่เสี่ยงจะดีที่สุด
ทันใดนั้น เนี้ยหลี่ก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสพลังที่คุ้นเคย เนี้ยหลี่มองไปทางฝูงชนแล้วก็พบกับใครคนหนึ่งเข้า...เจ้านั่นคือเอียฮั่นใช่ไหม?
เอียฮั่นกำลังยืนอยู่กับคนของตระกูลวู่กุ๋ยและกำลังชมการต่อสู้จากระยะไกล
เห็นเนี้ยหลี่กำลังจ้องบางอย่างด้วยสายตาแปลกๆ เอียจืออวิ้นจึงมองตามทิศที่เนี้ยหลี่ทอดไป และพอเธอเห็นเอียฮั่น ในใจเธอก็ขุ่นเคืองขึ้นมาทันที ...เป็นเพราะเอียฮั่น เธอจึงเกือบเสียพ่อไป กับเอียฮั่นแล้ว สิ่งที่เธอมีให้ มีแค่ความเกลียดชังและเดือดดาล
หลังจากรู้สึกว่ามีใครกำลังมองอยู่ เอียฮั่นจึงมองไปยังทิศนั้น และเมื่อเขาพบเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้น แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที พวกนั้นคือเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้นจริงๆ... เป็นเพราะเนี้ยหลี่ ที่ทำให้เขาต้องเสียทุกสิ่งทุกอย่าง และต้องหนีหัวซุกหัวซุนอย่างหมาจนตรอก และยิ่งเห็นว่าเอียจืออวิ้นอยู่ด้วยกันกับเนี้ยหลี่ ในใจของเอียฮั่นก็เต็มไปด้วยไฟแค้น
“ถ้าพวกเจ้าคิดจะมาตายกันที่นี่เอง อย่าโทษว่าข้าผิดล่ะ!” เอียฮั่นกำหมัดแน่นจนมีเสียงกระดูกกระทบกัน ตอนนี้คนของตระกูลวู่กุ๋ยที่ยืนกับเอียฮั่นมีกันประมาณยี่สิบคน คนที่อยู่หน้าสุดเป็นชายหนุ่มหุ่นล่ำที่สวมเซตชุดเกราะสีเงินและแบกดาบใหญ่สีเงินวาวไว้อยู่ ออร่าอันตรายถูกแผ่ออกมาจากตัวเขาตลอดเวลา
เอียฮั่นกระซิบข้างหูชายคนนั้นว่า “นายน้อยวู่หยู สองคนนั้นเป็นคนจากเมืองกลอรี่!” วู่หยูเหลือบไปมองเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้น ก่อนจะหรี่ตามองเอียจืออวิ้นให้ชัดๆ จนเมื่อเห็นใบหน้าของเอียจืออวิ้นชัดๆแล้ว ตาของเขาก็ฉายแววสนใจ ในทุกๆเผ่าพันธุ์ มนุษย์นั้นเป็นเผ่าที่เพศหญิงงดงามที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะยังเด็กแต่หากโตกว่านี้อีกหน่อยจะต้องงามจนหาใครเปรียบได้ยากแน่ๆ
“มาจากเมืองกลอรี่เหรอ พวกมันแข็งแกร่งระดับไหน” วู่หยูถามเอียฮั่น
“ตามที่ข้าจำได้ ทั้งสองนั้นน่าจะยังอยู่เพียงแค่ระดับโกลเท่านั้น” เอียฮั่นกล่าวหลังจากหยุดคิดชั่วครู่ ในวันที่เขาหลบหนีจากเมืองกลอรี่นั้น ทั้งเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้นยังอยู่เพียงระดับโกลเท่านั้น
“ไอ้บ้า หากพวกมันยังอยู่เพียงระดับโกล คิดเหรอว่าพวกมันจะกล้าเข้ามาเหยียบหอคอยมรณะเก้าชั้น?” วู่หยูเอ็ด พอได้ฟังวู่หยูกล่าว เอียฮั่นก็หน้าเจื่อนทันที
มันก็จริงล่ะนะที่คงไม่มีใครที่อยู่ระดับโกลจะกล้าเข้ามาป้วนเปี้ยนในหอคอยมรณะเก้าชั้นนี้ เป็นไปได้ไหมว่าพวกนั้นจะเลยระดับโกลมาแล้ว? ...เป็นไปไม่ได้... ถึงจะมีอัตราการฝึกฝนที่รวดเร็วมากขนาดไหน แต่ก็ไม่น่าจะเร็วได้ขนาดนี้ อัตราการฝึกรวดเร็วขนาดนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่ๆ!
“เป็นไปได้ว่าทั้งสองถูกใครพามาด้วย แต่อาจจะพัดหลงกันก็ได้...”
เอียฮั่นตอบกลับหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่เชื่อแน่ๆว่าทั้งเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้นจะฝึกได้รวดเร็วจนเขาตามไม่ทันแม้แต่ฝุ่น วู่หยูฟังแล้วคิดตาม ก่อนจะส่งคนไปหาเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้น
“เนี้ยหลี่ พวกนั้นมาแล้ว” เอียจืออวิ้นเพ่งมองพวกนั้นอย่างใจจดใจจ่อ มือขวาของเธอกำอัญมณีจิตวิญญาณน้ำแข็งไว้แน่น เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ ด้วยระดับขั้นของเธอ เธอสามารถใช้พลังของอัญมณีจิตวิญญาณน้ำแข็งได้อย่างเต็มที่ และนั่นทำให้ความสามารถของเธอเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
ตรงกันข้ามกับเอียจืออวิ้น ตัวเนี้ยหลี่นั้นยังคงสงบและก้าวเท้าเดินไปหานักสู้จากตระกูลวู่กุ๋ย เขาไม่กลัวเจ้าเอียฮั่นนั่นหรอก จะกลัวก็แต่ว่ามันจะวิ่งหนีหางจุกตูดเสียมากกว่า ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เขาคงจะหัวเสียมากแน่ๆ พอเห็นท่าทางของเนี้ยหลี่ ตาของวู่หยูก็หรี่ลงเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ว่าเนี้ยหลี่นั้นอยู่เพียงระดับแบล็คโกลด์เท่านั้น แล้วเจ้าแบล็คโกลด์นั่นจะทำอะไรพวกตนที่มีพวกมากกว่าได้? มันไปเอาความมั่นใจผิดๆแบบนี้มาจากไหน?
“เอียฮั่น ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้ามายืนโชวหราให้ข้าเห็นตัวแบบนี้ วันนี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่จนกว่าข้าจะได้คิดบัญชีกับเจ้า!” เนี้ยหลี่จ้องเขม็งไปที่เอียฮั่น ไอ้คนทรยศ! คนที่กล้ากบฏเมืองกลอรี่ที่เขารักมันต้องถูกเขาสั่งสอนด้วยตัวเอง!!!
“เนี้ยหลี่ แกมันโอหังเกินไปแล้ว นี่แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกันห้ะ? ที่นี่คือดินแดนใต้พิภพนะไม่ใช่เมืองกลอรี่! แล้วเมื่อกี้แกพูดว่าจะสั่งสอนใครกัน...หา!” เอียฮั่นแค่นเสียงใส่เนี้ยหลี่ด้วยความเดือดดาล
วู่หยูยืนกอดอกจ้องไปทางเนี้ยหลี่ “เจ้าหนู เจ้าช่างกล้ายิ่งนัก! ต่อหน้าข้า ‘วู่หยู’ เจ้ายังกล้าทำตัวโอหังอีก หากเจ้ายอมก้มหัวให้ข้า ข้าอาจจะใจดีปล่อยเจ้าไป แต่หากเจ้ายังทำตัวกร่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงแบบนี้ต่อไป อย่ามาตำหนิทีหลังว่าข้าโหดเกินไปล่ะ!”
เนี้ยหลี่เหลือบสายตาไปมองวู่หยูและพรรคพวก เขาระบายยิ้มแล้วกล่าวว่า “ถ้าพวกเจ้ายอมปล่อยเอียฮั่นมาให้ข้า เรื่องนี้ก็จะจบกันไป แต่หากปฏิเสธ...ถ้าข้าทำอะไรลงไปอย่ามาว่าข้าทีหลังล่ะ! ” พอเห็นสายตาและคำพูดเนี้ยหลี่
วู่หยูก็รู้สึกรำคาญขึ้นมาตะหงิดๆ
เจ้าบ้านี่มันไปกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าถึงได้หาญกล้ามาทำตัวกร่างแบบนี้ ในกลุ่มของวู่หยูนั้นทุกคนต่างอยู่ระดับแบล็คโกลด์กันหมดแล้ว แถมยังมีอีกสองคนที่อยู่ระดับตำนาน แล้วเจ้าเด็กบ้านี่มีดีอะไรถึงได้กล้ามาทำตัวกร่างแบบนี้?
จบตอน
แปลไทยโดย
เอียฮั่นกำลังยืนอยู่กับคนของตระกูลวู่กุ๋ยและกำลังชมการต่อสู้จากระยะไกล
เห็นเนี้ยหลี่กำลังจ้องบางอย่างด้วยสายตาแปลกๆ เอียจืออวิ้นจึงมองตามทิศที่เนี้ยหลี่ทอดไป และพอเธอเห็นเอียฮั่น ในใจเธอก็ขุ่นเคืองขึ้นมาทันที ...เป็นเพราะเอียฮั่น เธอจึงเกือบเสียพ่อไป กับเอียฮั่นแล้ว สิ่งที่เธอมีให้ มีแค่ความเกลียดชังและเดือดดาล
หลังจากรู้สึกว่ามีใครกำลังมองอยู่ เอียฮั่นจึงมองไปยังทิศนั้น และเมื่อเขาพบเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้น แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที พวกนั้นคือเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้นจริงๆ... เป็นเพราะเนี้ยหลี่ ที่ทำให้เขาต้องเสียทุกสิ่งทุกอย่าง และต้องหนีหัวซุกหัวซุนอย่างหมาจนตรอก และยิ่งเห็นว่าเอียจืออวิ้นอยู่ด้วยกันกับเนี้ยหลี่ ในใจของเอียฮั่นก็เต็มไปด้วยไฟแค้น
“ถ้าพวกเจ้าคิดจะมาตายกันที่นี่เอง อย่าโทษว่าข้าผิดล่ะ!” เอียฮั่นกำหมัดแน่นจนมีเสียงกระดูกกระทบกัน ตอนนี้คนของตระกูลวู่กุ๋ยที่ยืนกับเอียฮั่นมีกันประมาณยี่สิบคน คนที่อยู่หน้าสุดเป็นชายหนุ่มหุ่นล่ำที่สวมเซตชุดเกราะสีเงินและแบกดาบใหญ่สีเงินวาวไว้อยู่ ออร่าอันตรายถูกแผ่ออกมาจากตัวเขาตลอดเวลา
เอียฮั่นกระซิบข้างหูชายคนนั้นว่า “นายน้อยวู่หยู สองคนนั้นเป็นคนจากเมืองกลอรี่!” วู่หยูเหลือบไปมองเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้น ก่อนจะหรี่ตามองเอียจืออวิ้นให้ชัดๆ จนเมื่อเห็นใบหน้าของเอียจืออวิ้นชัดๆแล้ว ตาของเขาก็ฉายแววสนใจ ในทุกๆเผ่าพันธุ์ มนุษย์นั้นเป็นเผ่าที่เพศหญิงงดงามที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะยังเด็กแต่หากโตกว่านี้อีกหน่อยจะต้องงามจนหาใครเปรียบได้ยากแน่ๆ
“มาจากเมืองกลอรี่เหรอ พวกมันแข็งแกร่งระดับไหน” วู่หยูถามเอียฮั่น
“ตามที่ข้าจำได้ ทั้งสองนั้นน่าจะยังอยู่เพียงแค่ระดับโกลเท่านั้น” เอียฮั่นกล่าวหลังจากหยุดคิดชั่วครู่ ในวันที่เขาหลบหนีจากเมืองกลอรี่นั้น ทั้งเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้นยังอยู่เพียงระดับโกลเท่านั้น
“ไอ้บ้า หากพวกมันยังอยู่เพียงระดับโกล คิดเหรอว่าพวกมันจะกล้าเข้ามาเหยียบหอคอยมรณะเก้าชั้น?” วู่หยูเอ็ด พอได้ฟังวู่หยูกล่าว เอียฮั่นก็หน้าเจื่อนทันที
มันก็จริงล่ะนะที่คงไม่มีใครที่อยู่ระดับโกลจะกล้าเข้ามาป้วนเปี้ยนในหอคอยมรณะเก้าชั้นนี้ เป็นไปได้ไหมว่าพวกนั้นจะเลยระดับโกลมาแล้ว? ...เป็นไปไม่ได้... ถึงจะมีอัตราการฝึกฝนที่รวดเร็วมากขนาดไหน แต่ก็ไม่น่าจะเร็วได้ขนาดนี้ อัตราการฝึกรวดเร็วขนาดนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้แน่ๆ!
“เป็นไปได้ว่าทั้งสองถูกใครพามาด้วย แต่อาจจะพัดหลงกันก็ได้...”
เอียฮั่นตอบกลับหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่เชื่อแน่ๆว่าทั้งเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้นจะฝึกได้รวดเร็วจนเขาตามไม่ทันแม้แต่ฝุ่น วู่หยูฟังแล้วคิดตาม ก่อนจะส่งคนไปหาเนี้ยหลี่และเอียจืออวิ้น
“เนี้ยหลี่ พวกนั้นมาแล้ว” เอียจืออวิ้นเพ่งมองพวกนั้นอย่างใจจดใจจ่อ มือขวาของเธอกำอัญมณีจิตวิญญาณน้ำแข็งไว้แน่น เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ ด้วยระดับขั้นของเธอ เธอสามารถใช้พลังของอัญมณีจิตวิญญาณน้ำแข็งได้อย่างเต็มที่ และนั่นทำให้ความสามารถของเธอเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
ตรงกันข้ามกับเอียจืออวิ้น ตัวเนี้ยหลี่นั้นยังคงสงบและก้าวเท้าเดินไปหานักสู้จากตระกูลวู่กุ๋ย เขาไม่กลัวเจ้าเอียฮั่นนั่นหรอก จะกลัวก็แต่ว่ามันจะวิ่งหนีหางจุกตูดเสียมากกว่า ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เขาคงจะหัวเสียมากแน่ๆ พอเห็นท่าทางของเนี้ยหลี่ ตาของวู่หยูก็หรี่ลงเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ว่าเนี้ยหลี่นั้นอยู่เพียงระดับแบล็คโกลด์เท่านั้น แล้วเจ้าแบล็คโกลด์นั่นจะทำอะไรพวกตนที่มีพวกมากกว่าได้? มันไปเอาความมั่นใจผิดๆแบบนี้มาจากไหน?
“เอียฮั่น ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะกล้ามายืนโชวหราให้ข้าเห็นตัวแบบนี้ วันนี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่จนกว่าข้าจะได้คิดบัญชีกับเจ้า!” เนี้ยหลี่จ้องเขม็งไปที่เอียฮั่น ไอ้คนทรยศ! คนที่กล้ากบฏเมืองกลอรี่ที่เขารักมันต้องถูกเขาสั่งสอนด้วยตัวเอง!!!
“เนี้ยหลี่ แกมันโอหังเกินไปแล้ว นี่แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกันห้ะ? ที่นี่คือดินแดนใต้พิภพนะไม่ใช่เมืองกลอรี่! แล้วเมื่อกี้แกพูดว่าจะสั่งสอนใครกัน...หา!” เอียฮั่นแค่นเสียงใส่เนี้ยหลี่ด้วยความเดือดดาล
วู่หยูยืนกอดอกจ้องไปทางเนี้ยหลี่ “เจ้าหนู เจ้าช่างกล้ายิ่งนัก! ต่อหน้าข้า ‘วู่หยู’ เจ้ายังกล้าทำตัวโอหังอีก หากเจ้ายอมก้มหัวให้ข้า ข้าอาจจะใจดีปล่อยเจ้าไป แต่หากเจ้ายังทำตัวกร่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงแบบนี้ต่อไป อย่ามาตำหนิทีหลังว่าข้าโหดเกินไปล่ะ!”
เนี้ยหลี่เหลือบสายตาไปมองวู่หยูและพรรคพวก เขาระบายยิ้มแล้วกล่าวว่า “ถ้าพวกเจ้ายอมปล่อยเอียฮั่นมาให้ข้า เรื่องนี้ก็จะจบกันไป แต่หากปฏิเสธ...ถ้าข้าทำอะไรลงไปอย่ามาว่าข้าทีหลังล่ะ! ” พอเห็นสายตาและคำพูดเนี้ยหลี่
วู่หยูก็รู้สึกรำคาญขึ้นมาตะหงิดๆ
เจ้าบ้านี่มันไปกินอะไรผิดสำแดงมารึเปล่าถึงได้หาญกล้ามาทำตัวกร่างแบบนี้ ในกลุ่มของวู่หยูนั้นทุกคนต่างอยู่ระดับแบล็คโกลด์กันหมดแล้ว แถมยังมีอีกสองคนที่อยู่ระดับตำนาน แล้วเจ้าเด็กบ้านี่มีดีอะไรถึงได้กล้ามาทำตัวกร่างแบบนี้?
จบตอน
แปลไทยโดย
อ๊ากก ค้างง ขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณค่ะ จะให้ใครเป็นแบทแมนกับซุปเปอร์แมนดีล่ะ
ตอบลบมาแต่เช้าเลย ขอบคุนคับ
ตอบลบสุดยอดเลย แอด เข้ามาดูมีสามตอนเลย ขอบคุณครับบบบบ
ตอบลบสุดยอดเลย แอด เข้ามาดูมีสามตอนเลย ขอบคุณครับบบบบ
ตอบลบขอบคุณครับ ตอนต่อไปจะดูแบคโกลตบตำนาน 555+
ตอบลบขอบพระคุณมากครับ
ตอบลบขอบคุณ มาก ครับ ขอ เข้า กลุ่ม หน่อย ครับ ท่าน แมงปอปีกบาง ตะกอนของอากาศ เฟส ID Bob Bang
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบขอบคุณคับ
ตอบลบขอบคุณมากครับ ขอเป็นหนึ่งกำลังใจให้ผู้แปลนะครับ
ตอบลบ.........จากผู้เสพติดการอ่าน Apiwat Aui
ขอบคุณมากๆนะครับ ที่แปลให้อ่าน
ตอบลบขอบคุณครับรับเข้ากลุ้มหน่อยครับ FB.Nonthavat Kruemas
ตอบลบ